ห้องนอนเด็ก

ห้องนอนเด็ก
จะว่ากันไปแล้ว ดิฉันว่าเด็กสมัยนี้โชคดีกว่าเด็กสมัยก่อนอย่างเราๆมาก ดูอย่างหลานๆอายุ 7 ขวบ กับ 8 ขวบของดิฉันซิคะ ไม่ทันไรก็มีห้องนอนส่วนตัวสุดจ๊าบ เพียบพร้อมไปด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ที่พร้อมจะส่งเสริมพัฒนาการการเรียนรู้ของเด็กๆวัยซน เห็นแล้วก็อดไม่ได้ที่จะอิจฉา คิดย้อนไปว่าทำไมเราไม่มีอย่างนี้บ้างสมัยเป็นเด็ก มันคงจะเท่ห์ไม่เบาเลยทีเดียว จริงๆแล้วรู้สึกดีใจกับเด็กๆสมัยนี้ที่พ่อแม่ยุคใหม่หันมาเข้าใจ และให้ความสำคัญกับความเป็นสัดเป็นส่วน ความเป็นส่วนตัวของเด็กมากขึ้น นอกจากนี้ มันยังบ่งบอกถึงสถานภาพทางเศรษฐกิจที่ดีขึ้นของประเทศอีกด้วย เนื่องจากมันบ่งชี้ให้เห็นว่าประชาชนมีพลังจับจ่ายที่สูงขึ้นนั่นเอง 
     ทีนี้ พ่อแม่หลายๆท่านคงจะสงสัยว่า ห้องนอนเด็กก็เป็นแค่ห้องนอนห้องหนึ่ง แล้วจะมีสำคัญซักแค่ไหนกัน แต่แท้ที่จริงแล้วคำตอบ คือ สำคัญมากค่ะ เนื่องจากในวัยแห่งการเรียนรู้ เป็นช่วงเวลาที่สำคัญ และละเอียดอ่อนมากสำหรับเด็ก เพราะฉะนั้นจะต้องระวังทุกๆรายละเอียดรอบตัว เพื่อให้ลูกน้อยที่คุณรักเจริญเติบโตขึ้นมาอย่างเหมาะสม และปลอดภัย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ท่านใดที่รัก และเป็นห่วงลูกตัวน้อยของคุณ ก็ควรที่จะคำนึงถึงหลักสำคัญดังต่อไปนี้ เพื่อห้องโปรดของลูกๆคุณจะไม่กลายเป็นที่ที่ทำร้ายสุขภาพลูกน้อยของคุณ    
1. ห้องนอนเด็กต้องเป็นห้องที่ให้เด็กซนได้อย่างปลอดภัย พฤติกรรมซุกซนของเด็กเล็กๆนั้นเป็นเรื่องธรรมดา เพราะนั่น คือ หนึ่งในกระบวนการการเรียนรู้ของพวกเค้า แต่จะทำอย่างไรเพื่อให้พวกเค้าซนได้อย่างปลอดภัยต่างหาก ที่เป็นเรื่องสำคัญ ดังนั้นหัวใจของการออกแบบตกแต่งห้องนอนเด็กข้อแรก คือ ต้องเป็นห้องที่ให้เด็กซนได้อย่างปลอดภัย ภายใต้การออกแบบที่มีสีสันสดใส และลวดลายที่สวยงาม
การกระโดด โลดเต้น หรือการปีนป่ายนั้น ล้วนแต่เป็นธรรมชาติของเด็กทุกคน เพราะฉะนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรพึงระวังเรื่องของเหลี่ยม มุม คม หรือสันต่างๆ นอกจากนี้ ควรเลือกวัสดุปูพื้นที่มีพื้นผิวนุ่ม ซึ่งได้แก่ กระเบื้องยางหรือไม้ปาร์เก้ ควรหลีกเลี่ยงการปูพื้นของห้องนอนเด็กด้วยหิน หรือกระเบื้อง เนื่องจากเมื่อหกล้มบนพื้นแข็ง ที่มีความหนาแน่นสูง เหล่านี้แล้ว ลูกของคุณจะเจ็บมากเป็นพิเศษค่ะ
