การเลือกซื้อบ้านสักหลังนอกจากการตรวจสอบคุณสมบัติของโครงการแล้ว ยังมีสิ่งที่ผู้จะซื้อบ้านใหม่ควรปฏิบัติ ดังนี้ - ศึกษาสภาพแวดล้อมของโครงการบ้าน โดยให้ตรวจสอบว่าที่ตั้งโครงการที่จะซื้อมีการเวนคืน เพื่อตัดถนน สามารถตรวจสอบได้จากกรมผังเมือง หรือสำนักงานเขตที่โครงการนั้นตั้งอยู่ ในต่างจังหวัดสามารถตรวจสอบได้จากเทศบาล หรือสำนักงานโยธาจังหวัดที่โครงการตั้งอยู่ - ตรวจสอบผลงานของผู้ประกอบการที่เคยสร้างไว้ ว่ามีการทำตามสัญญาหรือไม่ ส่งมอบและโอนบ้านตามกำหนดหรือไม่ - ตรวจสอบคุณสมบัติความพร้อมของบริษัทเจ้าของโครงการ การจดทะเบียนเป็นนิติบุคคลถูกต้องหรือไม่ มีทุนจดทะเบียนเท่าไหร่ มีทุนที่ชำระแล้วจำนวนเท่าไหร่ ซึ่งจะช่วยประเมินความเสี่ยงได้ นอกจากนี้ยังจะต้องตรวจสอบว่าใครเป็นกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในสัญญารวมถึงใบเสร็จรับเงิน ไม่ควรให้พนักงานขาย หรือตัวแทนบริษัทที่ไม่มีอำนาจตามกฎหมายเป็นผู้ลงนาม โดยตรวจสอบได้จากกรมพัฒนาธุรกิจ กระทรวงพาณิชย์ - ตรวจสอบกรรมสิทธิ์ในที่ดินว่าถูกต้องหรือไม่ เลขที่โฉนดเท่าไหร่ ใครเป็นผู้มีชื่อในโฉนดที่ดิน ที่ถูกต้องควรเป็นชื่อของผู้พัฒนาเจ้าของโครงการ หากไม่ใช่ควรจะสอบถามถึงความสัมพันธ์ระหว่างเจ้าของที่ดินกับบริษัท และการได้มาของที่ดินว่าเป็นอย่างไร รวมถึงการขออนุญาตจัดสรรที่ดินถูกต้องหรือไม่ ตรวจสอบข้อมูลได้จาก กรมที่ดิน หรือสำนักงานที่ดินจังหวัด ในกรณีที่ซื้อที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง ควรตรวจสอบเพิ่มเติมด้วยว่า โครงการได้รับใบอนุญาตก่อสร้างหรือไม่ เป็นอาคารแบบใด ตรวจสอบได้จากกรมโยธาธิการ สำนักงานเขต เทศบาล หรือองค์การปกครองส่วนท้องถิ่น - ตรวจสอบภาระผูกพันของที่ดินที่นำมาพัฒนาโครงการ ว่ามีภาระผูกพันกับนิติบุคคล หรือสถาบันการเงินใดหรือไม่ มีการจำนองหรือขายฝากกับใคร วงเงินจำนองเท่าไหร่ ซึ่งตาม พ.ร.บ.การจัดสรรที่ดิน กำหนดให้เจ้าของโครงการต้องบอกภาระผูกพันรายแปลงให้กับผู้ซื้อทราบ - ตรวจสอบรายละเอียดของสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ เช่น ถนน ไฟฟ้า น้ำประปา ตรวจสอบความคืบหน้าในการก่อสร้างสาธารณูปโภค และสิ่งอำนวยความสะดวกในโครงการ มีการวางเงินค้ำประกันสาธารณูปโภค ตามที่กฎหมายกำหนดไว้แล้วหรือยัง เป็นจำนวนเงินเท่าไหร่ โดยตรวจสอบได้จากโครงการ และสถาบันการเงินที่ออกหนังสือค้ำประกันสาธารณูปโภค หากตรวจสอบรายละเอียดดังกล่าวได้ ปัญหาเรื่องการซื้อบ้านแต่ไม่ได้บ้านก็จะไม่เกิดขึ้นนะครับ. |