ใครจะทราบบ้างว่า ห้องนอนเป็นสาเหตุของการทำให้เป็นโรคภูมิแพ้ได้ วันนี้มีเรื่องนี้มาฝากกันค่ะ... อากาศที่หายใจเข้าไปทุกขณะ นับว่ามีความสำคัญต่อร่างกาย โดยเฉพาะเวลานอนหลับ บางครั้งเราอาจมองข้ามสิ่งที่เป็นตัวต้นเหตุสำคัญของอาการเจ็บป่วยเรื้อรัง ไม่ว่าจะเป็นอาการภูมิแพ้ โรคทางเดินหายใจ หลอดลม ทั้งละอองเกสรก็ดี เชื้อรา ฝุ่น ควันบุหรี่ ขี้แมลงสาบ ไอระเหยของสารเคมีล้วนแต่สามารถกระตุ้นภูมิแพ้และส่งผลต่อการเจ็บป่วยของร่างกายในที่สุด
การดูแลห้องนอนให้อยู่ในสภาพที่ถูกสุขลักษณะและปลอดจากสิ่งกระตุ้นภูมิแพ้ ทำได้ง่ายๆ ดังนี้ - ห้องนอนเต็มไปด้วยฝุ่นหรือไม่ การได้หลับพักผ่อนในห้องนอนที่มีอากาศสะอาดปราศจากฝุ่น จะช่วยทำให้ร่างกายสดชื่นหรือฟื้นคืนจากการเจ็บป่วยได้เร็วขึ้น - พื้นห้องปูด้วยพรมหรือไม่ นับเป็นสิ่งที่ไม่ควรอย่างยิ่ง เพราะพรมจะกลายเป็นแหล่งของไรฝุ่นที่เป็นตัวก่อภูมิแพ้ และดูแลทำความสะอาดได้ยากกว่าพื้นไม้หรือกระเบื้อง - ชอบสูบบุหรี่ใช้น้ำยาหรือน้ำหอมปรับอากาศ สิ่งเหล่านี้นับเป็นสิ่งที่ควรหลีกเลี่ยงอย่างยิ่ง - ซักและเปลี่ยนผ้าปูที่นอนและเครื่องนอนบ่อยแค่ไหน ไม่ว่าจะผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ผ้าห่ม ผ้านวม ควรถอดซักได้และควรเปลี่ยนอยู่เสมอ ซักทำความสะอาดด้วยอุณหภูมิที่ไม่ต่ำกว่า 50 องศาเซลเซียส เพราะอุณหภูมิที่ต่ำกว่านี้จะไม่สามารถฆ่าไรฝุ่นในเครื่องนอนได้ - เลือกใช้อุปกรณ์เครื่องตกแต่งที่มีสารเคมีที่เป็นอันตราย ไม่ว่าจะเป็นผ้าม่าน สีทาผนัง ตู้ โต๊ะ พรม ควรพิจารณาเลือกซื้อชนิดที่ระบุว่าไม่ใช้สารเคมีที่เป็นอันตรายต่อสุขภาพในการผลิต ปัจจุบันผู้ผลิตสินค้าบางประเภทเริ่มหันมาให้ความสำคัญต่อเรื่องดังกล่าว - เปิดหน้าต่างบ้างหรือเปล่า บ้านไหนที่ใช้เครื่องปรับอากาศ ควรเปิดหน้าต่างให้อากาศในห้องได้ถ่ายเทบ้าง หรือหากปล่อยให้แสงแดดส่องเข้ามาบ้างสัปดาห์ละครั้งก็ยังดี และจะดีอย่างยิ่งถ้ามีเครื่องฟอกอากาศ หรือใช้แผ่นดักจับสิ่งแปลกปลอมในอากาศฟิลทรีตชนิดที่ใช้กับ เครื่องปรับอากาศ และต้องไม่ลืมคอยเปลี่ยนแผ่นกรองประจำตามสภาพการใช้งาน เพื่อรักษาประสิทธิภาพในการกรองอากาศให้ดีอยู่เสมอ รู้อย่างนี้แล้ว ก็อย่าลืมดูแลรักษาห้องนอนให้สะอาดอยู่เสมอ จะได้ห่างไกลจากโรคภูมิแพ้. |