ลมหนาวที่ผ่านพ้นไปแทนที่ด้วยลมร้อนกับแสงแดดแห่งความสดใสพร้อมช่วงวันหยุดยาวที่ยาวนาน ไม่ว่าจะเป็นวันสงกรานต์ วันพักร้อน ทำให้มีการวางโปรแกรมทัวร์สนุกๆ พร้อมกับบรรยากาศสบาย ให้นักท่องเที่ยวทั้งคนไทยและฝรั่งสามารถเลือกสรรได้อย่างหลากหลาย นอกจากการเดินทางลงใต้ไปเที่ยวทะเลรับลมร้อน บรรยากาศสวยๆริมแม่น้ำปิงทางภาคเหนืออย่างจังหวัด "ตาก" ก็เป็นสถานที่ท่องเที่ยวอีกแห่งที่ไม่ควรพลาด เพราะจะได้พบกับคนพื้นเมืองหลากหลายเชื้อชาติที่หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกันไม่ว่าจะเป็น ไทย พม่า ชาวไทยภูเขาเผ่าต่างๆ จุดที่น่าสนใจในการเดินทางไปแม่สอดคือ "ถนนอัญมณี" หรือ "ถนนคนเดินพลอย" เป็นแหล่งค้าขายที่สำคัญของชาวแม่สอด ที่มีทั้งชาวไทยและชาวพม่า การขายพลอยของที่นี่จะแบ่งเป็น 2 แบบ คือ แบบแรก เรียกว่า "ร้านค้าเร่" จะมีชาวพม่า ไนจีเรีย มาเดินเร่ขายพลอยที่ได้มาจากประเทศต่างๆ พ่อค้าชาวพม่า ไนจีเรียจะเดินขายพลอย ที่ได้มาจากประเทศแอฟริกาใต้ พม่า อินเดีย กรรมวิธีจะเอากระดาษไขมาห่อพลอยไว้แล้วเดินเร่ขายไปทั่วตลาด แบบที่สอง ร้านค้าที่จะอยู่ในตึกแถวซึ่ง แบ่งพื้นที่ในการขายเป็นล็อกๆ มีทั้งหมดถึง 317 ร้านค้า ขายแบบนี้ถือเป็นวัฒนธรรมที่เก่าแก่ในการซื้อขายพลอยของอำเภอแม่สอดเลย ทีเดียว ดังนั้นจึงไม่น่าแปลกใจเลยว่าสินค้าที่มีชื่อเสียงของที่นี่ทำไมจึงหนีไม่พ้นพลอยและหยกน้ำดีที่มีความสวยงามมากมายละลานตาไปหมด มาจากแอฟริกา อินเดีย พม่า ไนจีเรีย ผู้ที่มาซื้อสินค้าส่วนใหญ่จะเป็นชาวญี่ปุน มาเลเซีย จีน และอินโดนีเซีย จนทำให้ถนนแห่งนี้กลายเป็นถนนนานาชาติไปเลย อีกทั้งสิ่งที่ควรระวังเป็นพิเศษสำหรับผู้ซื้อมือใหม่ คือ พลอยและหยกบนถนนอัญมณีจะมีหลายเกรด หลายราคา เวลาซื้อต้องดูให้ดี เพราะพลอยและหยกที่มีราคาแพงนั้นผู้ขายจะไม่นำมาโชว์หน้าร้าน แต่จะเก็บเอาซึ่งเป็นที่รู้กันของผู้ซื้อขายพลอยที่นี่ ถนนสายนี้จะเปิด-ปิดตามเวลาของแสงอาทิตย์ ประมาณ 10.00 น.-16.00 น. เนื่องจากการตรวจสอบพลอยและหยกใช้การส่องกับแสงอาทิตย์นั่นเอง นายชุมพร พลรักษ์ ผู้ว่าราชการจังหวัดตาก เป็นไกด์กิตติมศักดิ์เล่าว่าตั้งแต่เดือนพฤษภาคมจนถึงปลายปี 2550 ทางจังหวัดได้จัดกิจกรรมต่างๆ สำหรับผู้ที่ชื่นชอบและสนใจเกี่ยวกับอัญมณี เพื่อที่ท่านจะได้สัมผัสกับการท่องเที่ยวที่เต็มรูปแบบ พร้อมกับงานเปิดตัว อำเภอแม่สอด จังหวัดตาก ให้เป็น "เมืองอัญมณี แห่งเอเชีย" การเดินทางจากกรุงเทพฯ ด้วยรถทัวร์ปรับอากาศ VIP ของ บ.ข.ส. มีวันละ 4 เที่ยว ราคาตั๋วไป-กลับ เพียงคนละ 1,220 บาท ถ้าจะให้สะดวกควรนั่งรถส่วนตัวมาดีกว่า ทางด้านโรงแรมที่พักนั้น ได้รับคำแนะนำจาก "การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย" (ททท.) ให้ใช้บริการ "วัฒนา วิลเลจ รีสอร์ต" คิดค่าบ้านพัก 700 บาท/ห้อง/คืน โทร: 055-532-305 โรงแรมกึ่งรีสอร์ตแห่งนี้บรรยากาศจะสบายๆ อยู่ติดริมแม่น้ำปิง ร่มรื่นด้วยพันธุ์ไม้นานาชนิด ซึ่งสามารถนั่งชมทิวทัศน์ต่างๆ ได้ที่ระเบียงริมน้ำ อีกทั้งที่นี่ยังสามารถคงเอกลักษณ์ต่างๆ ของทางภาคเหนือไว้ได้อย่างลงตัว ตื่นเช้าขึ้นมานั่งรถประจำตัว ซึ่งคิดค่าบริการตลอดทั้งวันเพียง 2,000 บาท/คณะ มารออยู่ที่หน้าบ้านพัก โดยมีการเตรียมโปรแกรมทัวร์ "ชมของดี ของเด่น ของดัง เมืองตาก" พร้อมทั้งไปเยี่ยมชมวิถีชีวิตความเป็นอยู่ของคนแม่สอด ไม่ว่าจะเป็นการรับประทานอาหารเช้าที่ตลาดเช้าแม่สอดพร้อมเสิร์ฟด้วย โจ๊กและต้มเลือดหมูร้อนๆ ราคากันเอง ที่จะเปิดขายกันแต่เช้าของทุกวัน เสน่ห์ของตลาดเช้ายังไม่หมด ที่ต่อมาคือ "ตลาดมูเซอ" สถานที่ที่ขายสินค้าพื้นเมือง ผัก ผลไม้สดๆ ที่ชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอเก็บมาจากไร่สวนของตัวเอง อีกทั้งยังมีการรวบรวมสิ่งของเครื่องใช้โบราณของชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอเอาไว้ที่พิพิธภัณฑ์ชาวไทยภูเขาเผ่ามูเซอดำ
|