หลักการง่ายๆ ของการออกแบบบ้านสุขภาพดี เริ่มต้นจากการออกแบบให้อยู่สบาย โดยไม่ทำลายสภาพแวดล้อม มีการนำพลังงานธรรมชาติทั้งแสงแดดและสายลมมาใช้ประโยชน์อย่างคุ้มค่า การก่อสร้างคำนึงถึงความปลอดภัย ไม่ใช้วัสดุที่ก่อมลพิษ วารสาร "บ้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท" จัดพิมพ์โดยบริษัท กันตนา พับลิชชิ่ง จำกัด แนะนำว่า บ้านสุขภาพดีไม่ถึงกับต้องสร้างบ้านด้วยหิน มุงหลังคาจาก หรือเร้นกายอยู่กลางป่า แต่ต้องเป็นมิตรกับธรรมชาติ ที่สำคัญไม่จำเป็นต้องสร้างขึ้นใหม่ แม้แต่บ้านไม้หลังเก่าที่คุณอยู่มา 20 ปีก็สามารถได้รับการปรับปรุงให้เป็นบ้านสุขภาพดีได้ ขอเพียงมีความเอื้ออาทร อ่อนโยนต่อผู้อาศัย ทำให้ร่างกายและจิตใจอิ่มเอิบ ก่อให้เกิดพลังงานและความกระตือรือร้น นี่เองคือความหมายที่แท้จริงของบ้านสุขภาพดี องค์ประกอบของบ้านสุขภาพดี - อากาศบริสุทธิ์ จะดีแค่ไหน หากทุกอณูของอากาศที่ขับเคลื่อนเข้าไปในร่างกายของคุณนั้นเป็นอากาศอันแสนบริสุทธิ์และสดชื่น เพื่อถนอมอากาศบริสุทธิ์ไว้ให้บ้านและให้ปอด ควรลด ละ เลิก การนำสารพิษเข้ามาในบ้าน เลือกใช้วัสดุจากธรรมชาติแทนวัสดุสังเคราะห์ เช่น ใช้ผ้าฝ้ายธรรมชาติแทนผ้าใยสังเคราะห์ ใช้น้ำยาทำความสะอาดที่ปราศจากสารพิษ - ตกแต่งเรียบง่าย บ้านสุขภาพดีไม่เพียงสวยสบายตา แต่ควรเป็นบ้านที่ดูแลรักษาง่าย ดังนั้นจึงไม่ควรมีของตกแต่งห้องให้วิจิตรพิสดารเกินเหตุ ควรใช้ของน้อยชิ้นเพื่อง่ายต่อการจัดวางและโยกย้าย บ้านที่ตกแต่งเรียบง่ายนอกจากจะทำให้ง่ายต่อการจัดวางและโยกย้ายแล้ว ยังส่งผลดีด้านสุขภาพจิตทำให้ปลอดโปร่งแจ่มใสด้วย - ถูกหลักสรีรศาสตร์ เพื่อการใช้สอยที่สะดวก ไม่ทำลายสุขภาพ เครื่องเรือนในบ้านสุขภาพดีควรได้รับการเลือกเฟ้น และจัดวางโดยคำนึงถึงหลักสรีรศาสตร์ เช่น ตู้เก็บของควรมีความสูงพอเหมาะที่จะเอื้อมหรือก้มหยิบของได้โดยไม่ทำร้ายสุขภาพ - มีพื้นที่สีเขียว สีเขียวสดสวยของต้นไม้ไม่เพียงให้ชีวิตชีวา แต่ยังช่วยดูดอากาศพิษและกลิ่นที่เป็นอันตรายในบ้าน ไม่จำเป็นต้องสรรหาพันธุ์ไม้ที่แปลกใหม่หรือมีราคาแพง เลือกปลูกต้นไม้ไทยธรรมดาพันธุ์ท้องถิ่น ซึ่งสวยงามและดูแลได้ง่ายกว่า - ได้รับแสงสว่างธรรมชาติ อย่าปิดบังหน้าต่างจนมิดชิดด้วยผ้าม่านหนาหนัก ควรเลือกใช้ผ้าม่านบางเบาที่ยอมให้แสงลอดผ่านได้โดยไม่ทำลายความเป็นส่วนตัว เลือกใช้กระจกใสในบางจุดเพื่อช่วยเพิ่มความสว่างให้บ้าน - ใช้สีสันสบายตา สีมีส่วนสำคัญต่อจิตใจไม่น้อย เพียงความเข้มอ่อนของสีก็ส่งผลต่อความรู้สึกได้แตกต่างกัน บ้านสุขภาพดีจึงควรเลือกใช้สีที่เหมาะสมกับอารมณ์ของห้อง สีโทนอ่อนเย็นเป็นทางเลือกที่ดี เพราะนอกจากจะช่วยให้ห้องสว่างไสว โล่ง โปร่งแล้ว ยังเข้าได้ดีกับเครื่องตกแต่งห้องแทบทุกเฉดสีอีกด้วย - เปี่ยมพลังธรรมชาติ บ้านสุขภาพดีควรเป็นมิตรกับธรรมชาติ ให้ความรู้สึกสุขสงบกับผู้อยู่อาศัย ปราศจากเสียงดังรบกวนที่จะกระตุ้นประสาทให้ตื่นตัวอยู่ตลอดเวลา