การเลือกใช้สีกับห้องหับต่างๆ ในบ้านเรานั้นยากเอาการ และต้องมีทักษะพอสมควร แต่อย่าให้ข้อจำกัดนี้มาปิดกั้นความคิดของท่าน เครื่องมือง่ายๆ แต่ได้ใจความ "วงล้อ" แห่งสีสัน เจ้าวงล้อนี้ถือว่าเป็นเครื่องมือยอดนิยมของมัณฑนากรเลยนะครับ มาดูกันครับว่าสามารถนำไปใช้งานได้อย่างไร โดยทั่วไปแล้วเราจะแบ่งสีออกเป็น 4 ประเภท นั่นก็คือ สีหลัก สีรอง สีผสม และสีเอกรงค์ ซึ่งการนำไปใช้งานนั้นก็จะแตกต่างกันไป สีหลัก สำหรับห้องที่ต้องการแสดงออกถึงความรู้สึกแข็งแรง มั่นคง การนำสีหลักมาใช้คือทางเลือกที่ดีที่สุด สีหลักในที่นี้ประกอบไปด้วย สีแดง สีน้ำเงิน และสีเหลือง ซึ่งก็คือแม่สีที่เรารู้จักกันดีนั่นเองครับ สีเหล่านี้ถือเป็นสีบริสุทธิ์ ที่ไม่ได้เกิดมาจากการผสมสีอื่นๆ ซึ่งท่านสามารถนำไปใช้งานผสมผสานกันเป็นคู่ๆ หรือจะใช้ทั้ง 3 สีเลยก็ไม่ผิดครับ สีรอง ได้แก่ สีเขียว สีส้ม และสีม่วง ซึ่งเกิดจากการผสมสีหลัก 2 สีในปริมาณที่เท่าๆ กันเข้าด้วยกันครับ สีรองนี้ สามารถปรับเปลี่ยนเฉดให้อ่อนลงหรือเข้มขึ้นได้ โดยการผสมสีขาวหรือดำเข้าไปครับ ลองนึกถึงห้องที่มีสีส้มอ่อนๆ ตัดกับสีเขียวจางๆ ก็ดูเก๋ดีไม่เบานะครับ สีผสม เกิดจากการผสมสีหลักและสีรองที่ใกล้กันที่สุดบนวงล้อเข้าด้วยกัน ในปริมาณที่เท่ากันครับ ซึ่งได้แก่ สีน้ำเงิน-เขียว สีเหลือง-เขียว สีแดง-ส้ม สีแดง-ม่วง และสีน้ำเงิน-ม่วง โดยส่วนใหญ่เราจะนำสีเหล่านี้ไปใช้กับห้องที่ต้องการความรู้สึกโก้เก๋ครับ สีเอกรงค์ คือ การนำสีเพียงสีเดียวมาใช้คู่กับสีขาวครับ การปรับเปลี่ยนความอ่อน-เข้มของเฉดสีจะช่วยให้ห้องไม่ดูนิ่มนวลจนเกินไป เช่น การผสมผสานระหว่างสีฟ้าอ่อน สีน้ำเงิน สีเนวีบลู จะเกิดความหลากหลายมากมายในตระกูลสีเดียวกันครับ สีกับอารมณ์ สีบางสีสามารถทำให้เรารู้สึกสดใส มีชีวิตชีวา ในขณะที่บางสีสามารถทำให้เรารู้สึกสงบนิ่งได้อย่างไม่น่าเชื่อ ที่เป็นเช่นนี้เพราะเราตอบสนองต่อสีต่างๆ ด้วยใจของเรา ไม่ใช่แค่ความคิดของเราครับ เพราะฉะนั้นในการเลือกใช้สีต่างๆ เราต้องเลือกให้เหมาะสมกับการนำไปใช้งานด้วยครับ สีนั้นมีอิทธิพลต่อเราได้ 3 แบบ ซึ่งได้แก่ สร้างความคล่องแคล่ว สร้างความสงบนิ่ง และเป็นกลาง เมื่อรู้อย่างนี้แล้วเราจะสามารถเลือกใช้สีได้เหมาะกับความต้องการ รสนิยม และการใช้งานของห้องต่างๆ ได้อย่างง่ายดายครับ คราวนี้เรามาดูกันว่าอิทธิพลของสีที่กล่าวมาสามารถนำไปใช้งานได้อย่างไร