|
ระวัง รังสียูวี ทำร้ายดวงตา |
ประเภทของรังสียูวีที่ทำร้ายดวงตา รังวียูวีซี
รังสียูวีซี จะส่งผลเสียต่อกระจกตาและเลนส์ตา โดยหากได้รับแสงยูวีประเภทนี้เป็นเวลานานกว่า 30 นาทีจนถึง 12 ชั่วโมง ก็จะมีอาการระคายเคืองที่ตาเหมือนมีสิ่งแปลกปลอม เช่น ฝุ่น หรือ เศษผงเข้าตา อาจมีน้ำตาคลอ หรือซึมอยู่ตลอด และรู้สึกเจ็บอีกด้วย รังวียูวีเอ
รังสียูวีเอ จะส่งผลเสียต่อกระจกตาและเยื่อตา ทำให้มีอาการเมื่อยล้าที่กล้ามเนื้อตา หรือ สูญเสียการมองเห็นอาจชั่วคราวหรือถาวร โรคที่ตามมาจากการได้รับรังสียูวีมากเกินไป โรคต้อกระจก
รังสียูวีส่งผลให้เกิดต้อกระจกได้ง่ายและทำให้จอตาเสื่อมสภาพลง โดยทั้งสองกรณีนี้ มีการสันนิษฐานว่า แสงยูวีนั้นก่อให้เกิดการสร้างสารอนุมูลอิสระที่เป็นสาเหตุให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของโปรตีนและเกิดปฏิกิริยากับไขมันที่ก่อให้เกิดมะเร็งได้
จริงอยู่ว่าต้อกระจกนั้นเกิดขึ้นได้เมื่อเรามีอายุมากขึ้น แต่สิ่งที่เป็นตัวกระตุ้นให้เกิดต้อกระจกได้เร็วขึ้น นั่นก็คือเจ้ารังสียูวีนี่เอง ดังนั้น นักกีฬาส่วนใหญ่ที่ต้องอยู่กลางแจ้งบ่อย ๆ แม้จะอายุยังไม่มาก ก็มักจะเป็นต้อกระจกได้เพราะได้รับแสงยูวีในปริมาณที่มากเกินไปนั่นเอง
สำหรับอาการของโรคต้อกระจก ก็คือ เลนส์แก้วตาจะเริ่มขุ่นมัวทีละน้อย ๆ แต่หากเป็นมาก ๆ เข้า ความขุ่นมัวนั้นจะลุกลามเข้าไปถึงส่วนกลางของกระจกตา ซึ่งจะทำให้การมองเห็นไม่ชัดเจนเหมือนปกติ โรคต้อเนื้อ
ต้อเนื้อเป็นการเสื่อมของเยื่อบุตา กลายเป็นเนื้อสีแดงรูปสามเหลี่ยมยื่นเข้าสู่ตาดำ เกิดจากเยื่อบุตาส่วนนั้นถูกแสงยูวีจากดวงอาทิตย์มามากเกินไป โดยหากเป็นต้อเนื้อแล้ว จะรู้สึกเคืองตา แสบตา คันตา ตาแดง น้ำตาไหล และอาการจะเป็นมากขึ้นเมื่ออยู่กลางแจ้ง โดนแดดและโดนลม ในผู้ที่เป็นน้อยมักไม่มีอาการผิดปกติ ซึ่งอาจดูเหมือนไม่อันตราย แต่ในบางกรณี หากต้อเนื้อลุกลามไปบดบังตรงกลางของกระจกตา อาจมีผลต่อการมองเห็น
คนเราจะได้รับแสงยูวีมากน้อยเพียงใดขึ้นอยู่กับปัจจัยต่อไปนี้ ที่ตั้งทางภูมิศาสตร์
ระดับรังสียูวีจากแสงอาทิตย์บริเวณใกล้เส้นศูนย์สูตรจะเป็นระดับที่ทำอันตรายได้มากที่สุด ดังนั้นยิ่งเราอยู่ห่างจากบริเวณเส้นศูนย์สูตรมากขึ้นเท่าไร เราก็จะยิ่งปลอดภัยมากขึ้นเท่านั้น ระดับความสูง
เมื่อเราไปอยู่ในระดับความสูงที่มากเท่าไหร่ เราก็จะยิ่งได้รับรังสียูวีจากแสงอาทิตย์มากขึ้นเท่านั้น ดังนั้นควรหลีกเลี่ยงที่จะไปอยู่กลางแดดในที่สูงเป็นเวลานาน ๆ ช่วงเวลาของวัน
ในช่วงเวลาประมาณ 10 โมงถึงบ่าย 2 โมง จะเป็นช่วงเวลาที่พระอาทิตย์ตั้งฉากกับพื้นโลก แสงแดดในช่วงนี้จะแรงมาก ดังนั้นหากไม่จำเป็น ไม่ควรไปอยู่ออกแดดในช่วงเวลานี้ การรักษาด้วยยา
การรักษาด้วยยาต่าง ๆ เช่น ยาปฏิชีวนะ ยาคุมกำเนิด ยาขับปัสสาวะ ยาระงับประสาท จะทำให้ร่างกายของคุณไวต่อรังสียูวีมากขึ้น จึงทำให้รับแสงยูวีได้มากกว่าปกติขึ้นไปอีก อย่างไรก็ตาม นอกจากแสงยูวีจากดวงอาทิตย์ที่ส่งผลเสียต่อดวงตาเราแล้ว ยังมีแสงบลูไลท์ เช่น แสงจากหลอดไฟนีออน หรือ แสงจากหน้าจอคอม ที่จะทำร้ายจอประสาทตาซึ่งส่งผลให้เซลล์เยื่อชั้นในของลูกตาเกิดการเสื่อมสภาพ อาจทำให้กล้ามเนื้อตาเมื่อยล้า หรือ อาจเห็นเป็นภาพเบลอ ๆ ได้ เมื่อรู้เช่นนี้แล้ว หากเป็นไปได้ก็ควรจะหลีกเลี่ยงที่จะอยู่กลางแดดเป็นเวลานาน ๆ หรือ อาจจะหาเครื่องมือมาช่วยป้องกันไว้อีกชั้นหนึ่ง เช่น อาจจะหาแว่นตามาใส่ป้องกันไว้เพื่อรักษาสภาพดวงตา ซึ่งเป็นหนึ่งในอวัยวะที่สำคัญที่สุดของร่างกายเรานะคะ |
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 18 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1375 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|