ห้องนอนโรแมนติค ห้องนอนโรแมนติคคือห้องนอนที่สร้างอารมณ์และความรู้สึก ไม่มีกฎตายตัวว่าห้องนอนโรแมนติคต้องใช้ผ้าลูกไม้บางเบาหรือใช้สีชมพูเสมอไป สีขาวก็โรแมนติคได้ ด้วยความรู้สึกบริสุทธิ์และดูงดงามในทุกแสงแห่งวัน เช่นเดียวกับสีเหลือง ที่นุ่มนวลอ่อนโยน ให้ห้องนอนสว่างไสวได้แม้ในวันฟ้ามืดครึ้ม ห้องนอนเรียบง่าย หมายถึงห้องนอนที่ให้ความรู้สึกผ่อนคลายทันทีที่ย่างเท้าเข้ามาห้องนอนชนิดนี้จะเน้นความกลมกลืนเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ทั้งโทนสีห้อง ผ้าม่าน ผ้าคลุมเตียง ล้วนกลมกลืนสอดคล้อง ปราศจากความรู้สึกร้อนแรงหรือขัดแย้ง ไม่ว่าจะเป็นห้องนอนอารมณ์ใดหัวใจของการตกแต่งห้องนอนก็มีหนึ่ง นั่นคือการเชิญชวนให้เจ้าของห้องรู้สึกอยากพักผ่อนนั่นเอง จัดวางให้เหมาะเจาะ เช่นเดียวกับห้องอื่นๆ ที่ผ่านมา การวางแผนตกแต่งห้องนอนต้องเริ่มจากตั้งคำถามตัวเองก่อนว่า คุณจะใช้ห้องนอนทำหน้าที่อะไรบ้าง คุณนอนคนเดียวหรือมีผู้ร่วมห้องด้วย เตียงของคุณมีขนาดใหญ่หรือเล็ก เครื่องแต่งตัวและข้าวของส่วนตัวของเจ้าของห้องมีมากน้อยแค่ไหน โต๊ะเครื่องแป้งสำคัญกับคุณมากน้อยแค่ไหน จำเป็นต้องมีมุมทำงานเล็กๆในห้องนอนหรือไม่ คุณชอบอ่านหนังสือก่อนนอนไหมฯลฯ เขียนรายการสิ่งที่ต้องมีในนอนของคุณให้ครบถ้วนก่อน แล้วจึงค่อยมาพิจารณาดูว่าจะแผนจัดห้องนอนแสนสวยของคุณอย่างไรต่อไป เตียง เป็นเฟอร์นิเจอร์ชิ้นใหญ่และสำคัญที่สุดในห้องนอน การหาที่นอนพิเศษให้กับเตียง ไซล์พิเศษเป็นเรื่องไม่ง่ายถ้าคุณอยากได้เตียงที่มีพื้นที่เกลือกกลิ้งขนาดใหญ่ ควรคำนึงถึงขนาดที่นอนด้วย ขนาดที่นอนมาตรฐานที่หาได้ง่ายในท้องตลาดคือ ยาว 6.5 ฟุต กว้าง 3.5 ฟุต (สำหรับเตียงเดี่ยว) 5 และ 6 ฟุต (สำหรับเตียงคู่) สำหรับเตียงคู่ที่นอน 2 คน ขอแนะนำให้ใช้เตียงกว้าง 6 ฟุต เพื่อให้ขยับตัวได้สบายไม่ครับแคบเกินไป หลังจากวางเตียงแล้ว อย่าลืมเผื่อพื้นที่รอบเตียงสำหรับการขึ้นลงได้อย่างน้อยด้านละ 75 เซนติเมตรด้วย หากมีความจำเป็นต้องจัดวางเตียงชิงผนังข้างใดข้างหนึ่งเพื่อประหยัดเนื้อที่ ควรเลือกเตียงที่มีลูกล้อหรือขยับได้ง่ายเพื่อทำให้เตียงได้สะดวก แต่การวางเตียงแบบนี้จะสร้างความลำบากให้กับผู้นอนด้านใน จึงควรใช้ในกรณีที่นอนคนเดียวเท่านั้น เลือกซื้อที่นอน หลายคนเลือกซื้อที่นอนโดยการใช้มือกดๆ ดูทั้งๆที่เวลาใช้งาน ส่วนที่สัมผัสกับที่นอนคือหลังไม่ใช่มือ การทดสอบที่นอนที่ถูกต้องจึงควรเอนตัวลงนอนหงายบนที่นอนจริงๆ แล้วสอดมือเข้าที่หลังของคุณ หากสอดมือเข้าไปได้ง่ายมากแสดงว่าที่นอนนั้นแข็งเกินไป แต่ถ้าสอดมือเข้าไปแทบไม่ได้ แสดงว่าที่นอนนุ่มเกินพอดีหากคุณและคนที่นอนด้วยกันมีน้ำหนักตัวที่แตกต่างกันมาก อาจทำให้การเลือกที่นอนที่เหมาะสมกับสรีระทั้งคู่เป็นไปได้ยาก แนะนำให้ลองพิจารณาการซื้อเตียงเดี่ยว 2 ชุด วางชิดก ันแทนการใช้เตียงคู่ ตู้เสื้อผ้า มีความสำคัญสำหรับห้องนอนเป็นอันดับสองรองจากเตียง สัมภาระที่เป็นส่วนตัวในชีวิตประจำวันของคุณมักจะถูกเก็บอยู่ในส่วนนี้ ไม่เพียงเสื้อผ้า แต่ยังรวมทั้งกระเป๋า รองเท้า เครื่องประดับ เข็ดขัด ผ้าเช็ดตัวฯลฯ ถ้าเป็นไปได้คุณควรเผื่อพื้นที่ให้ส่วนนี้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้ เพราะในตอนย้ายเข้ามาเรามักมีสัมภาระเพียงเล็กน้อย แต่ยิ่งนานขึ้นสัมภาระก็จะมากขึ้นจนคาดไม่ถึง หากห้องนอนมีพื้นที่พอ แนะนำให้ทำชั้นเก็บเครื่องแต่งตัวไว้ในมุมหนึ่งของห้อง แล้วกั้นส่วนด้วยบานประตูชนิดบานเลื่อน กลายเป็นตู้เสื้อผ้าชนิดเดินเข้าไปหยิบได้(Walk-in Closet) ปัจจุบันมีการผลิตตู้เสื้อผ้าชนิดนี้ในรูปแบบรอติดตั้ง (Ready to lnstall) สำหรับพื้นที่หลายขนาดทำให้ประหยัดและสะดวกขึ้นมาก สำหรับรูปแบบการติดตั้ง การใช้ตู้แบบบิลท์อินจะได้เปรียบตู้แบบลอย เพราะตู้บิลท์อินมักได้รับการออกแบบให้ยาวติดผนังและสูงจรดเพดานห้อง ทำให้ใช้พื้นที่เก็บของได้คุ้มค่า ในขณะที่ตู้เสื้อผ้าแบบลอยตัวมักเหลือพื้นที่หลังตู้ให้กลายเป็นที่สะสมฝุ่น และดูไม่สวยงามเมื่อนำของขึ้นไปวางซ้อนกัน ไม่ว่าจะเป็นตู้รูปแบบใด ควรพิจารณาไปถึงการออกแบบภายในตู้ด้วย เพื่อให้ใช้งานได้อย่างสะดวก เริ่มจากราวแขวนเสื้อผ้าในตู้ ควรลึกประมาณ 60-65 เซยติเมตรเพื่อป้องกันไม่ให้เสื้อผ้าถูกบานพับหนีบหรือเสียดสีกับบานประตู และถ้าจะให้ดีควรปรับเปลี่ยนความสูงได้ หรือมีความสูงต่างระดับให้เลือกแขวนชุดยาวและชุดสั้น ส่วนชั้นวางของและลิ้นชัก ไม่ต้องมีความลึกมาก เพราะจะทำให้มองไม่เห็นของข้างใน แค่สามารถวางเสื้อยืดพับสักตัวได้สบายๆก็เพียงพอ ลิ้นชักควรมีไว้บ้างสำหรับเก็บข้าวของชิ้นเล็กๆ แต่ไม่ควรมีมากจนทำให้เสียเวลาในการเปิดปิดหาของ อย่าลืมเผื่อพื้นที่ด้านหน้าตู้สำหรับการเปิดประตูได้สะดวก อย่างน้อยไม่ควรต่ำกว่า 95 เซนติเมตร โต๊ะเครื่องแป้ง ควรอยู่ใกล้หน้าต่างเพื่อให้ได้แสงธรรมชาติขณะแต่ งหน้า ควรเผื่อพื้นที่สำหรับเก้าอี้แต่งตัว 60 เซนติเมตรด้วย เพื่อที่จะได้สอดเก้าอี้เข้าออกได้อย่างสบาย
|