|
ระวังหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมก่อนวัย |
หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อม (Degenerative Disc Disease) นับเป็นอีกหนึ่งปัญหาด้านสุขภาพที่สำคัญ ซึ่งสาเหตุที่พบบ่อยที่สุดในกลุ่มผู้ป่วยที่มีอาการปวดหลังเรื้อรัง โดยเฉพาะกลุ่มคนที่อยู่ในวัยทำงานเกิดจากการเปลี่ยนแปลงของหมอนรองกระดูกสันหลัง ซึ่งอาจเป็นผลมาจากการเปลี่ยนแปลงตามวัยที่สูงขึ้น (Natural Aging Process ) หรือ การบาดเจ็บที่มีต่อหมอนรองกระดูกเอง หรือ ปัจจัยอื่นๆ ร่วมด้วย จากสาเหตุดังกล่าวทำให้สถิติของโรคปวดหลังเรื้อรังมีเพิ่มมากขึ้นใน "ทุกอาชีพ" และ "เกือบทุกช่วงอายุ"
จากเดิมเราอาจเข้าใจว่า "ความเสื่อม" ของอวัยวะในร่างกาย มักจะเริ่มเสื่อม และหมดสมรรถภาพในการทำงานเมื่อตอนวัยชรา แต่ด้วยปัจจัยหลายๆ อย่างทั้งการดำเนินชีวิต การบริโภค ในปัจจุบัน ทำให้หมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมเร็วขึ้น แต่คนเรามักมองข้ามปัญหาเหล่านี้ไปและไม่ค่อยใส่ใจดูแลสุขภาพของกระดูกสันหลังและหมอนรองกระดูกสักเท่าไหร่ ปล่อยปละละเลยรอให้เกิดอาการปวดหลัง หรือหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมขึ้นมาก่อนแล้วค่อยหาทางรักษา จนบางครั้งอาการหนักถึงขั้นหมอนรองกระดูกกดทับเส้นประสาทเลยก็ได้
ไคโรแพรดร.นิโคล ลีเดอท ไคโรแพคเตอร์ จากประเทศออสเตรเลีย คลินิกกายภาพบำบัดดีสปายน์ ไคโรแพรคติก ให้ข้อมูลว่า หมอนรองกระดูกที่อยู่ระหว่างชิ้นกระดูกสันหลังนั้น เป็นกระดูกอ่อนที่เชื่อมและรองรับกระดูกทั้ง 24 ชิ้นของแนวกระดูกสันหลังของคน โดยหมอนรองกระดูกแต่ละชิ้นนั้นจะแนบเข้ากับชิ้นกระดูกสันหลังแต่ละชิ้นที่อยู่เหนือและอยู่ข้างใต้หมอนรองกระดูกชิ้นนั้นๆ ทำหน้าที่คอยรับแรงกระแทกของกระดูก และช่วยทำให้การเคลื่อนไหวดีขึ้น นอกจากนั้นยังคอยทำหน้าที่ป้องกันไม่ให้กระดูกเคลื่อนที่ลงมากดทับเส้นประสาทบริเวณกระดูกสันหลังอีกด้วย หมอนรองกระดูกสันหลังที่มีสุขภาพดีนั้นจะมีความยืดหยุ่นทำให้สามารถหมุนตัว หรือก้มเงยได้ แต่ถ้าหากหมอนรองกระดูกเสื่อมลงแล้วก็อาจจะทำให้การเคลื่อนไหว หรือหมุนตัวลำบากขึ้น และอาจเกิดอาการเจ็บปวดร่วมด้วย
ลักษณะของความผิดปกติ และอาการเสื่อมของหมอนรองกระดูกที่พบบ่อยที่สุดนั้น ดร.นิโคล ให้ข้อมูลว่า ส่วนมากเป็นอาการหมอนรองกระดูกที่ไม่เป็นแนวเดียวกันกับกระดูกสันหลัง ทำให้เยื่อหมอนรองกระดูกปรับตัวเข้ากันมีรูปร่างเหมือนลิ่ม ลักษณะนี้จะเป็นการรุกล้ำหรือเบียดเนื้อเยื่อประสาทที่อยู่ติดกันบริเวณนั้น ก็อาจจะทำให้เกิดอาการเจ็บปวดได้ หรืออีกลักษณะหนึ่งก็คือหมอนรองกระดูกเกิดการนูนออกมาเนื่องจากนิวเคลียสที่อยู่ภายในหมอนรองกระดูกถูกการกดอัด ก็จะเกิดการผลักตัวของนิวเคลียสไปยังหมอนรองกระดูกส่วนที่อ่อนที่สุด ทำให้เกิดอาการผิดรูปของหมอนรองกระดูก ผู้ป่วยลักษณะนี้จะมีอาการปวดตามประสาทไซแอติก เนื่องจากการทำให้หมอนรองกระดูกผิดรูปจะส่งผลกระทบต่อเส้นประสาทใกล้เคียง กล้ามเนื้อบริเวณดังกล่าวจะรัดตัวเพื่อป้องกันข้อต่อไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน จนทำให้เกิดอาการปวดหลัง
หมอนรองกระดูกที่มีสุขภาพดี
สำหรับอาการของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมที่สามารถสังเกตได้ด้วยตนเองนั้น ดร.นิโคล อธิบายว่า คนที่มักมีอาการปวดหลังร้าวลงขาข้างใดข้างหนึ่งหรือทั้งสองข้างนั้น ถือว่าเป็นอาการเด่นของโรคหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท จะปวดมากหรือปวดน้อยก็อาจจะขึ้นอยู่ว่าเกิดการกดทับมากหรือน้อยแค่ไหน ถ้าปล่อยทิ้งไว้นาน เส้นประสาทจะทำงานได้น้อยลง อาการชาและอ่อนแรงของขาซีกนั้นจะเริ่มเด่นชัดขั้น อาการทั้งหมดจะเป็นลักษณะค่อยเป็นค่อยไป ดังนั้น คนที่เป็นจะคุ้นเคยกับอาการและบอกรายละเอียดของอาการได้เป็นอย่างดี สำหรับอาการของหมอนรองกระดูกเสื่อม มักจะเกิดจากการใช้งานข้อต่อบริเวณต่างๆ มากเกินไป อาทิ บริเวณกระดูกส่วนคอจากการก้มๆ เงยๆ ทำกิจกรรมต่างๆ และกระดูกบั้นเอว ที่มีการบิดตลอดเวลาทุกครั้งที่มีการก้มเงย หรือคลื่อนไหว ทำให้มีอาการปวดบริเวณหลัง สะโพก หรือคอ บางครั้งมีร้าวลงไปที่ก้นและต้นขา
อาการนี้พบได้ในผู้มีอายุตั้งแต่ 40 - 50 ปี โดยผู้ชายมีโอกาสเป็นโรคดังกล่าวได้เร็วกว่าผู้หญิง เนื่องจากลักษณะการทำงานอาจต้องใช้แรงมาก แต่ในปัจจุบันพบว่าผู้ที่อาการหมอนรองกระดูกเสื่อมนั้นเริ่มเป็นตั้งแต่เด็ก วัยรุ่น และวัยทำงานแล้ว อย่างไรก็ตาม โรคกลุ่มนี้แม้พบไม่บ่อย แต่ผู้ป่วยมักจะไม่หายขาด ในรายที่มีอาการมาก เป็นเรื้อรังอาจต้องทำการผ่าตัดหรือเปลี่ยนหมอนรองกระดูกเทียม
หมอนรองกระดูกระยะเสื่อมเริ่มแรก
หมอนรองกระดูกระยะเสื่อมระยะที่ 2
ในการรักษาอาการหมอนรองกระดูกสันหลังทับเส้นประสาท และหมอนรองกระดูกสันหลังเสื่อมนั้นนอกจากการใช้วิธีการผ่าตัดแล้ว ดร.นิโคล กล่าวว่ายังสามารถใช้ทางเลือกใหม่ในการรักษาโดยไม่ต้องใช้ยา ก็คือการรักษาโดยวิธีของไคโรแพรคติก โดยการแก้ไขส่วนต่างๆของกระดูกสันหลังที่แทรกแซงต่อการควบคุมระบบประสาทอันถูกต้องของร่างกาย เพราะหมอนรองระหว่างชิ้นของกระดูกสันหลังนั้น อยู่ใกล้กับไขสันหลังและรากประสาท ซึ่งการรักษาแบบไคโรแพรคติกจะเข้าไปปรับและช่วยทำให้การเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างเหมาะสมดังเดิม และจัดวางให้ชิ้นกระดูกที่ทำงานผิดปกตินั้นกลับเป็นดังเดิม ช่วยลดการมีส่วนเกี่ยวพันของระบบประสาท ซึ่งหากสามารถตรวจพบได้ก่อนที่ความเสียหายถาวรจะเกิดขึ้น เนื้อเยื่อหมอนรองกระดูกก็มักจะกลับคืนสู่ขนาดและรูปร่างที่เป็นปกติยิ่งขึ้น
ดร.นิโคล กล่าวว่า ปัญหาหมอนรองกระดูกหลายๆประการนั้น เป็นผลมาจากการปล่อยปละละเลยที่ยาวนานนับหลายปี โดยที่หลายๆปัญหาที่เกี่ยวกับกระดูกสันหลังนั้น จะไม่ปรากฏอาการจนกว่าจะถึงระยะของการเสื่อมถอยในขั้นที่รุนแรง มีผู้ป่วยสูงอายุหลายๆรายที่บำรุงรักษากระดูกสันหลังของตนไว้ได้จนตลอดอายุขัย ทำให้ยังคงมีความสุขกับสุขภาพและการทำงานของกระดูกสันหลังที่ยอดเยี่ยมได้
ดังนั้นควรที่จะหันมาให้ความสนใจในเรื่องของการดูแลกระดูกสันหลัง และหมอนรองกระดูกสันหลังตั้งแต่เนิ่นๆ หากปล่อยไว้รอให้เกิดอาการปวดขึ้นมาก็ อาจจะทำให้ส่งผลกระทบต่อการทำงาน และการดำเนินชีวิตประจำวันได้
หมอนรองกระดูกสันหลังที่เสื่อม และอาจทำให้เกิดอาการกดทับเส้นประสาท |
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 23 มกราคม 2555
จำนวนผู้อ่าน : 1400 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|