มอบ "สมุนไพร" สื่อรักรูปแบบใหม่วันวาเลนไทน์

        กลุ่มประชาสัมพันธ์ สำนักงานคณะกรรมการวัฒนธรรมแห่งชาติ (สวช.) รายงานว่า ทุกวันที่ 14 กุมภาพันธ์ของทุกปี หรือวันวาเลนไทน์ เป็นอีกวันหนึ่งที่หนุ่มสาวทั่วโลกให้ความสำคัญ โดยต่างก็จะเตรียมหาของขวัญไปมอบให้แก่คนที่ตนรักเพื่อบอกความในใจ เช่น ดอกกุหลาบสีแดงสด ช็อกโกแลตรสหอมหวาน บัตรสื่อรักหลากหลาย เป็นต้น สำหรับวันวาเลนไทน์ปีนี้
      
       นอกจากของขวัญที่จะบอกความนัยข้างต้นแล้ว สวช. ขอนำเสนอ “ของแทนใจ” อีกแบบที่จะให้ทั้งความอิ่มเอม และช่วยเสริมสร้าง “หัวใจ” ของคนที่รักให้มีสุขภาพแข็งแรงขึ้น เพื่อเขาและเธอจะได้อยู่กับเรานาน ๆ นั่นก็คือ “สมุนไพร” ที่ล้วนมีสรรพคุณช่วยบำรุงหัวใจ ที่สามารถเลือกซื้อเลือกหาไปมอบให้แก่คนที่รักได้ ได้แก่ ดอกกุหลาบ นอกเหนือจากการเป็นไม้ประดับที่เป็นอาหารตา และเป็นดอกไม้ยอดนิยม เพื่อส่งให้กันและกันในวันแห่งความรักแล้ว ดอกกุหลาบยังมีคุณสมบัติทางยา คือ ใช้บำรุงหัวใจได้อีกด้วย รวมทั้งยังช่วยให้คลายเครียด และทำให้สดชื่นขึ้น ซึ่งสามารถนำกลีบกุหลาบไปปรุงเป็นอาหารได้หลากหลาย เช่น ยำ ชุบแป้งทอด นอกจากนี้ กลีบกุหลาบยังใช้ทำไวน์ ส่วนกากที่เหลือทำเป็นบ๊วย ก็มีรสชาติอร่อย หรือจะนำใบกุหลาบและเกสรไปทำชาอย่างดีก็ได้
      
       ดอกคำฝอย สรรพคุณเป็นยาขับระดู บำรุงประสาท บำรุงโลหิต แก้ดีพิการ ขับเหงื่อ แก้ไขข้ออักเสบ แก้หวัดน้ำมูกไหล และแน่นอนช่วยบำรุงหัวใจ ดอกเก๊กฮวย นำไปต้มเป็นน้ำสมุนไพร จะมีกลิ่นหอมชื่นใจ ช่วยบำรุงหัวใจ และช่วยกระตุ้นระบบไหลเวียนของเลือด ทำให้รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า ดอกลำดวน หลายคนนำกลีบลำดวนไปอบแห้งเพื่อทำเป็นชาสมุนไพร ดื่มแล้วทำให้จิตใจสดชื่น ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงเลือด แก้ไข้ และแก้อาการวิงเวียนศีรษะ ดอกจำปา จะมีรสหอมเย็น ส่วนใหญ่จะทำเป็นชาสมุนไพร เพราะสรรพคุณ ช่วยบำรุงหัวใจ บำรุงธาตุ ขับปัสสาวะ แก้อ่อนเพลีย วิงเวียนศีรษะ หน้ามืดตาลาย
      
       เตยหอม ใช้ใบเตยสดล้างให้สะอาด นำมาตำหรือปั่นให้ละเอียด เติมน้ำเล็กน้อย คั้นเอาแต่น้ำดื่ม นอกจากจะช่วยดับพิษไข้ ชูกำลัง แก้อ่อนเพลียแล้ว ยังช่วยบำรุงหัวใจได้ดีอีกด้วย บัวบก นอกจากนำใบมาต้มเป็นน้ำสมุนไพร ช่วยบำรุงหัวใจ แล้วยังช่วยแก้อาการอ่อนเพลีย เมื่อยล้า ขับปัสสาวะ รักษาแผล และสามารถพัฒนาเป็นยาแผนปัจจุบันเพื่อใช้ในการรักษาแผลสดหรือแผลหลังผ่าตัด คนจีนถือว่าเป็นยาแก้ช้ำใน ทำให้เลือดกระจายหายฟกช้ำได้ดี และยังช่วยลดการกระหายน้ำ
      
       อ้อย น้ำอ้อยจะมีสรรพคุณใช้แก้อาการช้ำ รักษาโรคนิ่ว อาการไอ หรือจะใช้แก้ไข้ แก้คอแห้งกระหายน้ำ รักษาอาการโรคไซนัสก็ได้ ที่สำคัญยังใช้เป็นยาบำรุงหัวใจได้ด้วย ลำไย สรรพคุณ คือ บำรุงหัวใจ บำรุงม้าม บำรุงเลือด บำรุงระบบประสาท ช่วยเพิ่มพละกำลัง ทำให้เจริญอาหาร แต่ถ้ารับประทานมากก็อาจจะร้อนในได้ จึงต้องรับประทานอย่างพอเหมาะ แตงไทย มีสรรพคุณช่วยแก้ไข้ แก้ดีซ่าน ถ้าบดเป็นผง ใช้พ่นแก้แผลในจมูกได้ แต่ถ้ากินผลของมันที่รสหวานเย็นหอม ก็ช่วยขับปัสสาวะ บำรุงธาตุ ขับเหงื่อ และช่วยบำรุงหัวใจได้เช่นกัน
      
       ชะเอมไทย ใช้รากสกัดเป็นชาสมุนไพร ดื่มแล้วจะช่วยบำรุงหัวใจ และยังแก้เสมหะ แก้น้ำลายเหนียว แก้ไอ ทำให้ชุ่มคอ แก้กำเดา แก้ลม และบำรุงกำลังได้ดี กระชายดำ มีสรรพคุณช่วยบำรุงกำลัง และบำรุงหัวใจ เห็ดหอม นอกจากจะกินอร่อยแล้ว ยังมีสรรพคุณช่วยบำรุงสมอง แก้อาการปวดเมื่อย และช่วยบำรุงหัวใจด้วย หญ้าแห้วหมู มีสรรพคุณในการลดอาการท้องอืด ท้องเฟ้อ แน่นจุกเสียด โดยการทุบหัวแล้วนำมาต้มเอาน้ำดื่ม ซึ่งกรมวิทยาศาสตร์การแพทย์รายงานว่าไม่มีพิษเฉียบพลัน อีกทั้งยังสามารถสกัดเป็นชาสมุนไพร ใช้บำรุงหัวใจ บำรุงกำลัง และบำรุงธาตุได้ด้วย