|
สวนอังกฤษ |
ในช่วงคริสต์ศตวรรษที่ 18 ในอังกฤษเกิดการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบสวนเป็นอย่างมาก เชื่อกันว่าเป็นผลมาจากการออกล่าอาณานิคมและทำการค้ากับประเทศทางตะวันออกโดยเฉพาะจีน การจำลองธรรมชาติเข้ามาไว้ในสวนบวกกับความชอบใช้ชีวิตในชนบทของชาวอังกฤษก่อให้เกิดแนวคิดใหม่ในการออกแบบสวนยุโรป ลบล้างสวนแบบเป็นทางการที่เน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิตและเส้นตรง มาเป็นการใช้รูปทรงอิสระ และเส้นสายคดโค้งนักออกแบบสวนมีการตีความของลักษณะแบบ "ธรรมชาติ" ไปต่างๆกัน แต่โดยรวมๆจะเน้นการทำสนามหญ้าทำเนิน ปลูกต้นไม้เป็นกลุ่ม และสร้างให้เกิดบรรยากาศแบบโรแมนติค ชวนฝัน การจัดองค์ประกอบของสวนทำเหมือนกับการวาดภาพทิวทัศน์ หรือที่เรียกว่า "Picturesque Garden" โดยจะต้องกำหนดจุดที่ตั้งใจให้ชมสวน เช่น บริเวณระเบียง ศาลา หรือจากหน้าต่างห้องใดห้องหนึ่ง ภาพที่มองจากจุดที่กำหนดจะประกอบด้วยฉากหน้า (Fore Ground) จุดสนใจ (Focal Point) และฉากหลัง (Back Ground) ตัวจุดสนใจมักเป็นสิ่งก่อสร้างหรืออาคารเล็กๆ รูปแบบขึ้นอยู่กับบรรยากาศของสวนที่ต้องการ เช่น บรรยากาศแบบอะคาเดียน (เมืองชนบทของกรีกที่ร่ำลือว่างดงาม)จุดสนใจมักจะเป็นศาลา หรืออาคารแบบกรีก มีการเลี้ยงปศุสัตว์ปล่อยให้เดินไปตามทุ่งเพื่อเน้นความเป็นชนบทหรือถ้าเป็นบรรยากาศแบบแฟนตาซี ก็จะเห็นการใช้สิ่งก่อสร้างที่ทำเหมือนซากปรักหักพัง หรือบ้านในชนบทหรือแม้กระทั่งสิ่งก่อสร้างของต่างแดน เช่น ปิรามิด เก๋งจีน ถ้ำหรือกร็อตโตแบบโรมัน เป็นต้น หลังการปฏิวัติอุตสาหกรรมและการเปลี่ยนแปลงเข้าสู่สังคมประชาธิปไตยในหลายๆประเทศ ก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงหลายๆอย่างที่สะท้อนออกมาทางรูปแบบสวน ที่เห็นได้ชัดประการแรกคือเรื่องของพรรณไม้ที่มีการโยกย้ายถิ่นฐานข้ามถิ่นกันอย่างมาก นอกจากนี้ยังมีการผลิตและขายต้นไม้ในระบบอุตสาหกรรมคือผลิตต้นไม้แต่ละชนิดและขนย้ายขายกันทีละมากๆชนิดที่เป็นที่นิยมจะกระจายไปทุกหนแห่ง และด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและวัสดุ เช่น การผลิตเหล็กและกระจกที่มีคุณภาพสูงขึ้นสามรถสร้างเรือนกระจกขนาดใหญ่ ทำให้ปลูกพืชที่มาจากภูมิประเทศและภูมิอากาศที่แตกต่างกันได้ เช่น สามารถปลูกไม้ทะเลทรายในเมืองที่มีอากาศร้อนชื้น หรือปลูกพืชจากป่าชื้นเขตร้อนในที่ที่มีอากาศหนาวเย็นได้ เป็นต้น แนวคิดของนักออกแบบสวนก็มีหลากหลายต่างกันไป บางคนพยายามนำรูปแบบสวนในอดีตกลับมาใช้ใหม่ บางคนพยายามเสนอรูปแบบใหม่ๆ เช่น สวนแบบ "การ์เดนเนส" Gardenesque" ซึ่งเน้นการแสดงพืชพรรณอันหลากหลายในสวน โดยจัดแสดงพืชแต่ละชนิดให้เห็นอย่างชัดเจน สวนแบบวิคทอเรียน (Victorian Garden)นำรูปแบบสวนแบบเรอเนสซองส์มาใช้โดยเน้นการใช้รูปทรงเรขาคณิตเป็นแปลงปลูกพืช แต่เน้นการใช้ไม้ดอกมากกว่าไม้ไม่ผลัดใบส่วนสวนในช่วง อาร์ต แอนด์ คราฟต์ มูฟเม้นต์ (Arts and Crafts Movement) ซึ่งมีกลุ่มศิลปินแขนงต่างๆออกมาแสดงแนวคิดต่อต้านรูปแบบการผลิตแบบอุตสาหกรรมก็เป็นอีกรูปแบบหนึ่งที่น่าสนใจ เช่น สวนของโมเนต์ที่ เมือง จิแวร์นี (Giverny)ลักษณะเป็นการปลูกไม้ดอกหลายๆชนิดปะปนกันในแปลง อยู่กับบ้านพักแบบชนบท ส่วนหนึ่งของสวนโมเนต์ทำเป็นบ่อบัวปลูกไผ่และหลิวริมน้ำซึ่งได้แรงบันดาลใจจากสวนจีน สวนแห่งนี้เป็นต้นแบบให้กับรูปเขียนของศิลปินผู้นี้หลายชิ้นทีเดียว |
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 16 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1853 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|