'กองทุนทองคำ' ช่องทางใหม่ของคนชอบทอง

สอดคล้องกับวิจัยของสถาบันการเงินต่างประเทศ ไม่ว่าจะเป็นโกลด์แมน แซคส์ ,มอร์แกน สแตนเลย์ หรือดอยช์ แบงก์ ที่ต่างก็มองราคาทองคำในตลาดโลกจากนี้ไปจนถึงปีหน้ายังเป็นแนวโน้มขาขึ้น ซึ่งมีโอกาสปรับตัวสูงขึ้นถึง 500 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยเอานซ์ โดยเฉพาะโกลด์แมน แซคส์ ที่มองราคาทองว่าจะขึ้นไปสูงถึง 800 ดอลลาร์สหรัฐ/ทรอยเอานซ์ จากปัจจุบันเลยทีเดียว มุมมองเหล่านี้เป็นปัจจัยที่ทำให้ทองคำในแง่ของการลงทุนกลับมาได้รับความสนใจขึ้นมาอีกครั้งหนึ่ง

ประเด็นคือ แล้วเราคนไทยจะออกไปลงทุนในทองคำในตลาดโลกได้อย่างไร สำหรับใครที่กำลังสนใจจะให้ทองคำเข้ามาเป็นสินทรัพย์หนึ่งในพอร์ตการลงทุนของคุณ ลองมาฟังข้อมูลจากผู้รู้กันก่อนดีกว่า

@ข้อจำกัดของการลงทุนในทองคำแท่ง เกี่ยวกับเรื่องนี้ 'โชติกา สวนานนท์' กรรมการผู้จัดการ บลจ.ทหารไทย เล่าว่า คนไทยมีความคุ้นเคยกับการซื้อทองคำมานานแล้ว แต่ส่วนใหญ่จะเป็นการซื้อเป็น 'ทองรูปพรรณ' เพื่อสวมใส่ในแง่ที่เป็นเครื่องประดับมากกว่า แต่ถ้าเป็นการซื้อ 'ทองคำแท่ง' ในมิติของการลงทุนแล้ว ยังมีอยู่น้อย แม้จะเป็นการลงทุนในประเทศเองก็ตาม เพราะมีอุปสรรคและข้อจำกัดในการลงทุนหลายประการด้วยกัน

แม้ว่าการลงทุนในทองคำแท่งจะมีต้นทุนที่ต่ำกว่าทองรูปพรรณก็ตาม แต่ก็ไม่สะดวกในการซื้อเพื่อลงทุนเพราะต้องใช้เงินลงทุนมาก เพราะทองคำแท่งส่วนใหญ่จะมีขนาด 10 บาท นอกจากนี้ยังมีความไม่สะดวกในการเดินทางไปซื้อไปขาย และหากจะลงทุนในทองคำแท่งเป็นจำนวนมากผู้ลงทุนยังต้องรับความเสี่ยงจากการถูกโจรกรรมหรือต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเก็บรักษาทองคำไว้ที่ธนาคาร

'หากผู้ลงทุนต้องการจะขายก็จะต้องเดินทางไปขายที่ร้านเดิมที่ซื้อมา เนื่องจากมีร้านทองเพียง 71 ร้าน จากกว่า 6,000 ร้านทั่วประเทศที่ได้มาตรฐานด้านความบริสุทธิ์จากสำนักงานคุ้มครองผู้บริโภค ซึ่งเป็นข้อจำกัดที่เกิดขึ้นในการลงทุนในทองคำแท่งในประเทศไทย แม้การจะไปลงทุนในทองคำแท่งในตลาดโลกด้วยตัวเองก็มีอุปสรรคในการลงทุนค่อนข้างมากเช่นเดียวกัน เป็นการป้องกันไม่ให้มีผู้เข้ามาลงทุนในทองคำแท่งในช่วงที่ผ่านมา'

@กองทุนรวมทองคำ คำตอบของการลงทุนในทองคำ โชติกา บอกว่า ในต่างประเทศเองก็เจอปัญหาและอุปสรรคในการลงทุนในทองคำแท่งเช่นเดียวกัน จึงได้มีการจัดตั้ง 'กองทุนทองคำ' กองแรกในประเทศไทยขึ้นมา เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนที่มีความสนใจจะลงทุนในทองคำแท่งสามารถที่จะเข้าไปลงทุนในตลาดทองคำได้โดยผ่านรูปแบบของกองทุนแทน โดยกองทุนเหล่านี้จะนำเงินไปลงทุนซื้อทองคำจริงๆ ในตลาดโลก

