แม้ว่าการงดของหวาน การตรวจสอบจำนวนแคลอรีและไขมันบนฉลากอาหารจะเป็นการเริ่มต้นที่ดีของการลดน้ำหนัก แต่คิดอาจจะทำความผิดพลาดบางอย่างลงไปโดยที่คุณไม่ได้ตั้งใจ เช่นถ้าคุณคิดว่ามัฟฟินไขมันต่ำชิ้นยักษ์ที่คุณหม่ำทุกเช้าจะไม่ทำให้คุณน้ำหนักเพิ่ม โปรดคิดใหม่อีกครั้ง ลองตรวจสอบข้อผิดพลาดทั้ง 18 ข้อที่ผู้ที่อยู่ในช่วงลดน้ำหนักมักทำโดยไม่รู้ตัว และดูซิว่าพฤติกรรมการกินของคุณเข้าข่ายที่จะทำให้คุณมีรูปร่างสมบูรณ์ตามที่ฝันไหม..? 18 ข้อผิดพลาด 1.งดมื้อเช้า ไม่ว่าคุณจะกินแค่ขนมปังครึ่งแผ่นหรืองดมื้อเช้าเลยจะทำให้คุณกินอาหารมากเกินไปตลอดทั้งวัน การทานอาหารเช้าที่เหมาะสม เช่น ขนมปังโฮลวีท 2 แผ่นทาเนยถั่วบาง ๆ พร้อมกล้วย จะช่วยให้ระบบเผาผลาญของคุณตื่นตัวและป้องกันคุณจากอาการหิวโซเมื่อมื้อกลางวันมาถึง
2.ไม่ทำบันทึกสิ่งที่กินเข้าไป แม้ว่ามันจะเป็นเรื่องยุ่งยากที่จะต้องทำบันทึกรายการสิ่งที่คุณกินเข้าไป แต่การทำบันทึกจะสามารถทำให้คุณติดตามว่าคุณได้ทานอะไรเข้าไปบ้างตลอดทั้งวัน ถ้าคุณไม่ทำคุณจะไม่รู้เลยว่าคุณต้องควบคุมจำนวนและปริมาณของอาหารอย่างไรบ้าง ซึ่งจะทำให้คุณได้น้ำหนักที่ไม่ปรารถนาเพิ่มอีกหลายขีดโดยไม่รู้ตัว 3.สวาปามอาหารไขมันต่ำ อาหารไขมันต่ำหรือไร้ไขมันทั้งหลายนั้นประกอบตัวน้ำตาลจำนวนมากเพื่อชดเชยกับการที่อาหารนั้นไร้ไขมัน ซึ่งหมายความว่าคุณจะได้รับปริมาณแคลอรีมากกว่าอาหารปกติหลายกิโลขีดทีเดียว ตัวอย่างเช่น มัฟฟินไขมันต่ำชิ้นยักษ์มีแคลอรีถึง 700 แคลอรีทีเดียว ดังนั้นทางที่ดีที่สุดก็คืออ่านฉลากอาหารเพื่อตรวจสอบแคลอรีและจำกัดจำนวนแคลอรีของอาหารว่างตอนบ่ายไว้ที่ 300 แคลอรี เราแนะนำให้ทานขนมปังโฮลวีทสอดใส่ด้วยสลัดผักคลุกงาดำ 4.ไม่ดื่มน้ำ นอกจากจะเสี่ยงกับอาการขาดน้ำแล้วซึ่งจะทำให้เกิดอาการเครียด คลื่นไส้วิงเวียน และสมองเบลอ การขาดน้ำจะทำให้ร่างกายเกิดอาการหิวจัดเพื่อทดแทนน้ำที่เสียไป เพื่อหลีกเลี่ยงอาการนี้ควรดื่มน้ำอย่างต่ำวันล่ะ 8 แก้ว ถึงจะดูเหมือนเยอะแต่นี่เป็นสิ่งที่ปฎิบัติได้ง่ายในชีวิตประจำวัน ดื่มน้ำหนึ่งแก้วทันทีที่ตื่นนอน ดื่มทุกครั้งหลังคุณเข้าห้องน้ำ หนึ่งแก้วระหว่างมื้ออาหารทุกมื้อ และแก้วสุดท้ายก่อนคุณเข้านอนหนึ่งชั่วโมง 5.เลือกดื่มแต่น้ำผลไม้ น้ำผลไม้นั้นจะมีแคลอรีและไม่มีไฟเบอร์ที่จำเป็นต่อร่างกายหลงเหลืออยู่เลย นอกจากนั้นการทานผลไม้จะช่วยให้คุณรู้สึกอิ่มซึ่งจะทำให้คุณไม่รับประทานมากเกินไปในมื้อหลัก 6.