ผ่านพ้นช่วงเทศกาลวันหยุดสงกรานต์ไปหมาดๆ หลายคนได้อาศัยโอกาสดังกล่าวไปรดน้ำดำหัวผู้หลักผู้ใหญ่ที่เคารพ แต่ก็ยังมีอีกหลายคนที่มัวแต่ก้มหน้าก้มตาทำงาน จนลืมนึกไปว่าปีหนึ่งๆได้ผ่านไปพร้อมกับความแก่ชรา และ ความร่วงโรย เสื่อมถอยของสุขภาพ บ่อยครั้งที่เรามักจะเห็นว่า ผู้สูงอายุบางท่าน ไม่สามารถจำชื่อตัวเองได้ ช่วยเหลือตัวเองไม่ได้ ลืมแม้แต่การการทานข้าว การแปรงฟัน ฯลฯ เพราะนั่นเป็นสัญญาณหนึ่งที่บ่งบอกถึงโรคอัมพฤกษ์อัมพาตและโรคอัลไซเมอร์ ที่พบได้บ่อยในผู้สูงอายุ
จากสถิติในปัจจุบันระบุว่า โรคหลอดเลือดในสมอง เป็นสาเหตุของการตาย อันดับที่ 3 รองจากหัวใจและมะเร็ง หากผู้ป่วยโรคนี้ยังมีชีวิตอยู่ก็จะมีความพิการเกิดขึ้น ซึ่งเรามักรู้จักในชื่อของ อัมพฤกษ์อัมพาต นั่นเอง ภาวะนี้เกิดจากสมองส่วนที่ไปควบคุมการทำงานของระบบกล้ามเนื้อ ส่วนต่างๆถูกตัดขาดเพราะไม่มีเลือดไปเลี้ยง และผลก็ทำให้เกิดอาการต่างๆเหล่านี้ได้ เช่น ปากตก ลิ้นแข็ง พูดไม่ชัด กล้ามเนื้อแขนขาอ่อนแรง ควบคุมการทำงานของร่างกายในส่วนต่างๆไม่ได้ ฯลฯ สาเหตุที่ทำให้สมองขาดเลือดนั้น มีหลายสาเหตุไม่ว่าจะเป็นภาวะเส้นเลือดในสมองแตก เส้นเลือดตีบ เลือดคั่งในสมอง ฯลฯ
คุณเพ็ญพิชชากร แสนคำ นักกายภาพปะจำสถาบันปรับโครงสร้างอริยะ กล่าวว่า หลายคนไม่ทราบว่า ภาวะต่างๆ ของสมองนี้ สาเหตุที่แท้จริง เกิดจากความไม่สมดุลภายในร่างกาย ที่เริ่มสะสมปัญหาเล็กๆ ตั้งแต่ระบบกล้ามเนื้อ การไหลเวียนของระบบเลือดไม่ดี มีไขมันในหลอดเลือดสูง หลอดเลือดไม่มีความยืดหยุ่น ออกกำลังกายน้อย เกิดภาวะความดันสูง และหากมีภาวะเหล่านี้ควบคู่ไปกับภาวะจิตใจที่ย่ำแย่ พร้อมทั้งการกินอาหารที่ผิด อาจเป็นปัจจัยสูงสุด ที่ทำให้เป็นโรคดังกล่าวได้
สิ่งที่ดีที่สุดควรออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ ทานอาหารที่มีประโยชน์เลือกทานผักสดๆ ไม่ผ่านการลวกต้มจะได้ประโยชน์สูงสุด เลี่ยงการทานเนื้อสัตย์และอาหารทะเลเพราะทำให้มีคลอเรสเตอรอลสูง ควรเลือกทานเป็นประเภทปลา และเมื่อเป็นแล้วควรมีจิตใจที่เข้มแข็งคือพยายามทำกิจวัตรต่างๆด้วยตนเองเพราะกล้ามเนื้อเป็นเนื้อเยื่อที่ฝึกขึ้นมาได้หากมุ่งมั่น และถือเป็นการออกกำลังกายที่ดีมาก ส่วนลูกหลานก็ควรเข้าใจเพราะผู้เป็นโรคนี้จะหงุดหงิดง่าย พยายามอยู่ใกล้คอยช่วยเหลือเมื่อเขาต้องการแต่หากเขาพอทำกิจอะไรได้เองก็ควรปล่อยให้เขาช่วยเหลือตัวเองจะดีที่สุดเพราะหากช่วยหมดกล้ามเนื้อไม่ได้ถูกใช้งานก็จะทำให้อ่อนกำลังลงเรื่อยๆ