ซึ่งทำให้ผู้ลงทุนสามารถที่จะเข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุนในทองคำแท่งได้ โดยไม่มีข้อจำกัดในเรื่องของกายภาพ มีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัยในการลงทุน โดยไม่ต้องเดินทางไปซื้อขายในตลาดทองด้วยตัวเอง เรียกว่ากองทุนทองคำนี้ช่วยทำลายกำแพงขวางกั้นต่างๆ ที่เป็นอุปสรรคในการลงทุนในทองคำแท่งลง ทำให้การลงทุนในทองคำแท่งเป็นเรื่องที่ง่ายขึ้นในการเข้าถึง ด้วยต้นทุนที่ต่ำ

'บลจ.ทหารไทย ได้ใช้รูปแบบของกองทุนรวม เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนชาวไทยได้เข้าไปมีส่วนร่วมในการลงทุนในตลาดทองคำโลกในครั้งนี้ กลุ่มลูกค้าของเราคือ คนที่อยากซื้อทองแท่งแต่ไม่มีเวลาไปซื้อ หรืออยากจะซื้อแต่ไม่มีที่จะเก็บ หรือคนที่ซื้อทองแท่งเพื่อความชอบอยู่แล้ว คือ เป็นผู้ที่ชอบที่จะเห็นทอง สมมติเขามีเงิน 1,000 ล้านบาท เขาอยากซื้อทองสัก 10 ล้านบาท ถามว่าเขาจะทำยังไง เขาจะซื้อมาเก็บที่บ้านไหวมั้ย ก็ไม่ไหว ทุกวันนี้ถ้าคุณอยากดูทอง คุณอาจจะซื้อมาเก็บสัก 100 บาท ส่วนที่เหลือคุณอยากจะลงทุนคุณก็มาซื้อกองทองของเราได้'

@กองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ กองทุนที่โชติกาบอกว่า เกิดขึ้นจากความตั้งใจที่จะเปิดโอกาสให้ผู้ลงทุนได้กระจายการลงทุนไปยัง Asset Class ใหม่ๆ นอกเหนือจากเงินฝาก ตราสารหนี้ หรือว่าหุ้น โดยเป็นกองทุนหน่วยลงทุนที่ลงทุนในต่างประเทศ มูลค่าโครงการ 1,200 ล้านบาท โดยจะนำเงินที่ได้จากการระดมทุนในครั้งนี้ไม่น้อยกว่า 80% ไปซื้อหน่วยลงทุนของ 'กองทุน Street Tracks Gold Trust(GLD)' ซึ่งเป็นกองทุนทองคำที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในโลก มีขนาดกองทุน 3,046 ล้านดอลลาร์สหรัฐ(น้ำหนักทองคำ 207.44 ตัน) หรือประมาณ 124,886 ล้านบาท มีปริมาณการซื้อขายเฉลี่ยต่อวันประมาณ 100 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือประมาณ 4,000 ล้านบาท โดย Street Tracks Gold Trust มีธนาคาร HSBC Bank USA, N.A.(HSBC) เป็นผู้เก็บรักษาทองคำของกองทุนเอาไว้

'ผลตอบแทนของกองทุนเปิดทหารไทย โกลด์ ฟันด์ จะอยู่ที่มูลค่าเพิ่มของหน่วยลงทุน โดยบริษัทมีนโยบายจะสร้างผลตอบแทนให้ได้ใกล้เคียงกับผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำแท่งในตลาดโลก ซึ่งจะเสนอขายครั้งแรกระหว่างวันที่ 23 พฤศจิกายนถึง 1 ธันวาคม 2548 นี้ ด้วยเงินลงทุนขั้นต่ำเพียง 2,000 บาท และจะเปิดรับซื้อคืนครั้งต่อไปภายในเดือนกุมภาพันธ์ ปี 2549 ซึ่งจะเป็นกองทุนที่ลงทุนในต่างประเทศกองแรกของประเทศไทยที่มีการเปิดให้ทำการซื้อขายได้ทุกวัน'

สำหรับกองทุน Street Tracks Gold Trust นั้น เป็นกองทุนประเภท Exchange Traded Fund(ETF)ที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก จัดตั้งโดย World Gold Trust Services LLC ถือหุ้นโดย World Gold Council(WGC)ซึ่งเป็นองค์กรตัวแทนจากอุตสาหกรรมเหมืองแร่ทองคำชั้นนำของโลกโดยจะลงทุนในทองคำแท่ง(Gold Bullion)ที่มีความบริสุทธิ์ขั้นต่ำ 99.5% ขึ้นไป ซึ่งเป็นไปตามมาตรฐานทองคำซึ่งกำหนดโดยสมาคมผู้ค้าทองแห่งลอนดอน(The London Bullion Market Association : LBMA)