นอกจากนี้ ความแข็งแรง ทนทานของเฟอร์นิเจอร์ก็ควรให้ได้มาตรฐาน จะได้วางใจได้ว่าเวลาที่ลูกๆ
ของคุณ โยกหรือปีนแล้ว โต๊ะหรือตู้เหล่านั้นจะไม่ล้มทับใส่พวกเค้าทั้งนี้ ดิฉันไม่ได้สนับสนุนให้เด็กๆ ซุกซน แต่อย่างใด แต่ในเมื่อไม่สามารถห้ามไม่ให้พวกเค้าซุกซนได้ ทำไมเราไม่ทำให้พวกเค้าสนุกได้อย่างปลอดภัย แทนล่ะคะ
2. ขนาดของเฟอร์นิเจอร์ที่เหมาะสม ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกันค่ะ โดยเฉพาะชุดโต๊ะเขียนหนังสือ ซึ่งมีบทบาทสำคัญต่อการเรียนรู้ของลูกน้อยของคุณ ขนาดนั้นต้องเหมาะสมกับเด็ก ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป เพราะถ้าใหญ่เกินไปเด็กๆก็จะไม่นั่ง แต่ถ้าเล็กจนเกินไปก็จะทำให้หลังงอ เนื่องจากท่าทางการนั่งที่ไม่เหมาะสม จะทำให้มีบุคลิกภาพที่ไม่ดี เมื่อโตขึ้นได้ ดังนั้น
ดิฉันจึงขอแนะนำให้คุณพ่อคุณแม่เลือกใช้ชุดโต๊ะเขียนหนังสือแบบลอยตัว ซึ่งคุณสามารถ
เปลี่ยนให้เหมาะสมกับขนาดของเด็กวัยเจริญเติบโตอย่างลูกๆของคุณได้ทันที ในกรณีที่ต้องการซื้อเผื่อโต ดิฉันแนะนำให้เลือกเผื่อได้ แต่ไม่ควรซื้อเผื่อเกิน 5 ปีคะ
3. ห้องนอนปลอดฝุ่น ต่อไปนี้คุณสามารถปกป้องลูกน้อยของคุณให้ปลอดภัยจากเชื้อโรค และฝุ่น อันเป็นสาเหตุของโรคหอบหืด ภูมิแพ้ และหวัดเรื้อรังได้ โดยการออกแบบตกแต่งห้องนอนลูกๆ ให้เปิดโล่ง มีอากาศถ่ายเทได้สะดวก และโดยการติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่เหมาะสม
โรคหอบหืด และภูมิแพ้เป็นโรคหนึ่งที่พบมากในกลุ่มเด็ก โดยเฉพาะกลุ่มเด็กเล็ก ที่ยังมีปัญหาฉี่รดที่นอน ห้องที่ปิดอับ และอากาศไม่ถ่ายเทจะเป็นแหล่งสะสมของเชื้อโรค และกลิ่นเหม็นอับอันไม่พึงประสงค์
ในเวลาเดียวกัน ขณะที่กังวลกับภัยจากสารพิษภายนอกบ้าน คุณพ่อคุณแม่หลายท่านกลับมองข้ามอันตรายใกล้ตัว อย่างเจ้าตุ๊กตาขนฟูตัวน้อย ที่วางอยู่บนเตียง เคียงข้างลูกน้อยของคุณ ถ้าอย่างนั้น ลองเปลี่ยนมาเก็บเจ้าตุ๊กตาพวกนี้ไว้ในตู้บานปิดดูซิคะ ไม่ว่าจะเป็นตู้บานปิดทึบก็ดีหรือตู้กระจกก็ดี เพื่อตุ๊กตาตัวโปรดของลูกๆคุณ จะไม่เป็นที่อมฝุ่นผู้น่ารักอีกต่อไป
