คอนโด, บ้านจัดสรร, บ้านโครงการ,คอนโดมิเนียม,บ้านเดี่ยว, บ้านมือสอง,บ้านเช่า,ขายบ้าน, ที่ดิน, ตกแต่งบ้าน
อัพเดตล่าสุดวันที่ 27/7/2567
หน้าแรก | บ้าน คอนโด บ้านมือสอง | ประกาศ ซื้อขายบ้าน คอนโด ที่ดิน | สินเชื่อ | ตกแต่งบ้าน | เรื่องน่ารู้ | ไลฟ์สไตล์ | ลงประกาศซื้อขายฟรี
 
User Name
Password
เมนูหลัก
สมัครสมาชิก ลงประกาศ
ลืมรหัสผ่าน
ลงประกาศซื้อขาย
ค้นหาประกาศซื้อขาย
คู่มือซื้อขายบ้าน
ติดต่อสอบถาม

11 วิธีประหยัดค่าแอร์โดยไม่ต้องลงทุน

11 วิธีต่อไปนี้  จะช่วยเราประหยัดพลังงานและพลังเงินของเราโดยไม่ต้องลงทุน  หลายวิธีที่จะกล่าวถึงนี้  อาจเป็นวิธีง่ายๆ ที่เราคิดไม่ถึงหรือเห็นเป็นเรื่องเล็กน้อย  แต่ถ้าเราพร้อมใจกันปฏิบัติอย่างถูกต้อง  จะช่วยประหยัดพลังงานและค่าไฟได้อย่างไม่น่าเชื่อ

1. ปิดพัดลมระบายอากาศเมื่อไม่จำเป็น
             ในห้องปรับอากาศมักติดตั้งพัดลมระบายอากาศไว้สำหรับระบายอากาศออกจากห้อง ปรับอากาศ  โดยเฉพาะอย่างยิ่งห้องที่มีกลิ่นหรือควันจากการสูบบุหรี่  เมื่อมีการระบายอากาศออกจากห้อง  ก็จะมีอากาศในปริมาณเท่ากันไหลเข้ามาในห้อง  เพื่อทดแทนอากาศส่วนที่ถูกระบายทิ้งออกไป  อากาศจากภายนอกที่ไหลเข้าแทนที่นี้  ทำให้เครื่องปรับอากาศต้องทำงานหนักขึ้น  เพื่อทำให้อากาศร้อนจากภายนอกที่เข้ามาเย็นลงจนเท่ากับอากาศภายในห้อง  พัดลมระบายอากาศนี้มีความจำเป็น  หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานมาก  หรือมีกลิ่นจากเอกสาร, อาหาร หรือควันบุหรี่  แต่หากเป็นห้องที่มีคนใช้งานไม่มาก  และไม่มีกลิ่นรบกวน  ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ  ทั้งนี้เนื่องจาก  โดยธรรมชาติจะมีอากาศรั่วซึมผ่านทางกรอบประตูหน้าต่างอยู่ในปริมาณหนึ่งอยู่ แล้ว  ซึ่งเพียงพอสำหรับใช้ในการหายใจ  นอกจากนี้ หากเป็นห้องประชุม  ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศ  เพื่อให้อากาศเย็นก่อนจะมีคนเข้าใช้ห้อง  ก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ  ให้รอจนมีคนเข้าใช้ห้องประชุมเป็นจำนวนมากก่อน  จึงเปิดพัดลมระบายอากาศก็ได้

2. ตั้งปิดจอคอมพิวเตอร์เมื่อใช้งาน
             ในสำนักงานสมัยใหม่มีการใช้เครื่องคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น  ความร้อนจากเครื่องคอมพิวเตอร์เป็นภาระมากขึ้นเรื่อยๆ สำหรับเครื่องปรับอากาศ  เครื่องคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคลหนึ่งเครื่อง  จะปล่อยความร้อนออกมาโดยประมาณ 250 วัตต์  โดยส่วนใหญ่จะเป็นความร้อนจากจอมอนิเตอร์ประมาณ 180-200 วัตต์  โดยปกติแล้ว  เครื่องคอมพิวเตอร์จะไม่ได้ถูกใช้งานตลอดเวลา  ดังนั้นผู้ผลิตโปรแกรม  จึงมีส่วนที่ให้ผู้ใช้สามารถตั้งโปรแกรมให้จอมอนิเตอร์ปิดโดยอัตโนมัติ  เมื่อไม่ได้สัมผัสคีย์บอร์ด  หรือเมาส์ในระยะเวลาหนึ่ง  สำหรับผู้ใช้  Window 98 การตั้งเวลาสามารถทำได้  ดังนี้