ในขณะที่ 'ดร.สุวรรณ วลัยเสถียร' ที่ปรึกษากิตติมศักดิ์ บลจ.วรรณ บุคคลที่ชื่นชอบการลงทุนในทองคำ มองว่า กองทุนทองคำจะเป็นอีกช่องทางในการลงทุนนอกเหนือไปจากสินทรัพย์ทางการเงินอื่นๆ ที่มีอยู่แล้ว และยังมีข้อดีในเรื่องของความคล่องตัวในการซื้อขาย เพราะการจะซื้อทองคำเพื่อลงทุน ถ้าเป็นการลงทุนในทองคำแท่งก็ต้องใช้เงินจำนวนมาก เพราะทองคำแท่งชิ้นเล็กๆ ไม่ค่อยมี การจะซื้อทองคำแท่งมาลงทุนได้จึงจำเป็นต้องใช้เงินมากพอสมควร แต่ถ้าเป็นกองทุนทองคำผู้ลงทุนจะมีความคล่องตัวในการซื้อขาย เพราะใช้เงินลงทุนขั้นต่ำเพียงไม่กี่พันบาทก็สามารถที่จะลงทุนในทองคำได้แล้ว

นอกจากนี้ ข้อดีอีกอย่างคือ ไม่ต้องไปเสียเวลาหาที่เก็บ เพราะถ้าลงทุนด้วยตัวเองเมื่อซื้อทองคำแท่งมาแล้ว นอกจากจะต้องลำบากในการขนส่งแล้ว ยังจะต้องเสียเวลาในการหาที่เก็บทองคำด้วย แต่ถ้าเป็นกองทุนทองคำคุณไม่ต้องไปเสียเวลาหาที่เก็บ เพราะซื้อในรูปของหน่วยลงทุนไป นี่คือจุดเด่นของกองทุนทองคำ อย่างไรก็ตามการลงทุนในทองคำขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนด้วย บางคนอาจจะชอบซื้อทองคำที่เป็นสินทรัพย์จับต้องได้ แต่บางคนอาจจะซื้อกองทุนทองคำเพราะมองในแง่ของการลงทุน ตรงนี้ขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนเป็นสำคัญ

'หลายคนมองว่าราคาทองคำในปัจจุบันสูงแล้ว จึงทำให้ความน่าสนใจลงทุนลดลงนั้น คงไม่ใช่เหตุผลที่ถูกต้องนัก เหมือนในอดีตราคารถเบนซ์ 2 ล้าน คุณว่าราคาสูงแล้ว ปัจจุบันราคารถเบนซ์สูงกว่านั้นอีก หรืออสังหาริมทรัพย์เช่นคอนโดมิเนียมหรูๆ ใจกลางเมืองในอดีตราคาก็สูง แต่ปัจจุบันราคาสูงกว่านั้นอีก ดังนั้นการจะไปสรุปว่าราคาทองคำปัจจุบันสูงแล้ว เพื่อจะได้ไม่ต้องไปลงทุนจึงไม่ถูกต้องนัก แต่จะลงทุนในสัดส่วนเท่าไรนั้นคงขึ้นอยู่กับความชอบของแต่ละคนมากกว่า'

@ทำไมต้องเป็นทองคำมาตรฐานในตลาดโลก เกี่ยวกับเรื่องนี้ โชติกา บอกว่า ทองคำเป็นสินทรัพย์ที่มีการซื้อขายกันเป็นเงินดอลลาร์สหรัฐ สำหรับทองคำที่ซื้อขายกันในตลาดโลกนั้นจะเป็น 'ทองคำมาตรฐาน' ซึ่งแตกต่างจากทองคำที่ซื้อขายกันอยู่ในประเทศไทย

โดยทองคำที่ซื้อขายกันอยู่ในตลาดโลกนั้นจะเป็นทองคำมาตรฐานที่มีความบริสุทธิ์ 99.99% หรือที่เรียกว่า 'Four Nine' ในขณะที่ทองคำที่ซื้อขายอยู่ในประเทศไทยนั้นมีความบริสุทธิ์ 96.5% นอกจากนี้ การวัดน้ำหนักทองคำก็แตกต่างกัน สำหรับทองคำในประเทศไทย วัดน้ำหนักเป็นบาท โดยทองคำ 1 บาท หนักเท่ากับ 15.244 กรัม ในขณะที่ทองคำมาตรฐานวัดน้ำหนักเป็นทรอยเอานซ์(Troy Ounces) โดย 1 ทรอยเอานซ์ เท่ากับ 31.103 กรัม หรือโดยประมาณทองคำมาตรฐานจะเท่ากับทองคำไทยหนัก 2 บาท นั่นเอง

'จุดแตกต่างที่สำคัญอีกอย่างคือ ทองคำในไทยไม่สามารถนำไปขายในตลาดโลกได้ ในขณะที่ทองคำมาตรฐานสามารถขายได้ทุกตลาดในโลกนี้ คือถ้าจะนำทองคำในไทยไปขายจะต้องทำความบริสุทธิ์ของทองให้เป็นทองมาตรฐานเพื่อที่จะนำไปขายในตลาดโลกได้นั่นเอง'

