ปัจจุบันมีผู้ป่วยเป็นโรคภูมิแพ้กันมากขึ้นหากลองสำรวจด้วยกการถามคนรอบข้างเรา 10 คนจะต้องมีอย่างน้อย 1 คนที่เป็น บางคนแพ้ฝุ่นละออง บางคนแพ้อากาศ แพ้ขนสัตว์ มีตั้งแต่อาการเล็กๆน้อยๆ ไปจนถึงขั้นต้องรับประทานยาเป็นกิจวัตร ส่วนตัวดิฉันเองเมื่อก่อนไม่เคยมีอาการเลย จนปีที่แล้วสังเหตว่าเมื่อไปที่ใดมีฝุ่นมากๆ จะคันและแสบจมูกๆบ่อยๆ ตามด้วยอาการเหมือนคนเป็นหวัด นี่ก็เป็นอากการแพ้อย่างหนึ่ง และด้วยหน้าที่มัณฑนากรให้คำปรึกษาลูกค้าในการตกแต่งบ้าน สังเหตว่าระยะหลังนี้ลูกค้าส่วนมากจะให้ออกแบบตกแต่งบ้านโดยเฉพาะห้องนอนสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้ ไม่ว่าจะเป็นห้องตัวเองหรือห้องของลูก ดิฉันจึงนำแนวทางการอตกแต่งที่อยู่อาศัยสำหรับคนที่เป็นภูมิแพ้มาเสนอในฉบับนี้ เพื่อคุณที่เป็นจะได้ป้องกันและช่วยบรรเทาอาการของโรคได้ในระดับหนึ่งค่ะ หลายท่านคงพอจะทราบว่าสาเหตุการเกิดภูมิแพ้เกิดมาจากอะไร และทำไมคนที่อยู่ในเมืองใหญ่จึงเป็นมากกว่าคนต่างจังหวัด ดิฉันพอจะรวบรวมได้ว่า ในเมืองมีมลพิษจากการก่อสร้าง การจราจร มีฝุ่นละอองหนาแน่น คนนิยมเลี้ยงสัตว์ในบ้านกันมากขึ้น การตกแต่งบ้าน การเลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ เครื่องใช้ที่มักก่อให้เกิดฝุ่น นิยมติดเครื่องปรับอากาศทำให้อากาศถ่ายเทได้ไม่ดี เหล่านี้เป็นสาเหตุเริ่มต้นที่ทำให้เราเกิดอาการแพ้ได้ ดังนั้นในการจัดตกแต่งบ้านโดยเฉพาะห้องนอนซึ่งเป็นห้องที่สำคัญต่อสุขภาพร่างกายเรามากที่สุด เพราะเป็นสถานที่ที่เราใช้นอนหลับพักผ่อน เฉลี่ยแล้วประมาณ 8 ชั่วโมงต่อวัน จึงต้องใส่ใจกับการจัดตกแต่งให้มากกว่าห้องอื่นๆ มีข้อแนะนำดังนี้ค่ะ 1.ห้องนอนควรมีหน้าต่าง 2 ด้านเพื่อการหมุนเวียนถ่ายเทของอากาศจากภายนอกเข้าสู่ห้อง ไม่ควรอยู่ใกล้ห้องน้ำหรือมีห้องน้ำในตัว เพราะห้องน้ำเป็นแหล่งสะสมความชิ้นและเชื้อโรคต่างๆ แต่เพื่อความสะดวกในการใช้งานแล้ว การที่มีห้องน้ำในห้องนอนก็จะมีวิธีแก้ คือบานประตูจะต้องทึบม่มีช่องระบายอากาศ ในห้องน้ำต้องติดตั้งพัดลมดูดอากาศออกนอกห้อง และควรจะมีช่องแสงกว้างๆ เพื่อแสงแดดจะได้ส่องถึง ลดความชื้นและฆ่าเชื้อโรค 2.ห้องนอนต้องมีแสงแดดส่องถึง เพื่อช่วยขจัดความอับชื้นและฆ่าเชื้อโรคบางชนิดได้ 3.วัสดุปูพื้นควรเป็นพื้นไม้ จะเป็นพื้นไม้จริงหรือพื้นไม้ลามิเนตก็ได้ เน้นที่ทำความสะอาดง่าย ไม่อมฝุ่น ไม่ควรใช้กระเบื้อเซรามิกเพราะจะทำให้พื้นห้องเย็นเกินไป 4.ผนังห้อง หากต้องการความนุ่มนวลแนะนำให้ติด wallpaper โดยใช้กาวที่ผสมน้ำยากันเชื้อรา แต่ถ้าเป็นผนังทาสี ควรเลือกสีไร้สารตะกั่วและเป็นชนิดที่สามารถทำความสะอาดได้ง่าย 5.เตียงนอน ควรใช้เตียงไม้ขาลอย มีพื้นที่ใต้เตียงที่สะดวกต่อการทำความสะอาด ไม่ควรใช้เตียงที่มีลิ้นชักเก็บของ เพราะจะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นอย่างดี 6.