ห้องนั่งเล่นคือส่วนที่ต้องรับบทหนักที่สุดในบ้าน เพราะในขณะที่ห้องนอนและห้องใช้งานอื่นๆ อาจออกแบบตามความพึงพอใจของผู้ใช้งานเพียง 1-2 คน แต่ห้องนั่งเล่นต้องเอาใจคนทั้งครอบครัว จึงต้องปรับตัวให้เข้ากับทุกรสนิยม และรองรับความสนใจที่แตกต่างกัน มิหนำซ้ำยังต้องให้ความสบายอย่างมากในแง่สรีรศาสตร์ เพราะต้องถูกใช้เป็นพื้นที่รับรองผู้มาเยือนหลากหลายรูปแบบ ห้องนั่งเล่นที่ดีจึงต้องมีบุคลิกอบอุ่น เป็นกันเอง และให้ความรู้สึกปลดปล่อย เป็นอิสระไปในตัว ฉบับนี้เลยนำเคล็ดลับในการตกแต่งห้องนั่งเล่นจากวารสาร "บ้านซิเมนต์ไทยโฮมมาร์ท" ที่จัดพิมพ์โดยบริษัท กันตนา พับลิชชิ่ง จำกัด มาฝากอีกครั้ง จัดพื้นที่นั่งเล่นแสนสบาย พื้นที่ในห้องนั่งเล่นจะเล็กหรือใหญ่ไม่สำคัญ แต่ควรมีความยืดหยุ่นสูง ปรับเปลี่ยนได้ง่าย รองรับรูปแบบการใช้สอยหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นการจับกลุ่มพูดคุย เล่นเกม ดูโทรทัศน์ ร้องคาราโอเกะ หรือฟังเพลง เครื่องเรือนในห้องนั่งเล่นควรเตรียมพร้อมต้อนรับผู้คนหลากรูปลักษณ์ ด้วยการเลือกใช้เก้าอี้นั่งสบายที่ปรับมุมหรือความสูงได้ หรือเก้าอี้เอนหลังมีที่วางเท้าให้ความสะดวกสบาย ควรหลีกเลี่ยงเฟอร์เจอร์ไม้แกะสลักแข็งกระด้าง และเก้าอี้บุผ้าหนาหนักหรือนิ่มยวบจนนั่งแล้วจม เพราะไม่เหมาะกับการนั่งเป็นเวลานานๆ และควรเลือกใช้เก้าอี้ขนาดกลางที่เคลื่อนย้ายง่ายดีกว่าโซฟายาวใหญ่ที่เคลื่อนย้ายยาก สบายสนุกอย่างสุขภาพดี คุณสมบัติ 4 อย่างของห้องนั่งเล่นสุขภาพดี คือ สว่าง โล่ง โปร่ง และสบาย จึงควรเลือกใช้สีโทนกลางอ่อนๆ สำหรับผนังห้องแทนสีสด ถ้าคุณชอบสีสดใส ควรเลี่ยงไปใช้วิธีแต่งแต้มด้วยหมอนอิง สีสวย หรือใช้แสงไฟส่องลงบนของแต่งบ้านสีสดจะดีกว่าการทาผนังด้วยสีสด นอกจากของตกแต่งสวยงามแล้ว ปัจจุบันห้องนั่งเล่นยังต้องทำหน้าที่เป็นโฮมเธียเตอร์ไปในตัว จริงอยู่ที่โฮมเธียเตอร์เป็นศูนย์กลางแห่งความบันเทิงในยามพักผ่อน แต่ถ้าลองสังเกตดูดีๆ จะพบว่า เมื่อคุณนั่งดูไปนานๆ คุณจะรู้สึกเหนื่อยล้า ซึ่งไม่ใช่เพราะโซฟาไม่ถูกหลักสรีรศาสตร์ แต่เพราะคุณถูกคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้าโหมกระหน่ำเข้าใส่ตัวมากเกินไป ที่น่ากลัวคือ มันเล็ดลอดออกมาทำลายสุขภาพดีของคุณได้แม้ในยามที่ปิดสวิตช์ ห้องนั่งเล่นสุขภาพดีจึงควรพิจารณาลดปริมาณคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า โดยเลือกอุปกรณ์ที่มีการแผ่กระจายต่ำ (low emission ถ้าเป็นไปได้ ควรวางโทรทัศน์ไว้ในตู้แบบมีบานปิด และปิดบานตู้โทรทัศน์ทุกครั้งที่ใช้งาน อย่าลืมวางโซฟาให้ห่างจากจอโทรทัศน์อย่างน้อยที่สุด 5 ฟุตด้วย