|
|
สร้าง"เกราะ" ให้สุขภาพ ต้องฝึก "ใจ" ให้รู้จักพอ |
ในยุคนี้สุขภาพเป็นเรื่องหลักที่สังคมกำลังให้ความสนใจ เพราะความตระหนักที่ว่า ชีวิตคงจะมีความสุขไม่ได้ ถ้าปราศจากสุขภาพที่ดี กระแสความนิยมเรื่องการดูแลสุขภาพมีหลากหลายแนวทาง บ้างก็ใช้แนวทางชีวจิต บ้างก็เคร่งครัดถึงขั้นวัดปริมาณแคลอรีในอาหารกันเลยทีเดียวตามหลักการแพทย์สมัยใหม่
แต่จากการพูดคุยกับนายแพทย์ 2 ท่าน มีสิ่งหนึ่งที่ได้เรียนรู้และตระหนักถึงความสำคัญคือ ต่อให้เราสร้างเกราะสุขภาพทางกายกันมากเท่าไหร่ ถ้า ใจ ไม่มีความสุข เกราะนั้นก็ช่วยอะไรไม่ได้ ฉะนั้น สุขภาพใจจึงเป็นเรื่องที่เหนือกาย และหลายครั้งที่การฝึกใจ ช่วยบำบัดโรคทางกายได้ราบคาบเลยทีเดียว
นพ.วินัย วิริยะกิจจา อดีตปลัดกระทรวงสาธารณสุข ปัจจุบันเป็นคณะกรรมาธิการการสาธารณสุข สภาผู้แทนราษฎรให้นิยามของคำว่าสุขภาพ คือ ภาพของความสุข ซึ่งถือเป็นความสำเร็จสูงสุดของการดำรงชีวิต มนุษย์ทุกคนมีหน้าที่ดูแลสุขภาพของตนเองเป็นพื้นฐาน ซึ่งไม่ใช่แค่สุขภาพกายอย่างเดียวแต่รวมถึงสุขภาพใจด้วย บางคนร่างกายแข็งแรงแต่ใจไม่มีความสุขก็มีสุขภาพดีไม่ได้ และการที่มนุษย์จะมีจิตใจที่มีความสุขขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายประการ เรื่องของการมีสุขภาพที่ดีจึงเป็นเรื่องที่มีกลไกหลายอย่างเข้ามาเกี่ยวข้อง
การจะสร้างเกราะสุขภาพ หลักที่สำคัญคือ ความสุข ซึ่งสภาพชีวิตที่เป็นสุขเป็นผลมาจากความสามารถในการจัดการปัญหาในชีวิตอย่างมีสติ องค์การอนามัยโลกบอกว่า มนุษย์ต้องรู้จักผูกมิตร พิชิตอุปสรรค และรู้จักพอใจ พอใจในสิ่งที่เรามีอยู่ ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่นอกเหนือจากการควบคุมของเรา ปัญหาเศรษฐกิจก็นอกเหนือการควบคุมของเรา แต่ถ้าเรามีความพอใจ ก็เป็นตัวป้องกันความอยากได้ แต่ถ้าไม่พอใจ อยากได้ เราก็เกิดความเครียด ซึ่งความเครียดเป็นปัญหาที่ทำลายสุขภาพมาก แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามเรามีความสุขพึงพอใจในสิ่งที่เรามี เราก็มีความสุข สุขภาพก็ดี
น.พ.วินัย อธิบายว่า ผลจากความเครียด ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า ซึ่งเป็นปัญหาใหญ่ที่กำลังคุกคามสังคม มีการคาดหมายกันว่า ในอีก 20 ปีข้างหน้า โรคซึมเศร้าจะมาเป็นอันดับหนึ่งของการเจ็บป่วยของมนุษย์ ความไม่มั่นคงทางจิตใจ ความเครียด ทำให้เกิดโรคซึมเศร้า ขณะนี้อัตราการฆ่าตัวตาย 10 % เกิดจากโรคซึมเศร้าและนับวันจะเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ยิ่งการพัฒนาประเทศโดยใช้เศรษฐกิจเป็นตัวนำ ก็ยิ่งเร่งให้มนุษย์ไม่รู้จักพอใจอย่างไม่สิ้นสุด เพราะกระตุ้นการบริโภค
เพราะฉะนั้นถ้าสร้างภาวะจิตใจให้มั่นคง มีความสุขอย่างพอเพียง เราต้องฝึกใจให้รู้จักพอ ใฝ่หาความรู้ทางการแพทย์มาช่วยเสริมสุขภาพ เราก็มีเกราะสุขภาพ การป้องกันเป็นเรื่องที่สำคัญ ดีกว่ามาแก้ไขภายหลัง รู้เร็วเท่าไหร่ก็ป้องกันโรคได้ดีเท่านั้น ศาสตร์การแพทย์หลายศาสตร์มีประโยชน์ ถ้าเราเลือกที่จะปรับใช้กับร่างกายของเรา