เลือกทานจานผัก ถึงแม้อาหารจานผักจะมีแคลอรีและไขมันต่ำแต่อาหารจานผักส่วนใหญ่จะถูกปรุงด้วยน้ำมันในปริมาณมาก เช่นพวกผัดผักน้ำมันหอย ผัดผักรวมมิตร ที่ดูน่ากินเหลือเกินแต่ลองดูน้ำมันที่ใส่ลงไปซิ ทางเลือกที่จะหลีกเลี่ยงก็คือเลือกรับประทานแต่ผักนึ่งหรือปิ้งเป็นต้น 7.แซนวิชปลาเป็นทางเลือกที่ปลอดภัย ลองคิดดูอีกครั้งก่อนสั่งแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ปลา เพราะส่วนใหญ่เนื้อปลาพวกนี้มักจะโดย ทอด หรือปรุงรสด้วยมายองเนสซึ่งมีปริมาณไขมันและแคลอรีสูงกว่าแซนวิชหรือเบอร์เกอร์ทั่วไป ดังนั้นคราวหน้าลองเลือกเบอร์เกอร์ไก่ย่างแทนจะดีกว่า 8.หลีกเลี่ยงของว่าง เหตุผลของคุณคือต้องการลดปริมาณแคลอรีดังนั้นคุณจึงหยุดทานระหว่างมื้อ นี่เป็นกลยุทธ์ที่แย่มากเพราะคุณจะหิวโซและกินมากเกินไปเมื่อถึงอาหารมื้อหลัก เลือกทานผักและผลไม้เป็นของว่างรองท้องดีกว่าจะปล่อยให้ตัวเองหิวตลอดเวลา 9.ไม่ทานของหวานเลย หลักสำคัญในการลดน้ำหนักก็คือการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการกินแย่ ๆ ของคุณแต่มันก็ไม่ใช่ความคิดที่ดีเลยที่จะเลยทานของหวานโดยสิ้นเชิง ถ้าคุณไม่อนุญาตตัวเองให้แตะต้องอาหารโปรดของคุณมาก มันอาจจะจบที่คุณสวาปามมันมากเกินไปเมื่อคุณหมดความอดกลั้น หลีกเลี่ยงโศกนาฏกรรมแบบนี้โดยการให้รางวัลตัวเองเป็นของหวานสักเล็กน้อย 10.เครื่องเคียง และท๊อปปิ้ง เมื่อคุณซื้อแซนวิชเพื่อสุขภาพแคลอรีต่ำ 300-400 แคลอรี แต่แล้วคุณกลับเติมเครื่องเคียงและท๊อปปิ้งซะเต็มเพียบ จากแซนวิชเพื่อสุขภาพมันจะกลายเป็นฝันร้ายแทนซะมากกว่า ถ้าคุณอดใจไม่ได้กับพวกเครื่องเคียงและท๊อปปิ้งแสนอร่อยทั้งหลาย ก็จงลดขนาดของอาหารลงและเลือกซ้อสที่มีความเผ็ดร้อนแทน 11.คุณหลีกเลี่ยงไขมัน ในรายการโภชนาสิ่งที่มีความสำคัญที่สุดในการบรรเทาความหิวโหยของมนุษย์นั้นก็คือ ไขมัน ดังนั้นคุณไม่สามารถที่จะอยู่ได้โดยไม่ทานไขมันเลย แค่จำไว้ว่าไขมันแต่ล่ะชนิดนั้นไม่เหมือนกัน หลีกเลี่ยงอาหารที่มีไขมันที่ไม่มีประโยชน์ต่อสุขภาพ เช่นไขมันจากพวกเนื้อแดง และของว่างถุงสำเร็จรูป อย่างไรก็ตามคุณสามารถทานเนื้อปลาได้มากเท่าไหร่ก็ได้เพราะมีไขมันที่มีประโยชน์ต่อสุขภาพคือ โอเมก้า-3 12.คุณไม่ทานคาร์โบไฮเดรต ซึ่งมันก็เหมือนไขมันที่คุณไม่สามารถหลีกเลี่ยงมันเพราะมันเป็นแหล่งพลังงานหลักของร่างกาย ซึ่งร่างกายต้องการคาร์โบไฮเดรตในสัดส่วน 55-60% ของอาหารที่คุณทานเข้าไปในแต่ล่ะวัน 13.