"แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" เหนือชั้น งัดกลยุทธ์ co-promotion จับมือแบงก์กสิกรฯ-กรุงเทพ-กรุงศรีฯ-ไทยพาณิชย์ น็อกดอร์ลูกค้าชั้นดี อัดแคมเปญปล่อยกู้ดอกเบี้ยต่ำ เผยปีนี้ทยอยเปิดคอนโดฯ 2 ทำเลย่านใจกลางเมือง พร้อมขยายตลาดลงมาเล่นคอนโดฯไซซ์เล็กแบรนด์ใหม่ ขายราคาเฉลี่ย ตร.ม.ละ 3-6 หมื่นบาท ส่วนไตรมาสที่ 3 ปี"49 ผุดโฮม ออฟฟิศรับการเปิดใช้สนามบินสุวรรณภูมิ นายนพรัตน์ เอื้อพิพัฒนากูล ผู้จัดการฝ่ายโครงการ 9 บริษัท แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า บริษัทได้จับมือกับสถาบันการเงิน 4 แห่ง คือ บมจ.ธนาคารกสิกรไทย บมจ.ธนาคารกรุงเทพ บมจ.ธนาคารกรุงศรีอยุธยา และ บมจ.ธนาคารไทยพาณิชย์ จัดแคมเปญสินเชื่อกู้ซื้อบ้านอัตราดอกเบี้ยพิเศษให้กับกลุ่มลูกค้าชั้นดีของธนาคาร ที่ธนาคารลิสต์บัญชีรายชื่อไว้ และสนใจซื้อคอนโดมิเนียมสร้างเสร็จก่อนขาย โครงการ "The Bangkok" ใน 4 ทำเล คือ สุขุมวิท 61, ถนนทรัพย์, นราธิวาสราชนครินทร์ และสุขุมวิท 43 ที่ผ่านมาบริษัทได้เข้าไปเสนอข้อมูลห้องชุดโครงการดังกล่าวให้กับกลุ่มลูกค้าชั้นดีของธนาคารทั้ง 4 แห่ง โดยใช้กลยุทธ์แบบ knock door เนื่องจากเป็นกลุ่มที่มีความพร้อมที่จะซื้อสูง และมีฐานะทางการเงินที่มั่นคง ซึ่งธนาคารจะเป็นผู้พิจารณาว่าลูกค้ารายใดมีความพร้อม และหากลูกค้าสนใจแบงก์ก็จะให้กู้โดยคิดอัตราดอกเบี้ยพิเศษเพื่อสร้างแรงจูงใจ เช่น ธนาคากสิกรไทย คิดอัตราดอกเบี้ย 3.25% คงที่ 2 ปี จากนั้นคิด MLR -1% ตลอดอายุสัญญา, ธนาคารกรุงเทพ ปล่อยกู้ 95%, ธนาคารกรุงศรีอยุธยา ดาวน์ 50,000 บาท ที่เหลือกู้ได้เต็ม คิดดอกเบี้ย 3.25% คงที่ 1 ปีแรก จากนั้นคิด MLR-0.5% ตลอดอายุสัญญา ธนาคารไทยพาณิชย์ ให้กู้ 95% คิดดอกเบี้ย 2.75% คงที่ 1 ปี จากนั้น MLR -1% ตลอดอายุสัญญา "วิธีการดังกล่าวจะทำให้แบงก์ปล่อยสินเชื่อได้เร็วขึ้น เพราะรู้อยู่แล้วว่าใครมีความพร้อมบ้าง เป็นการลดขั้นตอน ซึ่งผมว่าการทำ co-promotion ครั้งนี้ถือเป็นกลยุทธ์ตลาดอย่างหนึ่ง ที่จะทำให้แลนด์ฯเข้าถึงกลุ่มลูกค้าเป้าหมายที่มีขีดความสามารถในการซื้อได้มากและตรงจุดที่สุด เป็นการทำธุรกิจแบบ win-win-win คือ แบงก์ปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่มีความเสี่ยงน้อย แลนด์ฯได้กลุ่มลูกค้าที่มีความพร้อมมากขึ้น และลูกค้าก็ได้สินค้าที่พร้อมเข้าอยู่ได้ทันที ถือว่าแคมเปญนี้ประสบความสำเร็จมาก เพราะที่ผ่านมามีลูกค้า call เข้ามาสอบถามรายละเอียดประมาณ 8,000 ราย และมีกว่า 4,00 รายที่เข้ามาดูห้องจริงที่ไซต์" นายนพรัตน์กล่าว ยอดขาย "The Bangkok" ฉลุย ด้านนายนพร สุนทรจิตต์เจริญ รองกรรมการผู้จัดการ บมจ.แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ เปิดเผยว่า ความคืบหน้างานก่อสร้างคอนโดฯ "The Bangkok" ใน 4 ทำเล สามารถปิดการขายได้แล้ว 2 โครงการ โครงการถนนสุขุมวิท 61 จำนวน 1 อาคาร 72 ยูนิต และถนนทรัพย์ 3 อาคาร 155 ยูนิต ปัจจุบันมีลูกค้าทยอยเข้าพักอาศัยแล้วกว่า 80% ส่วนอีก 2 โครงการ คือ นราธิวาสราชนครินทร์ ตั้งอยู่ในทำเลเชื่อมต่อระหว่างถนนสีลม-สาทร 5 อาคาร 294 ยูนิต เปิดให้จองก่อน 2 อาคาร 120 ยูนิต ราคาขายเฉลี่ย 6 หมื่นกว่าบาท/ตร.ม. มียอดขายแล้วกว่า 100 ยูนิต หรือ 80% ที่เหลืออีก 3 อาคารจะเปิดให้จองในเดือนกรกฎาคมนี้ ส่วนทำเลสุขุมวิท 43 จำนวน 2 อาคาร 54 ยูนิต ขณะนี้ก่อสร้างไปแล้ว 90% จะเปิดให้จองได้ในช่วงเดือนสิงหาคมนี้ ราคาขายเฉลี่ย 9 หมื่น-1 แสนบาท/ตร.ม. ปัจจุบันบริษัทมียอดรับรู้รายได้เฉพาะคอนโดฯกว่า 2,000 ล้านบาท คาดว่าถึงสิ้นปีนี้จะรับรู้ได้ถึง 3,500 ล้านบาท โดยปีหน้าวางแผนจะเปิดตัว คอนโดฯสร้างเสร็จก่อนขายอีก 2-4 โครงการ ขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดิน แต่ยังเน้นทำเลในเมืองเป็นหลัก และไม่ไกลจากสถานีรถไฟฟ้าใต้ดินและรถไฟฟ้าบีทีเอส ในจำนวนนี้มี 1 โครงการที่จะขยายฐานลูกค้ามาสู่ตลาดระดับกลาง ราคาขายเริ่มที่ 3 หมื่นกว่าบาท-6 หมื่น/ตร.ม. เนื่องจากเป็นตลาดที่มีฐานลูกค้ากว้างที่สุดในขณะนี้ "โครงการใหม่จะมีการปรับรูปแบบดีไซน์และขนาดห้องใหม่ และจำนวนยูนิตที่อาจจะมีมากขึ้นด้วย ส่วนแบรนด์ก็จะใช้แบรนด์สินค้าใหม่ เพราะเป็นตลาดคนละเซ็กเมนต์" นายนพรกล่าว สำหรับแนวโน้มตลาดคอนโดฯย่านใจกลางเมือง นับตั้งแต่ปี 2546 ถึงเดือนพฤษภาคม 2548 มีโครงการเปิดตัวประมาณ 1.8 หมื่นยูนิต มียอดขายแล้ว 70% และมีจำนวนยูนิตที่เหลือขายในตลาดประมาณ 5-6 พันยูนิต โดยในปี 2547 ที่ผ่านมามีการทยอยส่งมอบไปแล้ว 2,100 ยูนิต คาดว่าถึงปีนี้จะทยอยส่งมอบอีก 4,000 ยูนิต ผุดโฮมออฟฟิศรับ "สุวรรณภูมิ" ขณะที่นายนพรัตน์กล่าวเพิ่มเติมว่า ในช่วงไตรมาส 3 ปีหน้า บริษัทจะเปิดตัวโครงการโฮม ออฟฟิศบนเนื้อที่ 30 ไร่ จำนวน 170 ยูนิต ในทำเลแยกพระรามที่ 9 ตัดพัฒนาการ ใกล้กับโรงพยาบาลสมิติเวช ถือเป็นครั้งแรกที่ขยายมาทำ โฮมออฟฟิศ เพราะเห็นว่าในย่านถนนศรีนครินทร์มีดีมานด์โฮมออฟฟิศอยู่จำนวนมาก เพราะได้รับอานิสงส์จากการเปิดใช้โครงการสนามบินสุวรรณภูมิ ซึ่งจะทำให้พื้นที่บริเวณโดยรอบสนามบินมีความคึกคักมากขึ้นโดยเฉพาะกับธุรกิจ SMEs "ขณะนี้อยู่ระหว่างการดีไซน์คอนเซ็ปต์และรูปแบบโครงการ คาดว่าจะเริ่มการก่อสร้างได้ในเร็วๆ นี้ โดยจะใช้ชื่อว่า "แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์" จะมีให้เลือกตั้งแต่ขนาด 250-500 ตร.ม. ราคาเริ่มต้นที่ 8-25 ล้านบาท เป็นโครงการสร้างเสร็จก่อนขาย ซึ่งจะมีการติดตั้งคู่สายโทรศัพท์ และระบบอินเทอร์เน็ตให้พร้อม"
|