บ้านแบบโปร่ง ที่พักอาศัยแบบโปร่งในบ้านเรานั้นสามารถพบเห็นได้ตั้งแต่สมัยโบราณ จากลักษณะบ้านเรือนไทยที่ประกอบไปด้วยพื้นที่ภายในบ้านที่ต่อเนื่องไปยังส่วนนอกชานสำหรับนั่งเล่น เหตุผลส่วนหนึ่งที่เป็นเช่นนั้นก็เนื่องมาจากสภาพภูมิอากาศร้อนชื้นจึงทำให้เรือนไทยถูกออกแบบให้รับลม โดยการยกพื้นสูงอากาศถ่ายเทสะดวกจากช่องประตู หน้าต่าง และช่องลมต่าง ๆ รวมทั้งการมีชายคาและ ปลูกต้นไม้ใหญ่เพื่อให้เกิดร่มเงาและเพื่อลดความร้อนสู่ตัวบ้านและชานบ้านจากแสงแดดโดยตรง ในทางสถาปัตยกรรม การออกแบบบ้านให้โปร่งนั้นได้รับความนิยมอย่างต่อเนื่องในบ้านเรา เนื่องจากเหมาะสมกับ สภาพอากาศดังที่ได้กล่าวไปแล้วข้างต้น ตัวอย่างที่ชัดเจนคือ บ้านในสภาพแวดล้อมธรรมชาติ เช่น ป่า,ภูเขา,ทะเล ซึ่งจะถูกออกแบบโดยยึดหลักการเดียวกันกับบ้านเรือนไทย โดยเฉพาะการจัดวางทิศทางของบ้านที่สัมพันธ์กับ การรับลมและการมองเห็นวิว ดังจะเห็นได้จากบังกะโลและรีสอร์ทบางแห่งมีลักษณะเหมือนเรือนไทย และอีกหลายแห่งมีการออกแบบแบบสมัยใหม่ใช้กระจกบานใหญ่และโครงสร้างเหล็กที่มีขนาดบาง เพื่อให้เกิดการเปิดวิวสู่ตัวบ้านให้มากที่สุด และยังสามารถรับแสงได้อย่างเต็มที่เพื่อให้ภายในอาคารดูสว่างและโปร่ง สำหรับที่พักอาศัยในเมืองนั้นส่วนใหญ่จะมีขนากเล็ก การออกแบบบ้านแบบโปร่งจะช่วยลดความรู้สึกอึดอัดคับแคบ ให้ผู้อยู่อาศัย การออกแบบพื้นที่ให้รับแสงและมองเห็นวิวภายนอกได้ดีนั้นมีความจำเป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกับพื้นที่ขนาดเล็ก เช่น ที่พักอาศัยในคอนโดมิเนียมและอพาทเมนต์ ส่วนบ้านที่พอจะมีพื้นที่สำหรับเป็นสวนนอกตัวบ้านหรือมีระเบียงสำหรับปลูกต้นไม้นั้น การออกแบบบ้านให้โปร่งนั้นจะทำให้ผู้อยู่อาศัยได้สัมผัสความเป็นธรรมชาติของสวนภายนอกได้เป็นอย่างดี เนื่องจากจะเป็นการเปิดพื้นที่ต่อเนื่องจากภายในสู่ภายนอก และยังเป็นการเปิดมุมมอง ซึ่งทำให้บ้านที่มีขนาดจำกัดนั้นเหมือนมีขนาดใหญ่ขึ้น ลักษณะการแต่งบ้านแบบโปร่ง
ลักษณะอาคาร การแต่งบ้านแบบโปร่งเริ่มจากการมีตัวอาคารสถาปัตยกรรมที่เหมาะสมโดยลักษณะอาคารแบบโปร่งนั้นประกอบด้วย การมีช่องเปิดต่าง ๆ ขนาดใหญ่,ผนังกระจกบานใหญ่,ประตูกระจกบานเลื่อนหรือบานเฟี้ยม เพื่อให้อาคารสามารถรับแสงได้ดีและสามารถเปิดพื้นที่สู่ภายนอกได้อย่างเต็มที่ ส่วนพื้นที่ภายในอาคารนั้นแน่นอนว่าขนาดห้องที่กว้างและใหญ่จะทำให้เกิดความโปร่ง แต่ถ้าพื้นที่จำกัดต้องใช้การจัดวางเฟอร์นิเจอร์,การใช้วัสดุ,และการให้แสงช่วยให้ห้องดูโปร่งขึ้น ในส่วนของเพดาน