ในห้องนอนไม่ควรมีชั้นวางหนังสือ ของสะสมต่างๆ เช่น ตุ๊กตา เพราะเป็นแหล่งสะสมฝุ่นมาก ถ้าต้องการจริงๆ ควรใส่ในตู้ชนิดที่มีบานกระจกติด ช่วยกันฝุ่นได้ค่ะ 7.เฟอร์นิเจอร์ในห้องนอนควรมีน้อยชิ้นที่สุด หลีกเลี่ยงการใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีอายุการใช้งานมานานเพื่อลดความเสี่ยงที่ต้องสัมผัสกับฝุ่น ตู้เสื้อผ้าก็ไม่ควรตั้งในห้องนอน เนื่องจากฝุ่นจากเส้นใยผ้าอาจก่อให้เกิดอาการแพ้ได้ แต่ถ้าไม่สามารถแยกพื้นที่เป็นสัดส่วนได้จริงๆก็ไม่ว่ากันค่ะ 8.ไม่ควรปูพรมใดๆเพราะพรมเป็นแหล่งสะสมฝุ่นและความชื้นอย่างดี 9.เลือกใช้ผลิตภัณฑ์สำหรับการนอน เช่น ผ้าปูที่นอน หมอน ผ้านวมที่ออกแบบมาสำหรับคนเป็นโรคภูมิแพ้โดยเฉพาะ ราคาอาจสูงกว่าผ้าธรรมดาแต่ก็น่าจะคุ้มกับการลงทุนเพื่อสุขภาพที่ดี อ้อ! อย่าลืมหมั่นซักทำความสะอาดเครื่องนอนเหล่านี้อย่างน้อยอาทิตย์ละครั้งนะคะ 10.ผ้าม่านในห้องนอนควรเลือกแบบที่สามารถถอดซักทำความสะอาดได้บ่อยๆ 11.ไม่ควรตากผ้าในห้องนอน เพราะจะทำให้เกิดความอับชื้น 12.คนที่เป็นภูมิแพ้นั้นห้ามเอาสัตว์เลี้ยงมานอนเป็นเพื่อนในห้องนอนเด็ดขาดเลยนะคะ 13.หมั่นดูดฝุ่น เช็ดถู ทำความสะอาดห้องนอนเป็นประจำ 14.ควรให้ช่างมาทำความสะอาดเครื่องปรับอากาศอย่างน้อย 3 เดือนต่อ 1 ครั้ง 15.แนะนำให้ติดตั้งเครื่องฟอกอากาศในห้องนอน สำหรับเรื่องนี้มีข้อแนะนำในการเลือกเครื่องฟอกอากาศมาฝากค่ะ เครื่องฟอกอากาศที่ดีควรมี 2 ระบบในตัวเดียวกัน คือ มีทั้งความสามรถในหารกรองฝุ่นชั้นอนุภาคใหญ่ๆ ในชั้นแรก และปล่อยประจุไฟฟ้าเพื่อดักฝุ่นในห้องในตกลงสู่พื้นอีกชั้นหนึ่ง และควรกรองกลิ่นได้ในระดับหนึ่ง ต้องมีแรงมากพอที่จะดูดอากาศโดยรอบเพื่อดักฝุ่นและปล่อยอากาศสะอาดออกมา ด้วยแรงลมที่ไม่เบาจนเกินไปนัก ก่อนตัดสินใจซื้อควรหาข้อมูลของแผ่นกรองอากาศให้ดีว่าสามารถกรองอนุภาคได้ขนาดไหน มีความยากง่ายในการทำความสะอาดแค่ไหน และราคาแผ่นกรองใหม่ในกรณีที่แผ่นกรองหมดอายุการใช้งาน หากเป็นเครื่องฟอกอากาศอย่างเดียว ควรกินไฟไม่เกิน 20-50 วัตต์ มีเสียงรบกวนเวลาเครื่องทำงานน้อยที่สุด เพราะส่วนมากเราจะใช้เครื่องฟอกอากาศในห้องนอนเวลากลางคืน สิ่งสุดท้ายคือการพิจาณาค่าที่เรียกว่า CAD (Clean Air Delivery Rate ) ของเครื่องซึ่งเป็นค่าสากลที่ใช้วัดประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องฟอกอากาศในเวลาที่มีคนอยู่ในห้อง ตัวเลขนี้ค่ายิ่งสูงยิ่งดี หวังเป็นอย่างยิ่งว่าข้อแนะนำเหล่านี้ คงจะช่วยให้คนที่คุณรักบรรเทาจากอาการภูมิแพ้ได้ไม่มากก็น้อยนะคะ ส่วนคนที่ยังไม่เป็น คำแนะนำดหล่านี้จะช่วยป้องกันไม่ให้เกิดอาการแพ้ได้ไม่มากก็น้อยเช่นกันค่ะ
ขอขอบคุณข้อมูลจาก หนังสือ Health Today |