วิธีที่จะช่วยพัฒนาฝีมือการแต่งบ้านให้ได้บ้านที่ทั้งสวยและอยู่สบาย จนมืออาชีพยังต้องยกนิ้วให้ 1. ขนาดและสัดส่วน รู้ขนาด และ สัดส่วนของเฟอร์นิเจอร์ รวมทั้งระยะต่างๆ ระหว่างเฟอร์นิเจอร์แต่ละชิ้น การจำขนาด และสัดส่วนเหล่านี้ให้ขึ้นใจ จะทำให้จัดวาง ผังเฟอร์นิเจอร์ ได้คล่องขึ้น 2.พกตลับเมตรไว้เสมอ เมื่อไปเลือกซื้อเฟอร์นิเจอร์ ของแต่งบ้าน ผ้าม่านและทุกๆอย่าง เพื่อให้ได้ขนาดที่ลงตัวกับพื้นที่ 3. รู้จักสไตล์การตกแต่งต่างๆ โดยเฉพาะในยุค Mix & Match ที่นิยมผสมข้าวของจากหลายยุคสมัยเข้าด้วยกัน ต้องรู้ว่าสไตล์ใด เข้ากับสไตล์ใด และสไตล์ใดไม่ควรจับมาอยู่ด้วยกัน 4. เข้าใจการใช้สี ว่าสีใดให้ความรู้สึกอย่างไร เน้นเฉพาะสีที่ชอบ และสีที่ต้องการใช้ในบ้าน แล้วจึงเรียนรู้เรื่อง ความเข้ม-อ่อนของสี และหาคู่สีที่เข้ากันได้ ต้องได้เห็นการใช้งานจริง จากสถานที่ต่างๆที่คุณได้ไปเยือน หรือสีของสิ่งต่างๆรอบตัวและเรียนรู้ควบคู่ไปกับเรื่องของสไตล์ 5. รอบรู้แหล่งสรร ยิ่งรู้จักร้านขายของแต่งบ้าน มากเท่าไร ก็ยิ่งมีทางเลือกในการซื้อของดีราคาถูกมากเท่านั้น แม้แต่ร้านขายของเก่าก็ไม่ควรมองข้าม รวมถึงร้านประเภททำตามสั่งด้วย 6. ประดิษฐ์ของแต่งบ้านเอง จะได้ของใช้ที่ไม่เหมือนใครและประหยัดสตางค์ด้วย ประยุกต์จากวัสดุราคาถูกที่หาได้ใกล้ตัวหรือประดิษฐ์ขึ้นมา ตามความคิดสร้างสรรค์ก็ได้ 7. ตีสนิทกับช่างฝีมือ การเลือกหาช่างฝีมือดีมาไว้ใช้งาน ทำให้ตกแต่งบ้านได้ง่ายขึ้นและปวดหัวน้อยลง เมื่อเจอช่างฝีมือดีและนิสัยดี ก็ควรจะเก็บไว้ในลิสต์รายชื่อ 8. สังเกตพฤติกรรมของลูกค้า เฝ้าสังเกตพฤติกรรม การใช้ชีวิตและความชอบของตัวเอง จะช่วยให้ออกแบบบ้านได้ ตรงตามความต้องการมากขึ้น 9. ดูตัวอย่างมากๆ การได้เข้าไปสัมผัส สถานที่ต่างๆ ด้วยตัวเองนั้น มีอารมณ์ร่วมไปกับการสร้างบรรยากาศ ด้วยแสงและสี และได้เห็นรายละเอียดของการตกแต่งอย่างใกล้ชิด ตัวอย่างสถานที่ที่ควรไป ได้แก่ โรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ร้านค้าต่างๆหรือแม้แต่บ้านเพื่อน 10. พัฒนารสนิยม บางครั้งอาจจะต้องใช้วิธีซึมซับจากผู้ที่มีรสนิยมดีๆ การพิจารณาเปรียบเทียบคุณภาพกับ มูลค่าของสินค้าที่แตกต่างกัน ก็จะช่วยให้สายตาเฉียบคมขึ้น สามารถเลือกซื้อสินค้าและเฟ้นหาของดีราคาถูกได้เก่งขึ้นด้วย ที่มา นิตยสารบ้านและสวน |