|
รู้ทันก่อนซื้อประกันภัยบ้าน |
บ้านเป็นหนึ่งในปัจจัยสี่ที่สำคัญ และถือว่าเป็นทรัพย์สินที่มีมูลค่าสูง ดังนั้นเมื่อซื้อบ้านก็ควรคำนึงถึงสิ่งไม่คาดคิดที่อาจจะเกิดขึ้นด้วย การทำประกันภัยบ้านจะเป็นหลักประกันที่จะมาแบ่งเบาภาระทางการเงินที่เกิดขึ้นจากเหตุการณ์ไม่คาดคิดเหล่านั้น ซึ่งอาจครอบคลุมความคุ้มครองกรณีโจรกรรม ไฟไหม้ น้ำท่วม และภัยอันตรายต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวบ้านและทรัพย์สินภายในบ้าน ผมมีคำแนะนำในการพิจารณาเลือกซื้อกรมธรรม์ประกันดังนี้
1. ตรวจสอบบริษัทประกันหลาย ๆ แห่ง เพื่อเปรียบเทียบราคาและความคุ้มครองต่าง ๆ โดยอาจสอบถามขอคำแนะนำจากคนรู้จัก รวมถึงเปรียบเทียบความสะดวกและความรวดเร็วในการจ่ายค่าสินไหมทดแทน
2. การประกันภัยจะประกันเฉพาะตัวบ้าน (โครงสร้าง หรือทรัพย์สินในบ้าน) ไม่ใช่ที่ดิน ไม่เกี่ยวกับที่ดินรอบ ๆ บ้าน ดังนั้นหากทำประกันภัยบ้าน ก็ไม่ควรนำมูลค่าของที่ดินไปรวมเป็นทุนประกัน เพราะถ้าทำเช่นนั้นเราจะต้องเสียเงินค่าเบี้ยประกันที่แพงโดยไม่จำเป็น
3. ค่าเบี้ยประกันภัย จะพิจารณาจากอุปกรณ์ป้องกันความปลอดภัย เช่น ระบบสัญญาณกันขโมย กุญแจนิรภัย สปริงเกลอร์ หรือถังดับเพลิง เป็นต้น ดังนั้นหากกำลังจะพิจารณาซื้อบ้านใหม่ อยากแนะนำให้ลองดูว่าทางโครงการฯ มีอุปกรณ์ป้องกันภัยอะไรติดตั้งให้บ้าง เพราะจะมีผลถึงค่าเบี้ยประกันภัยบ้านที่ถูกลง และหากบ้านที่กำลังซื้อเป็นบ้านมือสองที่เจ้าของเดิมยังผ่อนกับธนาคารไม่หมด ก็ควรตรวจสอบว่าบ้านหลังนั้นมีประกันอยู่แล้วหรือไม่ โดยทั่วไปแล้วธนาคารที่เป็นเจ้าหนี้ มักจะให้เจ้าของบ้านทำประกันภัยบ้านทั้งสิ้น ดังนั้นหากบ้านมือสองที่ซื้อมีประกันอยู่แล้ว ก็สามารถสลักหลังโอนกรมธรรม์ได้ และหากต้องการซื้อเพิ่มเติมตามความจำเป็นก็สามารถทำได้เช่นกัน
4. เพิ่มระบบการป้องกันและอุปกรณ์รักษาความปลอดภัย หากบ้านเดิมของเราหรือบ้านใหม่ที่เพิ่งซื้อไม่มีระบบ/อุปกรณ์รักษาความปลอดภัย เราก็ควรจะติดตั้งเพิ่มก่อนทำประกันภัยบ้าน เพื่อที่ค่าเบี้ยประกันจะได้ถูกลง
5. การประกันภัยหมู่ขององค์กร บริษัท จะทำให้ค่าเบี้ยประกันภัยถูกลง ดังนั้น หากกำลังวางแผนจะซื้อประกันภัยบ้าน ขอแนะนำให้ลองสอบถามกับบริษัท/องค์กรที่ตนเองสังกัดอยู่ก่อน
6. อย่าเปลี่ยนบริษัทประกันบ่อย เพราะจะทำให้ไม่ได้รับส่วนลดรายปี โดยปกติแล้วบริษัทประกันจะมีส่วนลดค่าเบี้ยประกันให้กับลูกค้าที่มีประวัติดี รวมถึงผู้ที่ไม่สูบบุหรี่
7. หมั่นตรวจสอบรายละเอียดของกรมธรรม์ทุกปี เพื่อที่จะเปลี่ยนแปลงรายละเอียดของความคุ้มครองได้ เช่น หากได้ขายชุดเฟอร์นิเจอร์ไปเมื่อปีที่แล้ว ก็ไม่จำเป็นต้องจ่ายค่าเบี้ยประกันที่ครอบคลุมถึงเฟอร์นิเจอร์ชุดนั้นอีก หรือหากมีการซื้อเครื่องประดับมาใหม่ ก็สามารถแจ้งบริษัทประกันเพื่อเพิ่มความคุ้มครองให้กับเครื่องประดับชิ้นนั้นได้นะครับ
การซื้อประกันภัย หากไม่พิจารณาให้ดี ก็อาจจะไม่ได้รับความคุ้มครองตามกฎหมาย และอาจต้องเสียเงินค่าเบี้ยประกันภัยโดยเปล่าประโยชน์นะครับ.
|
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 8 มีนาคม 2556
จำนวนผู้อ่าน : 4568 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|