แบงก์หวังลด NPAเร่งระบายสต็อกบ้านมือสอง

        จากภาพรวมตลาดอสังหาริมทรัพย์ขณะนี้ที่อยู่ในช่วงทรงตัว อันเนื่องมาจากภาวะเศรษฐกิจ และดอกเบี้ยขาขึ้น ส่งผลให้โครงการบ้านและที่อยู่อาศัยใหม่ออกสู่ตลาดน้อยลง กลายเป็นช่องว่างให้บ้านมือสองเข้ามาแทรกเป็นตัวเลือกของผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน ซึ่ง ดร.ธวัชชัย ยงกิตติกุล เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย กล่าวถึงสถานการณ์ของสินทรัพย์รอการขายของสถาบันการเงิน (NPA) ในขณะนี้ว่า “มีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง จากการเร่งระบายทรัพย์สินของสถาบันการเงินต่างๆ ซึ่งแต่ละสถาบันมีการใช้กลยุทธ์ส่งเสริมการตลาดหลากหลายรูปแบบเพื่อกระตุ้นการซื้อขาย ทั้งนี้เพื่อเป็นการรักษาสภาพคล่องและสนองนโยบายของธนาคารแห่งประเทศไทยที่ต้องการลดปริมาณ NPA ลง”
      
        ในส่วนของสภาพตลาดโดยรวมในปีนี้ของ NPA กรองทอง การุณย์นราทร ประธานชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ และผู้จัดการฝ่ายทรัพย์สิน ธนาคารกรุงเทพ บอกว่า ขณะนี้สภาพตลาดอยู่ในภาวะชะลอตัว เนื่องมาจากการปรับตัวขึ้นของอัตราดอกเบี้ย แต่ในอนาคตตลาดเมื่อตลาดเกิดการปรับตัว ก็จะกลับมามีการซื้อขายเป็นปกติเหมือนเดิมอีกครั้ง ประกอบกับความต้องการซื้อบ้านที่แท้จริงยังมีอยู่ตลอดเวลา
      
        “ส่วนในแง่ของสินทรัพย์รอการขายที่น่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นพิเศษ น่าจะเป็นที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้าง เนื่องจากบางแห่งมีความพร้อมในการเข้าอยู่อาศัยได้ทันที หรืออาจจะใช้งบประมาณในการตกแต่งใหม่ไม่มากนัก ประกอบกับอยู่ในทำเลที่หลากหลายให้เลือกได้ตรงตามความต้องการและราคาขายที่ถูกกว่าบ้านมือหนึ่ง จึงน่าจะเป็นทางเลือกที่มาแรงของผู้ที่อยากซื้อบ้าน เพราะหากจะปลูกบ้านใหม่ย่อมต้องใช้ต้นทุนสูงกว่า เนื่องจากขณะนี้วัสดุก่อสร้างมีราคาสูงขึ้น” กรองทองกล่าวเสริม
      
        นอกจากนี้หากมองว่าปัจจัยของอัตราดอกเบี้ยจะส่งผลต่อการตัดสินใจของประชาชนในการซื้อ NPA หรือไม่ กรองทองให้ความเห็นว่า “อัตราดอกเบี้ยต่อจากนี้ไปน่าจะอยู่ในภาวะที่ทรงตัว ปัจจัยหลักๆในการตัดสินใจซึ่งน่าจะมาจากคุณภาพของสินทรัพย์ และทำเลที่ตั้งมากกว่าอัตราดอกเบี้ย เพราะมองว่าประชาชนมีทางเลือกในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยจากหลากหลายสถาบันการเงิน ขึ้นอยู่กับประชาชนว่าพอใจที่จะยอมรับของสถาบันได้”
      
       จากนโยบายที่จะลดสต็อก NPA ของธนาคารแห่งประเทศไทย ทำให้สมาคมธนาคารไทยจับมือกับชมรมสินทรัพย์รอการขายของธนาคารพาณิชย์ และสมาชิกทั้ง 17 สถาบันการเงิน จัดงานมหกรรมบ้านธนาคาร 49 ขึ้นเป็นครั้งแรก โดยจัดขึ้นระหว่างวันที่ 23-25 มิ.ย. ที่ จ.ชลบุรี เพราะเล็งเห็นถึงความต้องการและกำลังซื้อในท้องถิ่น โดยของทรัพย์สินรอการขายที่จะไปจำหน่ายภายในงานมีมูลค่ากว่า 1 หมื่นล้านบาท โดยตั้งเป้ายอดขายไว้ที่ 1 พันล้านบาท หรือประมาณ 10-15% ของมูลค่าสินทรัพย์ทั้งหมด
      
       ทั้งนื้การจัดงานก็เพื่อเป็นการกระตุ้นตลาด และให้ข้อมูลแก่ลูกค้าที่สนใจ โดยจะมีการจัดงานภายในปีนี้อีก 3 ครั้งทั่วประเทศที่ขอนแก่น สุราษฎร์ธานี และเชียงใหม่ ซึ่งสมาคมธนาคารไทยเชื่อมั่นว่าจะได้รับความสนใจจากประชาชนเป็นอย่างดี เนื่องจากภายในงานจะเป็นการรวมเอาทรัพย์สินพร้อมราคาพิเศษ และข้อเสนอพิเศษทางการเงินมาไว้ในงาน การจัดงานครั้งนี้จะเป็นการผลักสินทรัพย์จากมือแบงก์ให้ไปสู่มือผู้บริโภคอย่างแท้จริง ไม่ใช่เป็นการเอาไปพักไว้กับบรรษัทบริหารสินทรัพย์ไทย (บสท.) ซึ่งเป็นเพียงการเปลี่ยนมือผู้ครอบครอง แต่ไม่ก่อให้เกิดการใช้ประโยชน์ที่ดินโดยแท้จริง
      
       ในส่วนสินทรัพย์ในครอบครองของธนาคารกรุงเทพ กรองทองกล่าวว่า “ขณะนี้มีอยู่กว่า 40,000 ล้านบาท ตั้งเป้ายอดขายในปีนี้ไว้ 10,000 ล้านบาท ซึ่งในครึ่งปีแรกนี้มียอดขายประมาณ 3,700 ล้านบาท ส่วนช่องทางการขายใช้เครือข่ายสาขาธนาคารทั่วประเทศ เว็บไซต์ โบร์ชัวร์ และผ่านนายหน้าบางส่วน โดยธนาคารฯ จะพยายามลดสต็อกของสินทรัพย์ประเภทที่ดินพร้อมสิ่งก่อสร้างลง เนื่องจากมีค่าใช้จ่ายในการดูแลรักษาทรัพย์สินมากกว่าที่ดินเปล่า สำหรับสินทรัพย์ที่ธนาคารฯ จะนำไปออกงานมหกรรมบ้านบ้านธนาคาร 49 ที่ชลบุรีจะเป็นสินทรัพย์ในชลบุรีทั้งหมด ซึ่งมีมูลค่ากว่า 800 ล้านบาท และตั้งเป้ายอดขายภายในงานที่ 100-120 ล้านบาท