สีที่สร้างความคล่องแคล่ว ได้แก่ โทนสีเหลือง ส้ม แดง จัดเป็นสีที่ให้ความอบอุ่นและเปิดเผย ซึ่งช่วยเสริมสร้างการพูดคุย สนทนาและท่าทางที่กระฉับกระเฉงด้วย สีแดงจัดเป็นสีที่แรงที่สุดที่สามารถกระตุ้นฮอร์โมนอะดรีนาลินได้มากกว่าสีใดๆ การนำไปใช้เพียงเล็กน้อยในบริเวณโถงทางเข้า จะช่วยกระตุ้นผู้มาเยือนได้อย่างดี อย่าให้เยอะเกินไปนะครับ เดี๋ยวจะอยู่นิ่งไม่ได้ สีเหลืองทองหรือเหลืองส้ม เหมาะอย่างยิ่งสำหรับโฮมออฟฟิศ หรือสำนักงานออกแบบ เพราะจะช่วยปลดปล่อยความคิดสร้างสรรค์ให้ลื่นไหลออกมาได้อย่างดีเยี่ยมครับ สีแห่งความสงบนิ่ง ได้แก่ สีน้ำเงิน เขียว และม่วง จัดเป็นสีที่เย็นสบาย ช่วยเสริมสร้างความสงบ และเพิ่มเติมพลังงานที่หมดไป สีโทนนี้เหมาะกับห้องนอนหรือห้องพักผ่อนส่วนตัว เพื่อความสุขจากการพักผ่อนอย่างแท้จริงครับ สีที่เป็นกลาง ได้แก่ สีน้ำตาล สีเบจ สีเทา และสีขาว สีที่เป็น กลางเหล่านี้จะไม่กระตุ้นความรู้สึกคึกคักหรือสงบนิ่งแต่อย่างใด แต่จะเป็นส่วนเติมเต็มและเปรียบเสมือนสะพานเชื่อมต่อความรู้สึกของห้องและสีต่างๆ เข้าด้วยกันครับ รวมไปถึงการเชื่อมต่อกับงานไม้ คิ้ว หรือบัวประดับอื่นๆ ด้วยครับ สีโทนนี้พบเห็นได้บ่อยในห้องที่เน้นการใช้งานเป็นหลัก เช่น ห้องครัว หรือห้องน้ำ อย่างไรก็ตาม ท่านสามารถนำสีโทนนี้ไปใช้ในห้องรับประทานอาหารหรือห้องนั่งเล่น เพื่อความสงบราบรื่น ก็ไม่ผิดกติกาแต่อย่างไรครับ เสริมไว้อย่างหนึ่งครับว่า โทนสีเข้มจะทำให้สีอื่นๆ ดูเข้มขึ้น ในขณะที่สีขาวจะทำให้สีอื่นสว่างขึ้นไปด้วยครับ ภาษาของสี ท้ายนี้เรามาดูกันครับว่าสีต่างๆ บอกอะไรกับเรา และมีอิทธิพลอย่างไรกับเราเป็นการปิดท้าย สีชมพู : ความสงบ เสริมความสุภาพ อ่อนโยน ความรัก เสน่หา สีเหลือง : ชื่นบาน ยินดี เสริมสร้างพลังงาน สีขาว : ความบริสุทธิ์ เสริมชีวิตชีวาให้กับสีอื่นๆ สีดำ : วินัย อำนาจ พลัง เสริมสร้างความเป็นอิสระ สีส้ม : ยินดี เด็ดขาด กระตุ้นการเจริญอาหาร การสนทนาพูดคุย สีแดง : อำนาจ กระตุ้น แข่งขัน แสดงออกถึงความดูดดื่ม หลงใหล สีเขียว : สมดุล สดชื่น เสริมสร้างความรู้สึกทางอารมณ์ สีน้ำเงิน : สงบ สดชื่น เย็น สร้างความรู้สึกสงบ พักผ่อน ทั้งหมดนี้คือข้อแนะนำส่วนหนึ่งในการพิจารณาเลือกใช้สีให้เหมาะกับความต้องการและการใช้งานของท่านครับ ถือเป็นไอเดียคร่าวๆ ที่สามารถนำไปประยุกต์ใช้ได้อย่างไม่มีขีดจำกัด
|