ยี่ห้อ และตำแหน่งการติดตั้งเครื่องปรับอากาศเป็นอีกสิ่งหนึ่งที่คุณจะละเลยไม่ได้ คุณพ่อคุณแม่ควรติดตั้งเครื่องปรับอากาศในตำแหน่งที่ลมไม่สามารถพัดโดนตัวลูกๆได้ และควรเลือกเครื่องปรับอากาศที่สามารถควบคุมอุณหภูมิได้อย่างแท้จริง เนื่องจากเวลาเช้ามืด อากาศภายนอกจะลดต่ำลง และทำให้อากาศภายในห้องนอนเย็นขึ้นกว่าที่ตั้งเครื่องปรับอากาศไว้ ประกอบกับพฤติกรรมนอนดิ้นจนผ้าห่มตกเตียงของเด็กๆแล้ว ส่งผลให้เด็กๆหลายคนเป็นหวัดเรื้อรังไปตลอดทั้งปี เห็นไหมคะว่าเรื่องเล็กเหล่านี้ สามารถก่อให้เกิดปัญหามากมายอย่างไม่น่าเชื่อ
4. ต่อมาเป็นเรื่องของ แสงสว่างที่เหมาะสม ภายในห้องนอนคะ ควรให้แสงสว่างธรรมชาติส่องเข้ามามากพอที่จะทำให้ห้องแห้ง ไม่อับชื้น จนเป็นที่สะสมของเชื้อโรค นอกจากนี้ ยังต้องให้แสงส่องเข้ามาอย่างถูกทิศทางอีกด้วย ควรให้แสงธรรมชาติส่องเข้ามาทางซ้ายมือของโต๊ะอ่านหนังสือ เพื่อที่จะไม่มีเงาพาดผ่านบนหนังสือ และเพื่อที่จะไม่ทำให้กิจกรรมการอ่านหนังสือ ที่เป็นที่โปรดปรานของลูกๆ กลายเป็นสาเหตุของปัญหาสายตาผิดปกติ อันเนื่องมาจากการเพ่งหรือใช้สายตามากกว่าที่ควรเป็น
5. ความต้องการพิเศษอื่นๆ สำหรับเด็กที่มีความผิดปกติทางด้านร่างกายหรือเด็กที่ต้องการการดูแลเป็นพิเศษนั้น มีความละเอียดอ่อนมาก ฟังก์ชั่นพิเศษสำหรับเด็กพิเศษจำเป็นต้องพิจารณาเป็นกรณีๆไป อย่างไรก็ตาม พยายามอย่ายัดเยียดความเป็นเด็กที่มีความต้องการพิเศษให้กับลูกๆของคุณเพราะนั้นจะกลายเป็นการโอ๋ และตามใจจนเกินไปนะค่ะ
6. และสุดท้าย ยอดเยี่ยมด้วยจินตนาการ ที่จะรังสรรค์ให้ห้องของหนูๆสวยสดใส น่าอยู่ ถึงแม้จะจริงอยู่ว่า จินตนาการอาจจะไม่ใช่เรื่องจำเป็น แต่หากสามารถเติมมันลงไปได้ ก็จะทำให้เด็กๆมีความสุข สนุก เพลิดเพลินไปกับความฝัน และจินตนาการ รวมทั้งยังทำให้เด็กๆเกิดความภาคภูมิใจในตัวเองอีกด้วย

คงเห็นแล้วนะคะว่าไม่ใช่เรื่องง่ายๆ ที่จะทำให้ลูกน้อยที่คุณรักเติบโตขึ้นอย่างเหมาะสม และปลอดภัย หวังว่าคราวนี้คุณพ่อคุณแม่ยุคใหม่ ที่ต้องการจะแยกห้องนอนให้กับลูกๆ คงพอจะได้ไอเดียอะไรไปบ้าง
ข้อมูลจาก bareo-isyss