นายไชยยศ สะสมทรัพย์ รมช.คลัง เปิดเผยว่า ในการประชุม ครม.ในวันอังคารที่ 13 ก.ย. กระทรวงการคลังจะเสนอมาตรการเพิ่มเติมเพื่อกระตุ้นตลาดบ้านมือสอง จากเดิมที่ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดา สำหรับการขายที่อยู่ อาศัยแห่งเก่าเพื่อซื้อแห่งใหม่ เฉพาะในส่วนที่ไม่เกินมูลค่าของบ้านหลังใหม่ และยกเว้นภาษีธุรกิจเฉพาะสำหรับการขาย ที่อยู่อาศัยที่ผู้ขายมีชื่ออยู่ในทะเบียนบ้านไม่น้อยกว่า 1 ปีนั้น จะมีมาตรการที่เพิ่มเติมคือ 1. ยกเว้นอากรแสตมป์และ 2. การลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนการโอนและค่าธรรมเนียม จดทะเบียนจำนอง สำหรับมาตรการนี้จะสิ้นสุดในปี 2550 ซึ่งมุ่งสนับสนุนกลุ่มครอบครัวที่มีบ้านอยู่แล้วและ ต้องการขายบ้านที่มีอยู่ไปซื้อบ้านมือสอง แต่มีเงื่อนไขว่าจะต้องอยู่มาไม่น้อยกว่า 1 ปี หรือครอบครองไม่น้อยกว่า 5 ปี เพื่อป้องกันการเก็งกำไร นอกจากนี้ ในส่วนของเอกชนหากต้องการเสนอมาตรการ หรือความเห็นอื่นๆที่ไม่ใช่เรื่องภาษี ก็สามารถเสนอมายังรัฐ ได้ยืนยันว่าจะดูให้เป็นพิเศษ ม.ร.ว.ปรีดิยาธร เทวกุล ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) เผยว่า หลังจากที่คณะกรรมการนโยบายการเงินมีมติให้ขึ้นดอกเบี้ยตลาดซื้อคืนพันธบัตรระยะ 14 วัน (อาร์พี) อีก 0.50%/ปีไปเมื่อวันที่ 7 ก.ย.ที่ผ่านมา พบว่าภาวะเงินลงทุนที่ไหลเข้ามา ยังตลาดเงินของไทยยังอยู่ระดับปกติ และพบว่าไม่มีเงินเข้ามาลงทุนเก็งกำไร เนื่องจากตลาดได้คาดการณ์ไว้ล่วงหน้าแล้วว่า ธปท.จะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย นางธาริษา วัฒนเกส รองผู้ว่าการ ธปท. ด้านเสถียรภาพสถาบันการเงิน กล่าวว่า การเริ่มทยอยปรับดอกเบี้ยของธนาคารพาณิชย์นั้นถือเป็นปกติที่มีการเคลื่อนไหว ไปในทิศทางเดียวกันกับการขึ้นดอกเบี้ยนโยบาย ทั้งเงินฝากและเงินกู้ทั้งสองด้าน จึงไม่น่าจะเป็นภาระกับผู้กู้ และการขึ้นดอกเบี้ยไม่ใช่เรื่องเซอร์ไพรส์แต่อย่างไร และเป็นเรื่องที่ประชาชน นักธุรกิจ เตรียมตัวรับมือไว้ล่วงหน้าแล้ว นายขรรค์ ประจวบเหมาะ กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) กล่าวว่า ภายในสิ้นเดือน ก.ย.-ต้นเดือน ต.ค. ธอส.จะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.25% หลังสภาพคล่องส่วนเกินในระบบลดลงมากแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานจากธนาคารนครหลวงไทยว่า ธนาคารจะปรับอัตราดอกเบี้ยเงินฝากประจำทุกประเภทขึ้น 50%/ปี มีผลตั้งแต่ 12 ก.ย. 48 นี้ ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ทุกประเภทได้ปรับขึ้น 0.25% มีผลตั้งแต่วันที่ 7 ก.ย. ที่ผ่านมา นายประสงค์ อุทัยแสงชัย กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) กล่าวถึงทิศทางอัตราดอกเบี้ยของระบบธนาคารว่า คาดว่าไม่เกิน 3 เดือนข้างหน้า หรือไม่เกินสิ้นปีนี้ ธนาคารพาณิชย์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยออมทรัพย์ ซึ่งเป็นไปตามทิศทาง ดอกเบี้ยขาขึ้น ด้านธนาคารทหารไทย จำกัด(มหาชน) ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเงินฝากประจำ 0.50% โดยมีผลตั้งแต่ วันที่ 12 ก.ย. เป็นต้นไป ส่วนดอกเบี้ยเงินกู้ ได้ปรับขึ้นดอกเบี้ยเอ็มโออาร์ จาก 6% เป็น 6.25% ส่วนเงินกู้เอ็มแอลอาร์ และเอ็มอาร์อาร์ ยังไม่เปลี่ยนแปลง และคงในอัตรา 6.50%
|