ห้องควรมีเพดานสูง ถ้าห้องมีเพดานต่ำก็ควรให้เพดานมีสีอ่อน ประกอบกับผนังกระจกบานใหญ่ก็จะช่วยให้ห้องนั้นดูโปร่งและกว้างขึ้นได้ ในด้านโครงสร้างของอาคารและโครงสร้างผนัง โครงสร้างที่บางจะทำให้อาคารดูโปร่งและเบา เช่น โครงสร้างที่ประกอบด้วยเหล็ก,กระจก,ตะแกรงโลหะ ซึ่งใช้มากในอาคารสมัยใหม่ ผนังภายในอาคาร ไม่ควรมีผนังภายในพื้นที่อาคารมากจนเกินไป เพราะจะทำให้พื้นที่ถูกแบ่งเป็นหลาย ๆ ส่วน และดูเล็กลงกว่าความเป็นจริง ไม่ควรมีผนังสูงมากนัก ถ้าจะมีการแบ่งส่วนภายในห้องควรใช้ผนังเตี้ย, แผ่นกั้นห้องรูปแบบต่าง ๆ หรือผนังที่ปรับเปลี่ยนได้ อาจจะเป็นบานเลื่อน,บานพับ หรือบานเฟี้ยมที่จะปิด เพื่อกั้นส่วนห้องเมื่อจำเป็นเท่านั้น หรืออาจใช้ม่านในการแบ่งส่วนก็พอ ผนังกั้นห้องที่เป็นกระจกใสและกระจกฝ้าขุ่นนั้นจะช่วยให้ห้องดูโปร่ง เนื่องจากดูบางเบา และแสงสามารถผ่านเข้ามาทำให้ห้องสว่าง รวมทั้งยังให้ผู้อยู่อาศัยมองเห็นวิวภายนอกได้ การแบ่งส่วนห้องนั้นไม่จำเป็นเสมอไปที่จะต้องกั้นด้วยผนัง ห้องสามารถถูกแบ่งโดยเฟอร์นิเจอร์ได้ด้วย เช่น การใช้เคาน์เตอร์กั้นส่วนห้อง,ตู้เตี้ยและชั้นโปร่งแบบต่าง ๆ เป็นต้น วัสดุและสีภายในอาคาร บริเวณพื้นผนังและเพดานภายในห้องควรใช้สีอ่อนจะทำให้ห้องดูสว่างและโปร่ง พื้นอาจเป็นวัสดุสีธรรมชาติได้
พื้นผิวของวัสดุที่เรียบและมัน เช่น กระเบื้อง,แกรนิต,หินอ่อน,วัสดุผิวลามิเนตต่าง ๆ นั้น จะช่วยสะท้อนแสงทำให้ห้องดูสว่างเช่นกัน ถ้าห้องมีความกว้างและโล่งพออยู่แล้วสามารถใช้วัสดุผิวหยาบต่าง ๆ เช่น หินได้ ถ้าต้องการให้ห้องดูโปร่งขึ้น ไม่ควรใช้ลวดลายและสีสันตัดกันบนพื้น ผนังและเพดาน ใช้สีอ่อนโทนเดียวกันจะดีกว่า ถ้าต้องการเล่นลายต่างๆ เช่น ลายกระเบื้อง ให้เลือกลายขนาดเล็ก และสีไม่ตัดกัน หรือฉูดฉาดมากนักบนตัวลาย การใช้กระจกเงาบนผนังจะช่วยให้ห้องดูกว้างขึ้นด้วย จากเงาที่สะท้อนในกระจก และจากแสงที่เข้ามากระทบกระจกเงา ทั้งนี้ให้คำนึงถึงมุมมองของห้องที่สะท้อนในกระจกด้วยว่า ควรจะดูเรียบร้อย และเสริมความโล่งของห้อง เฟอร์นิเจอร์ ให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่มีลักษณะเบา ไม่เทอะทะ เช่น ชั้นวางของแบบโปร่ง โครงเป็นเหล็กบางหรือโลหะเส้นเล็ก กับชั้นกระจก เป็นต้น