ส่วนโรคอัลไซเมอร์ อีกภาวะหนึ่งที่เป็นอันตรายต่อผู้สูงอายุเช่นเดียวกัน ที่แม้แต่วงการแพทย์ทั่วโลก ก็ยังไม่สามารถบอกสาเหตุที่ชัดเจนว่าจริงๆแล้วเกิดจากอะไร เพียงแต่ระบุว่า เป็นภาวะที่เป็นความผิดปกติของเซลล์สมอง ที่มีใยประสานที่เรียกว่า Neurofibrillaary Tangles ทำให้เลือดไปเลี้ยงสมองไม่ได้ และมีสาร Beta Amyloid หุ้ม ทำให้ การทำงานของ Acetylcholine ลดลง ซึ่งมีหน้าที่เป็นสารสื่อประสาท
แต่หากจะป้องกัน ผู้เชี่ยวชาญเรื่องการปรับโครงสร้างระบุว่า ในทางธรรมชาติบำบัด ภาวะต่างๆ และความผิดปกติของร่างกายที่เกิดขึ้นนั้น เมื่อใดก็ตามที่ร่างกายเกิดความไม่สมดุล ทำงานได้ไม่เต็มประสิทธิภาพแค่เพียงส่วนหนึ่งส่วนใด ก็จะมีผลทำให้เกิดความผิดปกติต่อการทำงานทั้งระบบได้ทันที ฉะนั้นวิธีป้องกันโรคดังกล่าวที่ดีที่สุด คือต้องหันกลับดูแลตัวเองตั้งแต่วันนี้ เริ่มตั้งแต่การทานอาหารที่มีประโยชน์ ออกกำลังกายสม่ำเสมออย่างถูกวิธี อยู่ในสิ่งแวดล้อมที่ดี หมั่นเอาของเสียออกจากร่างกาย ซึ่งหากจะทำให้ได้ผลดีที่สุด ต้องมีระบบการไหลเวียนทั้งเลือด น้ำเหลือง และเส้นประสาทที่ดี จึงจะทำให้การส่งอาหาร อากาศ การขับของเสียออกจากเซลล์ มีประสิทธิภาพสูงสุด
การมีโครงสร้างร่างกายที่สมดุล เป็นกุญแจสำคัญที่จะทำให้มีสุขภาพแข็งแรงได้อย่างแท้จริง ทั้งร่างกายและจิตวิญญาณ แต่หากเมื่อใดที่ท่านรู้สึกว่าร่างกายไม่อยู่ในภาวะปกติแล้ว เช่น เหนื่อยง่าย หายใจไม่อิ่ม มึนงง บ่อยๆ โดยไม่ทราบสาเหตุ ปวดเมื่อยตามตัวรักษาไม่หาย ฯลฯ เหล่านี้ควรจะเร่งดูแลตัวเองอย่างถูกวิธี อย่างน้อยที่สุดก็ทำให้ระบบโครงสร้างร่างกาย อยู่ในภาวะสมดุลก็ถือเป็นการเริ่มต้นที่ถูกวิธีเพื่อดูแลตัวเอง หากท่านใดที่เริ่มมีอาการหลงลืมบ่อยๆ และมากขึ้นเรื่อยๆ เช่น เริ่มจำเรื่องราวเกี่ยวกับตัวเอง หรือสิ่งแวดล้อมไม่ค่อยได้ ก็ควรรีบปรึกษาผู้เชี่ยวชาญเฉพาะโรคจะดีที่สุด ผู้เชี่ยวชาญย้ำ