             1. เลือก  My  computer
             2. เลือก Control Panel
             3.เลือก Power  Management
             4. ตั้งค่า Power  schemes เป็น Home/Office Desk
             3. ตั้งอุณหภูมิ 200C แล้วเปิดพัดลมเสริม

ความเย็นสบาย หรือความสบายเชิงความร้อน (Thermal  Comfort) เกิดขึ้นได้จากการมีปัจจัยหลัก 3 ประการที่สมดุลกัน คือ
             1. อุณหภูมิ
             2. ความชื้นสัมพัทธ์
             3. ความเร็วลม

             หากต้องการระดับความสบายเท่าเดิม  เมื่อปัจจัยหนึ่งเปลี่ยนก็สามารถเปลี่ยนปัจจัยอื่นเป็นการทดแทนได้  การตั้งอุณหภูมิในห้องสูงขึ้น  จะประหยัดพลังงานได้  โดยปกติแล้วก็ตั้งได้สูงสุดประมาณ 25-260C มิฉะนั้นจะร้อนเกินไป  แต่ถ้าเราเปิดพัดลมช่วยเพิ่มความเร็วลมในห้อง  เราจะสามารถตั้งอุณหภูมิได้สูงถึง 28-300C โดยยังเย็นสบายเหมือนเดิม (มีระดับความสบายเชิงความร้อนเท่ากัน) โดยจะช่วยประหยัดพลังงานได้มาก

4. นำตู้มาตั้งชิดผนังด้านตะวันออกหรือตะวันตก
          ผนังด้านที่มีความร้อนเข้ามามากที่สุด ด้านตะวันออก และตะวันตก  นอกจากความร้อนที่ผ่านผนังเข้ามาแล้ว  เวลาที่แสงอาทิตย์ส่องถูกผนัง  จะทำให้ผนังมีอุณหภูมิร้อนขึ้นมาก  และจนแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคน  ซึ่งจะทำให้คนรู้สึกร้อนขึ้น  แม้อุณหภูมิในห้องจะเท่าเดิม  ในห้องที่มีสภาพนี้จะต้องตั้งอุณหภูมิเครื่องปรับอากาศที่ประมาณ 21-220C จึงจะรู้สึกเย็นสบาย  แต่เป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น  การนำตู้ไปตั้งชิดผนัง  จะช่วยป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังได้  ดังนั้นจึงไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติ  ในห้องที่ผนังห้องไม่ร้อน  การตั้งอุณหภูมิที่ 250C ก็เย็นสบายเพียงพอ  นอกจากป้องกันการแผ่รังสีความร้อนจากผนังแล้ว  การมีตู้ตั้งชนิดผนังห้อง  โดยเฉพาะอย่างยิ่งหากผนังด้านนั้นมีกระจกด้วย  จะทำให้อุณหภูมิในตู้สูงกว่าอุณหภูมิห้อง ดังนั้น  จึงควรระมัดระวังกรณีที่สิ่งของภายในตู้ไม่สามารถทนความร้อนได้

5. ปิดแอร์เมื่อไม่ใช้ และอย่าเปิดทิ้งไว้ในขณะปิดแอร์
          ระบบปรับอากาศ (แบบน้ำเย็น) ใช้พลังงานไฟฟ้าประมาณ 1x 5 x 4 = 20 หน่วย คิดเป็นเงินประมาณ 20 x 3 = 60 บาท(ค่าไฟเฉลี่ยประมาณ 3 บาทต่อหน่วย) ในอาคารทั่วไปๆ ค่าไฟฟ้าที่จ่ายไปกว่าครึ่งหนึ่งเป็นค่าไฟของระบบปรับอากาศ  การเปิดเครื่องปรับอากาศเมื่อไม่ใช้ห้องปรับอากาศจะสามารถช่วยประหยัด พลังงานได้โดยไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายใดๆ  แต่ในขณะที่เปิดเครื่องปรับอากาศนั้น  จะต้องไม่เปิดประตูหน้าต่างทิ้งไว้  มิฉะนั้นความร้อนและความชื้นจากภายนอกจะเข้าไปในห้องปรับอากาศและจะสะสมอยู่ ที่ พื้น, ผนัง, เฟอร์นิเจอร์, พรม, กระดาษ, ผ้าม่าน ฯลฯ  เมื่อเปิดเครื่องปรับอากาศครั้งต่อไปเครื่องปรับอากาศก็จะต้องทำงานขึ้น  เพื่อดึงเอาความร้อนและความชื้นนี้ออกไป  ซึ่งจะเป็นการสิ้นเปลืองพลังงานมากกว่าการเปิดเครื่องปรับอากาศอย่างต่อ เนื่องเสียอีก