ชั้นวางของและตู้ทึบไม่ควรสูงเกินระดับสายตา หรือประมาณ 1.50 เมตร ถ้าห้องมีขนาดเล็ก ส่วนของโต๊ะและเก้าอี้ ภายในห้องให้มีลักษณะโครงสร้างเบาและขนาดไม่ใหญ่ เช่น เก้าอี้ขาสแตนเลส,ที่นั่งไม้ดัดขึ้นรูป หรืออะคริลิก เป็นต้น รวมทั้งเฟอร์นิเจอร์เบาที่มีล้อต่างๆ ในส่วนของการจัดวางเฟอร์นิเจอร์ ควรจัดระยะห่างให้เหมาะสม ไม่แน่นจนเกินไปและดูสบายตา ไม่ใส่จำนวนเฟอร์นิเจอร์มากเกินไป เพราะจะทำให้ห้องดูแน่น ควรจัดวางเฟอร์นิเจอร์ให้เป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่ดูรก รูปแบบของเฟอร์นิเจอร์ควรเข้ากัน ถ้าจะมีบางตัวที่แตกต่าง ก็มีได้เพื่อทำให้เกิดจุดสนใจภายในห้อง ในกรณีที่มีของใช้ภายในบ้านเป็นจำนวนมาก การออกแบบส่วนเก็บของนั้นสำคัญมาก เพื่อความเป็นระเบียบเรียบร้อย ตู้เก็บของต่างๆ สามารถถูกออกแบบให้ชิดผนัง และมีบางตู้ยาวจากพื้นถึงเพดาน ซึ่งเป็นการซ่อนที่เก็บของไปกับโครงสร้างผนังห้องไปในตัว ในกรณีที่ห้องมีขนาดเล็ก และไม่พอกับประโยชน์ใช้สอยที่ต้องการ ให้เลือกใช้เฟอร์นิเจอร์ที่สามารถปรับเปลี่ยนรูปแบบได้ เช่นโซฟาที่กางเป็นที่นอนได้, เตียงที่สามารถพับเก็บบนผนังได้,โต๊ะทำงานที่พับเก็บได้ และเก้าอี้ที่สามารถนำมาซ้อนกันได้ เมื่อพับหรือซ้อนเฟอร์นิเจอร์เหล่านี้นั้นห้องจะดูโล่งและกว้างขึ้น จะเปิดออกมาใช้ก็ต่อเมื่อถึงเวลาใช้เท่านั้น เช่นเดียวกับผนังเลื่อน,พับ,ซ้อนต่างๆ ที่ได้กล่าวมาแล้วข้างต้น ที่จะใช้ในการแบ่งห้องหรือสร้างพื้นที่ส่วนตัว เมื่อจำเป็นเท่านั้น ในส่วนของการตกแต่งห้องและของใช้อื่นๆ เช่น แจกัน,กรอบรูป นั้น ให้จัดวางแต่พอดีและเน้นความเป็นระเบียบเป็นหลัก ต้นไม้กระถางสามารถนำมาจัดภายในห้องได้ เพื่อให้เกิดความสบายตายิ่งขึ้น ผ้าม่านควรใช้สีอ่อนและมีลักษณะพลิ้วเบา เนื้อผ้าบางพอให้มีแสงสว่างผ่านได้ ม่านชิ้นแนวตั้งและแนวนอน เช่น ม่านไม้,ม่านผ้าเคลือบ และม่านพลาสติกสามารถใช้ได้ ถ้าเป็นซี่เล็กจะทำให้ห้องดูโปร่งยิ่งขึ้น แสง นอกจากแสงธรรมชาติที่ควรจะเข้ามาในห้องได้ดีแล้วนั้น การใช้แสงจากหลอดไฟต่างๆ ภายในห้อง ควรเน้นการใช้ไฟเพื่อความสว่างทั่วบริเวณเป็นหลัก ถ้าเป็นห้องนั่งเล็กและห้องนอนเพื่อการพักผ่อนในเวลากลางคืน ควรมีโคมไฟเฉพาะจุด เพื่อให้แสงที่สบายตาและไม่สว่างจนเกินไป หรือใช้ไฟเพดานที่สามารถปรับค่าแสงลงได้
จะเห็นได้ว่า การแต่งบ้านแบบโปร่งในปัจจุบันนั้น ค่อนข้างสะดวกและไม่ยุ่งยาก เนื่องจากมีการพัฒนาเทคโนโลยีการสร้างบ้านแบบโปร่งอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านวัสดุและโครงสร้างอาคาร ในส่วนของเฟอร์นิเจอร์ก็มีหลากหลายรูปแบบที่เหมาะสมและราคาไม่แพง การใช้ชีวิตของคนในเมืองซึ่งมีพื้นที่จำกัดทำให้ความต้องการการแต่งบ้านแบบโปร่งยังคงสูงขึ้น ตราบที่เมืองยังขยายตัวมากขึ้นอย่างในปัจจุบัน
โดย อาจารย์ขวัญชัย อธิคมรังสฤษฏ์ |