วันนี้จะมาพูดถึงเรื่องกระติกน้ำร้อนและวิธีการเลือกซื้อกันกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ใช้ประโยชน์ในการต้มน้ำร้อนเพื่อใช้ดื่ม และจัดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้าที่สิ้นเปลืองพลังงานไฟฟ้าสูงตัวหนึ่งเช่นเดียวกับเตารีดไฟฟ้าโดยอาศัยหลักการทำงานเดียวกันคือให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดความร้อนที่อยู่ภายในอุปกรณ์ แล้วนำความร้อนนั้นไปใช้ประโยชน์ เช่น กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าใช้ต้มน้ำร้อน ซึ่งกระติดน้ำร้อนไฟฟ้าโดยทั่วไปจะมีขนาดที่ใช้กำลังไฟฟ้าระหว่าง 500 - 1,300 วัตต์ ดังนั้นหากเรารู้จักใช้อย่างถูกวิธีก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายพลังงานไฟฟ้าลงได้ ส่วนประกอบหลักของกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ประกอบด้วยขอลดความร้อน (Heater) อยู่ด้านล่างของตัวกระติก และอุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิ (Thermostat) เป็นอุปกรณ์ควบคุมการทำงาน โดยมีหลักการทำงานของกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า คือ เมื่อกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขอลวดความร้อนจะเกิดความร้อน ความร้อนจะถ่ายเทไปยังน้ำภายในกระติก ซึ่งจะทำให้น้ำมีอุณหภูมิสูงขึ้นจนถึงจุดเดือด อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิจะตัดกระแสไฟฟ้าในวงจรหลักออกไป แต่ยังคงมีกระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดความร้อน บางส่วน เพื่อให้น้ำยังมีความร้อนอยู่ ซึ่งกระแสไฟจะไหลผ่านหลอดสัญญาณอุ่น ๆ ในช่วงนี้จะเป็นการอุ่นน้ำ เมื่ออุณหภูมิของน้ำร้อนภายในกระติดลดลงจนถึงจุด ๆ หนึ่ง อุปกรณ์ควบคุมอุณหภูมิจะทำงานโดยปล่อยให้กระแสไฟฟ้าไหลผ่านขดลวดความร้อนเต็มที่ ทำให้น้ำเดือดอีกครั้ง การปล่อยน้ำออกจากการทำได้โดยกดที่ฝากดอากาศ ซึ่งอยู่ทางด้านบนของกา อากาศจะถูกอัดเข้าไปภายในกา โดยผ่านทางรูระบายอากาศของฝาปิดภายในของกา ดังนั้นภายในกาจึงมีแรงกดดันที่มากพอที่จะให้น้ำที่อยู่ภายในวิ่งขึ้นไปตามท่อ และออกทางพวยกา ซึ่งตามข้อกำหนดของมาตรฐาน มอก. 2062-2543 ได้บอกเอาไว้ว่า กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า หมายถึง บริภัณฑ์ไฟฟ้าที่เปลี่ยนพลังงานไฟฟ้าเป็นพลังงานความร้อนเพื่อใช้ในการต้มน้ำอย่างอัตโนมัติ และสามารถรักษาอุณหภูมิไว้ได้ระดับหนึ่ง กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ที่ใช้กับไฟฟ้ากระแสสลับเฟสเดียว ความถี่ 50 เฮิรตซ์ แรงดันไฟฟ้าที่กำหนด ไม่เกิน 250 โวลต์ ความจุของน้ำที่กำหนดไม่เกิน 10 ลิตร สำหรับใช้ในที่อยู่อาศัยและงานทั่วไปที่มีจุดประสงค์คล้ายกัน ซึ่งกระติกน้ำร้อนสามารถแบ่งออกได้ 3 ประเภท ตามมาตรฐาน มอก. ก็คือ กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าประเภท OI หมายถึง กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าซึ่งอย่างน้อยที่สุดต้องมีฉนวนมูลฐานโดยตลอดและมีขั้วต่อสายดินไว้ด้วย แต่มีสายป้อนกำลังไฟฟ้าที่ไม่มีตัวนำสายดิน และมีเต้าเสียบที่ไม่มีขั้วสัมผัสสายดิน กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าประเภท I หมายถึง กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าซึ่งการป้องกันไฟฟ้าช็อกไม่ขึ้นกับฉนวนมูลฐานแต่อย่างเดียวแต่เพิ่มความปลอดภัยขึ้น โดยให้ส่วนที่แตะต้องถึงซึ่งนำไฟฟ้าได้ต้องต่อกับสายดินในระบบ สายไฟฟ้าถาวรในลักษณะที่ส่วนโลหะที่แตะต้องถึงซึ่งนำไฟฟ้าได้ต้องไม่กลายเป็นส่วนที่มีไฟฟ้า ในกรณีที่ฉนวนมูลฐานล้มเหลว กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าประเภท II หมายถึง กระติกน้ำร้อนไฟฟ้าซึ่งการป้องกันไฟฟ้าช็อกไม่ขึ้นกับฉนวนมูลฐานแต่อย่างเดียวแต่เพิ่มความปลอดภัยขึ้น เช่น ให้มีฉนวนสองชั้นหรือฉนวนเสริมโดยไม่กำหนดให้ต่อลงดินหรือให้อาศัยภาวะการติดตั้ง โดยทั่วไปกระติกน้ำร้อนไฟฟ้าที่วางขายอยู่อัตราการใช้กำลังไฟฟ้าแตกต่างกันตามขนาดความจุของกระติกน้ำร้อน จะอยู่ในช่วงตั้งแต่ 500 - 1000 วัตต์ ส่วนใหญ่มีขนาดความจุตั้งแต่ 2 ลิตรขึ้นไปไม่เกิน 3 ลิตรใช้กำลังไฟฟ้าประมาณ 500-600วัตต์ การเลือกซื้อกระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ให้คำนึงถึงลักษณะการใช้งาน ถ้าเป็นการถ้าจะดื่มกาแฟ วันละไม่กี่แก้ว ดื่มไม่กี่คน ต้มเดือดแล้วถอดปลั๊ก ก็เลือกใช้กระติกน้ำร้อนไฟฟ้า ขนาดเล็ก ที่มีความจุพอที่จะใช้งาน หรือที่บ้านไหนมีลูกน้อย จำเป็นต้องชมนมทั้งวัน หรือเป็นที่ทำงานมีคนดื่มกาแฟกันทั้งวัน ก็เลือกกระติกน้ำที่มีขนาดใหญ่ เพื่อที่จะได้ไม่สิ้นเปลืองกระแสไฟฟ้าจนเกินไป เป็นเกร็ดเล็ก เกร็ดน้อยเกี่ยวกับกระติกน้ำร้อน ก่อนที่คุณจะตัดสินใจเลือกซื้อ นำเอาไปประกอบการตัดสินใจของคุณ ว่าจะเลือกซื้อแบบใด ถึงจะเหมาะกับการใช้งานของคุณ เมื่อเลือกอย่างถูกวิธีแล้ว คุณก็จะได้ไม่ต้องเสียค่าไฟฟ้าเพิ่มขึ้นอย่างไม่จำเป็นครับ |