6. ย้ายเครื่องใช้ไฟฟ้าที่ไม่จำเป็นออกนอกห้องปรับอากาศ
          อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดจะปล่อยความร้อนออกมา  เท่ากับพลังงานไฟฟ้าที่อุปกรณ์นั้นใช้  ดังนั้น  ภาระส่วนหนึ่งที่สำคัญของเครื่องปรับอากาศจึงเกิดจากอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า ต่างๆ ภายในห้องปรับอากาศ  หากเราสามารถลดเครื่องใช้ไฟฟ้าภายในห้องปรับอากาศโดยย้ายออกไปตั้งไว้นอก ห้องปรับอากาศได้ก็จะเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้  ตัวอย่างอุปกรณ์ที่มักมีอยู่ในห้องปรับอากาศแต่สามารถย้ายออกไปได้ เช่น

             1. ตู้เย็น
             2. ตู้น้ำเย็น
             3. เครื่องถ่ายเอกสาร
             4. หม้อต้มน้ำร้อน หรือเครื่องชงกาแฟ
             5. ตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ
             6. หม้อหุงข้าวไฟฟ้า
             7. ฯลฯ

7. ปิดเครื่องใช้ฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็น
             เครื่องใช้ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าแสงสว่าง  จะปล่อยความร้อนเข้าสู่ห้องปรับอากาศ  เท่ากับพลังงานที่อุปกรณ์ไฟฟ้าและหลอดไฟฟ้าใช้  และความร้อนนั้นก็จะกลายเป็นภาระของเครื่องปรับอากาศ  และต้องเสียพลังงานในการนำความร้อนทิ้งออกไปข้างนอกอีก  จะเห็นได้ว่า  การใช้เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือไฟฟ้าแสงสว่างในห้องปรับอากาศจะเป็นการเสียค่าไฟ สองต่อ คือ

             - เสียค่าไฟที่อุปกรณ์หรือหลอดไฟใช้
             - เสียค่าไฟที่เครื่องปรับอากาศเพื่อนำความร้อนออกไปทิ้งนอกห้อง

          ดังนั้น การปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าและไฟแสงสว่างที่ไม่จำเป็นในห้องปรับอากาศจึงเป็นการ ประหยัดสองต่อ  คือประหยัดที่ตัวอุปกรณ์และประหยัดที่เครื่องปรับอากาศ

8. งดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ
             เมื่อมีการสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็จะต้องเปิดพัดลมระบายอากาศ  เพื่อระบายควันและกลิ่นออกจากห้องการระบายอากาศส่วนหนึ่งออกจากห้อง  ก็จะทำให้มีอากาศจากภายนอกไหลเข้ามาในห้องทดแทนซึ่งจะทำให้เครื่องปรับอากาศ ทำงานหนักขึ้น  หากงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศก็ไม่จำเป็นต้องเปิดพัดลมระบายอากาศหรือเปิด เพียงช่วงสั้นๆ ก็เพียงพอซึ่งจะช่วยประหยัดพลังงานได้  นอกจากนี้ การงดสูบบุหรี่ในห้องปรับอากาศ  ยังลดปริมาณฝุ่นละอองในอากาศ  จึงทำให้มีฝุ่นละอองไปจับที่คอยล์น้อยเครื่องปรับอากาศ  จึงมีประสิทธิภาพสูงอยู่เสมอ  และช่วยยืดระยะเวลาการบำรุงรักษาเครื่องปรับอากาศไปได้

9. สวมเสื้อผ้าบาง
             การสวมเสื้อผ้าบางๆ จะช่วยให้ร่างกายระบายความร้อนได้ดีขึ้น  จึงสามารถตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้ทำให้ประหยัดพลังงานมากขึ้น  ดังนั้น จึงควรรณรงค์ให้ผู้ที่ทำงานในห้องปรับอากาศหันมาใส่เสื้อผ้าบางๆ ไม่ควรใส่สูทเพื่อที่จะตั้งอุณหภูมิให้สูงขึ้นได้

10. ปิดประตูหน้าต่างให้สนิท 
             จะทำให้มีอากาศร้อนชื้นภายนอกรั่วไหลเข้าไปในห้องได้ซึ่งจะทำให้เครื่องปรับ อากาศทำงานหนักขึ้น  และสิ้นเปลืองพลังงานมากขึ้น  มาตรการนี้ดูจะเป็นเรื่องง่ายๆ ที่ไม่น่าจะต้องกล่าวถึงอีกแต่กลับเป็นปัญหาที่พบบ่อยๆ หากพบว่ามีรอยแยกและมีลมรั่วจากภายนอกเข้ามา  ก็ควรดำเนินการแก้ไขเพื่อช่วยกันประหยัดพลังงาน

 


11. ปิดผ้าม่าน
             การปิดผ้าม่าน  จะช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากภายนอกเข้ามาสู่ตัวคนโดยตรงได้  และยังช่วยลดการแผ่รังสีความร้อนจากผิวกระจกมาสู่ตัวคนด้วย  ซึ่งทำให้ไม่ต้องตั้งอุณหภูมิต่ำกว่าปกติเพื่อชดเชยการแผ่รังสีความร้อนจึง ช่วยประหยัดพลังงานได้   นอกจากลดการแผ่รังสีความร้อนมาสู่ตัวคนแล้ว  ผ้าม่านบังช่วยสะท้อนความร้อนกลับออกไปภายนอกได้ด้วย (ถึงแม้ว่าจะไม่มากนัก) จึงเป็นการช่วยประหยัดพลังงานได้อีกทางหนึ่ง

             การที่ทราบว่าการออกกำลังกานเป็นสิ่งที่ดีต่อสุขภาพแต่ไม่ปฏิบัตินั้นย่อม ไม่ทำให้เกิดสุขภาพดีได้  ฉันใดก็ฉันนั้นการที่ทราบวิธีการประหยัดพลังงานแต่ไม่ปฏิบัติก็ย่อมไม่ สามารถช่วยอนุรักษ์ พลังงานได้ 11 วิธีประหยัดค่าแอร์โดยไม่ต้องลงทุนนี้  มีประโยชน์อย่างแน่นอน  สามารถอนุรักษ์พลังงานได้  ช่วยให้คนรุ่นต่อไปมีพลังงานเหลือใช้นานขึ้น  ช่วยลดการสูญเสียเงินตราต่างประเทศ   ช่วยลดมลพิษและก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ที่เกิดจากการผลิตไฟฟ้า  ช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีไว้ให้ลูกหลานของเรา  เมื่อท่านทราบแล้ว  ช่วยกันปฏิบัติด้วยนะ


บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 24 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1464 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
ซื้อคอนโดมือสองก็ต้องละเอียด (ดู 10919 ครั้ง)
การจัดเก็บค่าส่วนกลางยังเป็นปัญหาเรื้อรัง (ดู 9689 ครั้ง)
ขั้นตอนจดทะเบียนนิติบุคคล (ดู 10765 ครั้ง)
ประกันภัยบ้านต้องทำอะไรบ้าง (ดู 10799 ครั้ง)
คอนโดริมน้ำกำลังเป็นที่นิยม (ดู 9995 ครั้ง)
ใครดีใครร้ายในปีมะเส็ง 56 (ดู 10149 ครั้ง)
ฮวงจุ้ย ทิศหัวเตียงหรือหัวนอน (ดู 12924 ครั้ง)
ข้อดีของการซื้อบ้านจัดสรร (ดู 11717 ครั้ง)
จะซื้อบ้านจัดสรรฟังทางนี้ (ดู 4564 ครั้ง)
เมื่อนิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรรถึงทางตัน (ดู 4661 ครั้ง)
บ้านไม้สไตล์พรีแฟบ (ดู 5337 ครั้ง)
เลือกบ้านสำเร็จรูปแบบไหนดี (ดู 4758 ครั้ง)
นิติบุคคลหมู่บ้านจัดสรร (ดู 4890 ครั้ง)
รู้ทันก่อนซื้อประกันภัยบ้าน (ดู 4497 ครั้ง)
จัดตั้งนิติบุคคลฯแล้วจะเป็นอย่างไร (ดู 4186 ครั้ง)
ตรวจสอบเบื้องต้นง่ายๆ หลังแผ่นดินไหว (ดู 3929 ครั้ง)
กฏหมายว่าด้วยรั้วบ้าน (ดู 4963 ครั้ง)
ขั้นตอนจัดตั้งนิติบุคคล บ้านจัดสรร (ดู 5135 ครั้ง)
เตรียมเสนอขยายสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ (ดู 4004 ครั้ง)
เทรนด์ การซื้อขายบ้านมือสอง (ดู 4359 ครั้ง)
หน้าที่ของผู้ซื้อฯกับนิติบุคคลฯ (ดู 4649 ครั้ง)
สิทธิของเจ้าของห้องชุด (ดู 4550 ครั้ง)
บทบาทเจ้าของร่วมอาคารชุด (ดู 4157 ครั้ง)
ทำไมต้องจ่ายค่าส่วนกลาง (ดู 4852 ครั้ง)
ห้องไม่เรียบร้อย อย่ารับโอน (ดู 4833 ครั้ง)

Google
 
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน, Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
ติดต่อลงโฆษณา : ududee@msn.com
โทรศัพท์: 08-9180-5710
Copyright ©2005-2012 Hometophit All rights reserved