@ทองคำในประเทศใครว่าไม่มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยน แม้จะรู้ว่าทองคำมาตรฐานมีความน่าสนใจกว่าในแง่ของการลงทุน แต่นักลงทุนหลายคนก็ยังอดห่วงในเรื่องของ 'อัตราแลกเปลี่ยน' ไม่ได้อยู่ดี เพราะเป็นการไปลงทุนในต่างประเทศ แต่โดยข้อเท็จจริงแล้ว ไม่ว่าคุณจะลงทุนในทองคำในตลาดโลกหรือจะลงทุนซื้อทองคำในประเทศไทย ก็มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนไม่แตกต่างกัน

'กำพล จันทรวิบูลย์' ผู้ช่วยผู้อำนวยการ-ฝ่ายจัดการลงทุน บลจ.ทหารไทย อธิบายเสริมว่า เนื่องจากราคาทองคำในประเทศไทย ถูกกำหนดขึ้นจาก 2 ปัจจัย คือ 'ราคาทองคำในตลาดโลก' และ 'อัตราแลกเปลี่ยน' ในรูปเงินบาท/ดอลลาร์สหรัฐ แต่คนไทยจะมองเพียงว่าราคาทองตอนนี้ 9,000 บาท ทั้งที่ความเป็นจริงแล้วมันมีเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนอยู่ในนั้นแล้ว ในเมื่อจะลงทุนในทองคำในประเทศหรือต่างประเทศก็มีความเสี่ยงเรื่องอัตราแลกเปลี่ยนเหมือนกัน แล้วทำไมไม่ไปลงทุนในทองคำแท่งที่มีการซื้อขายอยู่ในตลาดโลก

'ราคาทองในเมืองไทยมีความบริสุทธิ์ 96.5% สิ่งที่เขาทำคือ เอาราคาทองที่เมืองนอกที่มีความบริสุทธิ์ 99.9% มาทอนให้เหลือ 96.5% เมื่อความบริสุทธิ์ของทองลดลงราคาทองคำก็ต้องลดลง แต่เนื่องจากทองคำในตลาดโลกเขาซื้อขายกันเป็นดอลลาร์สหรัฐ ดังนั้นจึงต้องมีการคูณราคาทองคำที่ถูกทอนลงมาแล้วด้วยอัตราแลกเปลี่ยนหนึ่งเพื่อที่จะเปลี่ยนราคาทองคำจากดอลลาร์สหรัฐให้กลับมาเป็นสกุลเงินอีกครั้ง ก่อนที่เขาจะประกาศออกมาให้เรารู้ทุกวันว่าราคาทองวันนี้ควรจะเป็นเท่าไร ปกติทองคำในประเทศไทยเองจึงมีความเสี่ยงของอัตราแลกเปลี่ยนอยู่แล้วในตัวเอง เพียงแต่ว่าเราไม่รู้เท่านั้นเอง'

@ผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำในแต่ละประเทศจะแตกต่างกัน โชติกาอธิบายเกี่ยวกับเรื่องนี้ให้ฟังว่า ราคาทองคำถูกกำหนดขึ้นมาจาก 2 ปัจจัย คือ ราคาทองคำในตลาดโลก และอัตราแลกเปลี่ยนเงินตราของประเทศนั้นเมื่อเทียบกับสกุลดอลลาร์สหรัฐ เพราะทองคำในตลาดโลกจะทำการซื้อขายด้วยเงินดอลลาร์สหรัฐเป็นหลัก

จากตารางผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำในสกุลเงินต่างๆ(ตารางที่ 1) จะพบว่า เนื่องจากมีอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามาเกี่ยวข้องจึงทำให้อัตราผลตอบแทนจากการลงทุนในทองคำย้อนหลัง 20 ปี ใน 3 สกุลเงินมีความแตกต่างกัน สาเหตุเพราะอัตราแลกเปลี่ยนที่เปลี่ยนแปลงไปของเงินแต่ละสกุลเมื่อเทียบกับเงินดอลลาร์สหรัฐมีความแตกต่างกันนั่นเอง

'ดังนั้น ผู้ที่ลงทุนในทองคำเหมือนกัน จะได้รับผลตอบแทนต่างกันขึ้นอยู่กับสกุลเงินที่ผู้นั้นใช้ในการวัดผลตอบแทน'

ด้วยเงินลงทุนเริ่มต้น 2,000 บาท คุณก็สามารถลงทุนในกองทุนทองคำได้แล้ว ไม่ต้องรอเก็บเงินก้อนโต แล้วค่อยไปซื้อทองคำแท่ง เชื่อเหลือเกินว่ากองทุนทองคำนี้ จะเป็นอีกหนึ่งช่องทางลงทุนที่จะสร้างอนาคตที่มั่นคงให้กับคุณได้