ปัจจุบัน เกราะสุขภาพที่สำคัญคือ ศาสตร์การแพทย์ทางเลือก ในเรื่องนี้ นพ.จักรกฤษณ์ ภูมิสวัสดิ์ เลขาธิการมูลนิธิเพื่อการพัฒนาการแพทย์ทางเลือก เอ่ยถึงแนวคิดของแพทย์ทางเลือกว่า เป็นเรื่องของการฝึกจิต และหมั่นสังเกตตนเอง
แพทย์ทางเลือกจะเน้นที่การฝึกจิต ฝึกสมาธิ เมื่อจิตสงบ ความเจ็บปวดทางร่างกายจะทุเลาลง กรณีเครียดจนปวดหัว หากเป็นศาสตร์แพทย์แผนปัจจุบัน แก้ไขด้วยการให้ยากดประสาท ยาแก้ปวด แต่พอฤทธิ์ยาหมดก็ปวดหัวเหมือนเดิม เพราะตัวความเครียดไม่หายไปไหน ยังอยู่ในใจ อยู่ในความคิด คล้ายๆกับอกหักแล้วดื่มเหล้า พอหายเมา ก็ยังอกหักเหมือนเดิม แต่แพทย์ทางเลือกคือฝึกจิตให้สงบ ความเจ็บปวดทางร่างกายจะทุเลา
นพ.จักรกฤษณ์ เสนอว่า หากสร้างให้ประชาชนมีทางเลือกทางการแพทย์จะมีประโยชน์มาก เพราะแพทย์ทางเลือกบอกว่า สุขภาพเป็นเรื่องของเราที่เราต้องดูแลเอง เราต้องพึ่งพาตนเองเป็นหลัก เพื่อให้มีภูมิคุ้มกันจากสิ่งแปลกปลอมขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันสร้างให้ประชาชนต้องพึ่งพาระบบการแพทย์ ไปหาหมอ ให้หมอจัดการให้ คนไทยจึงติดกับระบบการพึ่งพา มีภูมิต้านทานด้านจิตใจต่ำ
เกราะสุขภาพของแพทย์ทางเลือกคือ หมั่นสังเกตร่างกายตัวเอง แพทย์แผนปัจจุบันบอกว่าต้องไปตรวจสุขภาพทุกปี แต่ค่าที่ได้จากการตรวจสุขภาพใช้ไม่ได้กับทุกคน ร่างกายแต่ละคนไม่เหมือนกัน รับสารต่างๆได้ไม่เท่ากัน
ยกตัวอย่างมุมมองเรื่องอาหาร ในแพทย์ทางเลือกมีคำอธิบายที่หลากหลายมาก ขณะที่แพทย์แผนปัจจุบันจะพูดแต่เรื่อง ปริมาณแคลอรี สารอาหาร ควรได้รับปริมาณเท่าไหร่ แต่มนุษย์ต่างกัน บางคนกินเท่าไหร่ก็ไม่อ้วน บางคนกินนิดเดียวก็อ้วนแล้ว แพทย์ทางเลือกจึงอธิบายว่าอาหารเหมาะสมกับร่างกายหรือไม่ โดยแบ่งอาหารตามหมู่เลือดบ้าง บ้างก็กินอาหารตามหลักแม็คโครไบโอติกส์ รักษาสมดุลหยิน-หยาง ให้รู้ว่าตัวเราควรกินอะไร เพราะเรากินอะไรก็เป็นอย่างนั้น เลือกสรรอาหารที่เหมาะกับตัวเรา ตัวชี้วัดที่ดีที่สุดคือตัวเรา ต้องหัดสังเกตตัวเอง
นพ.จักรกฤษณ์กล่าวว่า แท้จริงแล้ว มนุษย์มีความสามารถในการแยกแยะอะไรได้ ถ้าเราฝึกสมาธินิ่งๆ และทำจนเคยชิน มีหลักการว่า ร่างกายของเราก็เหมือนห้องหนึ่งห้อง ถ้ามีขยะเต็มห้อง เอาขยะโยนเข้าไปอีกชิ้นก็ไม่มีใครรู้ แต่ถ้าห้องนั้นสะอาด ขยะโผล่เข้าไปชิ้นนิดเดียวก็รู้ตัวแล้ว ดังนั้นจึงขึ้นอยู่กับว่า ทำอย่างไรเราจะพัฒนาตัวจับความผิดปกติในร่างกายของเราได้ ฝึกจิตให้สงบ ฝึกกินอาหารที่ไม่มีสิ่งปนเปื้อน ไม่มีชูรส สารเคมี
ถ้าเราทำจิตดี ภูมิต้านทานจะเกิดขึ้น เพิ่มขึ้นเอง กรณีพระในวัดแห่งหนึ่งที่แม่ฮ่อสอนสอนให้คนไข้ผู้ติดเชื้อทำสมาธิอย่างเดียว โดยไม่ใช้ยา ผลวิจัยพบว่ากระตุ้นให้เกิดภูมิคุ้มกันขึ้นมาได้ ทั้งที่โรคนี้เป็นโรคที่ทำลายภูมิคุ้มกันตัวเอง การจะมีเกราะสุขภาพที่ดี อะไรก็ไม่สำคัญเท่ากับการฝึกจิต ฝึกให้สงบ ไม่เป็นคนขี้โมโห ไม่ไหลไปตามอารมณ์ ร่างกายก็ไม่หลั่งสารความเครียดที่มีผลกระทบด้านร้ายกับร่างกาย เราก็อยู่ได้อย่างไม่ป่วย ไม่ปวดหัวเรื้อรัง ดังที่คนสังคมสมัยใหม่เป็นกัน
|
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 11 มิถุนายน 2548
จำนวนผู้อ่าน : 2707 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|