หากจะมีเสียงควรเป็นเสียงจากธรรมชาติที่ให้ความรื่นรมย์ เช่น เสียงนกร้อง ใบไม้ไหวหรือเสียงน้ำที่รินไหล ซึ่งจะช่วยให้ร่างกายและจิตใจได้ผ่อนคลาย ไม่ควรมีกลิ่นสารเคมี อุปกรณ์ที่สามารถส่งผ่านความถี่คลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าเช่น จอคอมพิวเตอร์ ไมโครเวฟ โทรศัพท์มือถือ และอุปกรณ์สื่อสารต่างๆ เป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยง เพราะอาจส่งผลต่อการทำงานของสมอง รบกวนการเจริญเติบโตและการผลิตเซลล์ทั่วร่างกาย จึงควรจัดวางให้ไกลจากจุดที่อยู่อาศัยประจำ บ้านสุขภาพดีควรเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม โดยเลือกใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างชาญฉลาดและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด เช่น มีช่องแสงเพื่อรับแสงสว่างอบอุ่นจากธรรมชาติในเวลากลางวัน ใช้โถสุขภัณฑ์รุ่นประหยัดน้ำ - มีพื้นที่ชำระจิตใจ บ้านสุขภาพดีควรมีมุมส่วนตัวที่สงบเงียบเพื่อปรับสภาพจิตใจที่ยุ่งเหยิงให้ได้ผ่อนคลาย เรื่องควรรู้ก่อนสร้างบ้านสุขภาพดี ด้วยภูมิอากาศร้อนชื้นทำให้บ้านไทยต้องเผชิญกับแสงแดดรุนแรงตลอดปี การวางแผนสร้างบ้านในเมืองไทยจึงต้องคำนึงถึงการรับมือกับแสงแดด และตั้งอยู่ในทิศทางที่เชื้อเชิญลมเย็น เพื่อให้บ้านอยู่สบายได้รับประโยชน์จากธรรมชาติอย่างเต็มที่ และนี่คือหลากหลายวิธีที่จะช่วยให้บ้านอยู่เย็นและเป็นสุข - หันบ้านให้ถูกทิศ หลักประจำใจง่ายๆ ในการวางตำแหน่งบ้าน คือ "เปิดรับแสงเหนือ" และ "กันแดดด้านตะวันตกและใต้" การวางตัวบ้านให้ได้รับลมนั้น ต้องเปิดช่องรับลมไว้ทางทิศเหนือและทิศใต้ แต่เนื่องจากในเมืองใหญ่เต็มไปด้วยสิ่งก่อสร้างสูงๆ กีดขวางทางลม จนอาจจะทำให้ลมเปลี่ยนทิศทางได้ จึงควรพิจารณาเลือกเปิดช่องรับลมในด้านที่เหมาะสมกับพื้นที่แทน เช่น เลือกด้านที่แสงแดดส่องเข้าน้อยที่สุด - เป็นมิตรกับสายลม อยากให้ลมพัดเข้าบ้าน ต้องเข้าใจหลักการง่ายที่สุดของลมไว้ว่า ลมจะเข้าก็ต่อเมื่อมีทางออก บ้านรับลมที่ดีที่สุดคือบ้านซึ่งในแต่ละห้องมีหน้าต่างอยู่ตรงข้ามกัน และมีขนาดใหญ่พอๆ กัน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์สูงๆ กีดขวางทางลม การปลูกต้นไม้ใกล้อาคารจะมีผลต่อการไหลของกระแสลม เพราะลมที่พัดผ่านต้นไม้ก่อนเข้าไปในอาคารจะมีอุณหภูมิเย็นลง และถ้าปลูกต้นไม้เหนือลมจะสามารถช่วยเพิ่มความเร็วลมได้ด้วย - ชื่นชมกับแสงสว่าง ควรเปิดช่องรับแสงจากทางทิศเหนือเพราะดวงอาทิตย์จะเคลื่อนอ้อมเหนือเพียง 3 เดือนต่อปี ทางเดิน โถงบันไดและโถงลิฟต์ที่ต้องใช้งานตลอดวัน ควรออกแบบให้มีแสงธรรมชาติส่องถึงเพื่อพึ่งพาแสงไฟฟ้าให้น้อยที่สุด ถ้าต้องใช้แสงธรรมชาติร่วมกับแสงไฟฟ้า ควรควบคุมแสงไฟฟ้าด้วยระบบปรับหรี่แสง โดยยึดหลักจัดวางพื้นที่ใช้งานให้ได้รับแสงธรรมชาติก่อน แล้วค่อยเสริมแสงสว่างเฉพาะที่ด้วยแสงไฟฟ้า
|