อดอาหารอย่างหักโหม มันไม่ใช่เรื่องงี่เง่าหรอกนะเพราะคนส่วนมากก็ใช้วิธีนี้กันเพื่อที่จะได้ลดน้ำหนักให้เกิดผลโดยเร็ว เสียดายที่มันเป็นวิธีที่ไม่ได้ความ ยิ่งคุณได้รับแคลอรีมากเท่าไหร่ระบบเผาผลาญของคุณยิ่งทำงานช้าลงและพยายามเปลี่ยนรูปอาหารที่คุณกินให้เป็นไขมันสะสม 14.เป้าที่เป็นไปไม่ได้ หลายคนตั้งเป้าไว้ว่าต้องลดน้ำหนักให้ได้ 2-3 กิโล ในอาทิตย์แรกของการลดน้ำหนัก นี่เป็นเป้าหมายที่เป็นได้อยากและลำบากที่จะรักษาเป้าหมายที่คุณตั้งไว้ในระยะยาว การลดน้ำหนักที่ดีต้องมีการวางแผนอย่างรอบคอบและเป็นไปได้ซึ่งรวมถึงการลดน้ำหนัก 0.5-1 กิโลในแต่ละอาทิตย์อย่างไม่หักโหม จากการศึกษาคนที่ลดน้ำหนักอย่างช้า ๆ มักจะได้ผลกว่าคนที่ลดอย่างหักโหมเมื่อเปรียบเทียบในระยะยาว 15.ทำมากก็กินมาก จากการศึกษาพบว่าคนเรามักจะประมาณแคลอรีที่บริโภคเข้าไปต่ำเกินความเป็นจริงและประมาณว่าร่างกายสามารถเผาผลาญแคลอรีไว้มากเกินจริง ดังนั้นจำไว้ว่าสิ่งที่คุณกินเข้าไปไม่สามารถเผาผลาญได้หมดหรอก ดังนั้นจงบันทึกทุกอย่างที่คุณกินเข้าไปอย่างละเอียดเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่ต้องใช้พลังงานมากกว่าปกติ 16.กินเร็ว ในเมื่อมันต้องใช้เวลาตั้ง 20 นาทีกว่าคุณจะรู้สึกอิ่ม มันก็มีสิทธิ์ที่คุณจะทานมากเกินไป ดังนั้นพยายามทานให้ช้าลงเพื่อให้เวลาที่ร่างกายกับสมองจะได้สัมพันธ์กันซึ่งผลลัพธ์ที่ได้ก็คือการลดน้ำหนักโดยละมุนละม่อน 17.ทานจนเกลี้ยง การกำหนดขนาดของอาหารที่ทานเข้าไปมีส่วนสำคัญมากในการลดน้ำหนัก ซึ่งมันจะปฏิบัติได้ง่ายกว่าเมื่อทำที่บ้าน แต่เมื่อต้องไปทานที่ร้านอาหาร มันจัดการได้อยากสักหน่อยเพราะแต่ล่ะจากมักมีขนาดใหญ่ เคล็ดลับก็คือทานแค่พออิ่มส่วนที่เหลือให้พนักงานช่วยห่อกลับบ้าน 18.ดื่มกาแฟเป็นตัน จริงอยู่กาแฟจะช่วยในระบบเผาผลาญของร่างกายทำงานได้ดีขึ้นแต่นี่ไม่ใช่วิธีที่ดีในการลดน้ำหนัก การดื่มกาแฟมากเกินไปจะทำให้ขาดน้ำและนอนไม่หลับ การดื่มน้ำเปล่าจะดีต่อร่างกายมากกว่า อย่าท้อแท้ ถ้าการลดน้ำหนักเป็นเรื่องที่คุณต้องการทำให้เกิดผลให้ได้ คุณต้องระมัดระวังอย่างที่สุดเกี่ยวกับนิสัยการกินของคุณ เริ่มต้นโดยการกำจัดนิสัย ๆ แย่ ๆ ออกไปอาทิตย์ล่ะอย่าง ไม่นานคุณจะสามารถกำจัดแคลอรีส่วนเกินได้อย่างแน่นอน แม้ว่าตอนแรกคุณอาจคิดว่าคุณต้องตายแน่ที่ต้องปฏิวัตินิสัยการกินใหม่ แต่ไม่นานคุณจะพบว่ามันไม่ยากอย่างที่คิดถ้ามันกลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวันของคุณ เชื่อเถอะไม่น่าผลลัพธ์จะเป็นตัวบ่งบอกที่ดีที่สุด |