พื้นผนังห้องสุขภาพดี ปัจจุบันมีวัสดุตกแต่งห้องมากมายให้เลือกใช้ วัสดุธรรมชาติที่สามารถนำมาใช้ปูพื้นห้องนั่งเล่นสุขภาพดี ได้แก่ พื้นไม้จริง หินกาบ หินทราย หินอ่อน และกระเบื้องเซรามิก เจ้าของบ้านส่วนใหญ่มักเกิดความลังเลอยากใช้พื้นสำเร็จรูป ชนิดไม่เป็นรอยขูดขีด เพราะประหยัดและดูแลรักษาง่าย แต่วัสดุสังเคราะห์เหล่านี้มักคายกลิ่นสารเคมีที่ก่อให้เกิดอาการเหนื่อยล้าอ่อนๆ ไปจนถึงซึมเศร้ารุนแรงได้ ถ้าชอบที่จะใช้พรม ควรเลือกใช้พรมขนสัตว์ หรือพรมเส้นใยธรรมชาติที่ทำความสะอาดได้ง่าย แต่ห้ามไม่ให้คิดทำลายสุขภาพตัวเองด้วยการปูพื้นด้วยพรมสังเคราะห์จากผนังจดผนังเป็นอันขาด เพราะพรมเหล่านี้จะถูกยึดติดกับผิวพื้น ทำให้ฝุ่นผงที่เป็นตัวก่อโรคภูมิแพ้ถูกกักไว้ข้างใต้โดยไม่สามารถกำจัดออกไปได้ ยิ่งไปกว่านั้นเส้นใยสังเคราะห์ ยางรองและกาวที่มาพร้อมพรม ล้วนแล้วแต่ประกอบด้วยสารก่อพิษ เครื่องเรือนสุขภาพดี พยายามมองหาเครื่องเรือนที่ผลิตจากวัสดุธรรมชาติ ที่ได้รับการผลิตอย่างประณีตทนนาน เครื่องเรือนที่ทำจากไม้จริงเคลือบเงาด้วยน้ำมันหรือขี้ผึ้ง เครื่องเรือนที่ผลิตในท้องถิ่นซึ่งใช้ง่าย ซ่อมสะดวก หรือแม้แต่เครื่องเรือนไม้ชิ้นเก๋ที่คุณออกแบบและลงมือสรรค์สร้างด้วยตนเอง ล้วนเป็นทางเลือกที่น่าสนใจ ผ้าหุ้มโซฟา ปลอกหมอน ผ้าหุ้มเบาะควรเลือกผ้าที่ใช้เส้นใยธรรมชาติ เช่น ผ้าฝ้าย ผ้าลินิน ผ้าป่าน ซึ่งล้วนให้ความรู้สึกโปร่งสบาย แม้จะเป็นรอยยับย่นบ้าง แต่จะเป็นผลดีกับสุขภาพของคุณมากกว่าปลอกหมอน หรือผ้าม่านที่ทำด้วยผ้าที่ไม่ต้องรีด ซึ่งแม้จะประหยัดแรงงานแต่ก็ทำลายสุขภาพในระยะเวลายาวเช่นกัน แสงแดดเพื่อสุขภาพ การนำแสงเข้าสู่บ้านอย่างพอเหมาะ สร้างความรู้สึกดี สดชื่นต่อกายและใจ เพราะเมื่อแสงอาทิตย์เข้าสู่ดวงตาจะกระตุ้นระบบภูมิคุ้มกันและระบบประสาท อีกทั้งยังสร้างงานศิลป์ที่ซื้อหาไม่ได้ ลองคิดถึงเงาของแสงยามเย็นที่ส่องผ่านผ้าม่านลินินหรือเงาวูบไหวของใบไม้บนพื้นผิวไม้ขัด เรียนรู้ที่จะใช้ประโยชน์จากแสงแดดให้เต็มที่ โดยเปิดรับแสงให้เหมาะกับเวลาเลือกจัดผังกลุ่มเก้าอี้นั่งเล่นหรือเก้าอี้อ่านหนังสือตัวโปรดในบริเวณที่ได้รับแสงสว่างดีที่สุด อย่าจัดกลุ่มโซฟาหันปะทะแสงจ้า และไม่วางโทรทัศน์รับแสงอาทิตย์กลางวันตรงๆ ในยามกลางวันแสงอาทิตย์ที่รุนแรง อาจทำให้ห้องดูแข็งกระด้าง กรอกแสงจ้าจากดวงอาทิตย์ให้อ่อนลงด้วยม่านไม้ไผ่ ผ้าม่านเนื้อโปร่งหรือแพรเยี่อไม้สีสวย เลือกใช้ม่านชนิดชักซึ่งจะเปิดรับแสงสว่างทั้งหมดได้ทันทีเมื่อดึงม่านขึ้น หลีกเลี่ยงผ้าม่านที่มีลักษณะเป็นชั้นๆ หรือจับเกล็ดซ้อนๆ กัน เพราะจะกักเก็บฝุ่นและต้องดูแลมาก
|