ช่วงนี้ขอหลบกระแสการเมืองที่กำลังร้อนแรง...จนหงุดหงิดหัวใจ ไปเยี่ยมโครงการสวยๆ เก๋ๆ กันดีกว่า ตีตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอสขึ้นต้นทางที่สถานีหมอชิต มุ่งหน้าเข้าเมืองโดยมีจุดหมายปลายทางอยู่ที่สถานีรถไฟฟ้าทองหล่อ เพื่อเข้าชมคอนโดมิเนียมแท่งใหม่ ใจกลางทำเลซอยทองหล่อ ซึ่งมีชื่อโครงการว่า "เดอะ โคลเวอร์ ทองหล่อ" (The Clover Thonglor) ตามคำแนะนำของเสี่ยเจ้าสำอาง "ยงยุทธ ชัยพรมประสิทธิ์" เอ็มดีมาดเท่แห่งบริษัท อควาเรียส เอสเตท จำกัด ในฐานะเจ้าของบริษัทรับบริหารงานขายโครงการนี้โดยเฉพาะในซอย "ทองหล่อ" ทุกวันนี้ กลายเป็นศูนย์ กลางการคมนาคมของสังคมมีระดับไปพักใหญ่แล้ว เพราะแวดล้อมด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกมากมาย ทองหล่อ ได้ชื่อว่าเป็นแหล่งการใช้ชีวิตของคนเมืองมีสไตล์ ไม่ว่าจะเป็นเพื่อความบันเทิง หรือเพื่อการพักผ่อน ที่หลายคนอยากจับจองเป็นเจ้าของที่พักอาศัยในย่านนี้ทั้งนั้น เพราะสามารถเดินทางไปยังโซนอื่นๆ ของกรุงเทพฯได้สะดวกรวดเร็ว ไม่ว่าจะเป็นถนนพระรามที่ 4, เพชรบุรีตัดใหม่ รวมทั้งใกล้กับสถานีบีทีเอสทองหล่อ และทางขึ้น-ลงทางด่วน "ยงยุทธ" ให้รายละเอียดว่า โครงการ "เดอะ โคลเวอร์" พัฒนาโดยกลุ่มบริษัท ท็อปไลน์ ลิฟวิ่ง จำกัด เป็นคอนโดมิเนียมใจกลางเมืองแบบ low-rise ตัวโครงการตั้งอยู่บนเนื้อที่ 6.5 ไร่ ซอยทองหล่อ 18 ประกอบด้วย อาคารสูง 9 ชั้น 5 อาคาร ในการออกแบบ มีห้องชุดให้เลือก 3 ขนาด เริ่มตั้งแต่ห้องชุดขนาด 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 2.4 ล้านบาท, ขนาด 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 3.1 ล้านบาท และขนาด 2 ห้องนอน 70 ตารางเมตร ราคาเริ่มต้นที่ 5.1 ล้านบาท มูลค่าโครงการรวม 2,000 ล้านบาท กลุ่ม เป้าหมายเน้นจับลูกค้ากลุ่มคนรุ่นใหม่วัยทำงาน ในย่านสุขุมวิทและละแวกใกล้เคียงเป็นหลัก ส่วนงานก่อสร้างจะเสร็จสมบูรณ์ทั้งโครงการในเดือนพฤษภาคม 2551 คอนเซ็ปต์จะเป็นห้องชุดพักอาศัยสไตล์ "โมเดิร์น ซิมพลิซิตี้" (modern simplicity) ออกแบบโดยบริษัท สถาปนิก 49 จำกัด (A49) และบริษัท ลีโอ ดีไซน์ จำกัด จะดูแลการออกแบบตกแต่งภายในห้องให้สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่มีระดับของคนเมืองรุ่นใหม่ โดยทางโครงการได้ตกแต่งห้องตัวอย่างให้ลูกค้าได้ชม เพื่อนำไปเป็นแบบสำหรับตกแต่งห้องด้วยตนเอง โดยมีให้เลือก 3 สไตล์ ได้แก่ 1."ฟิวชั่น สไตล์" (fusion style) สำหรับห้องขนาด 1 ห้องนอน 35 ตารางเมตร เหมาะสำหรับคนรุ่นใหม่ ที่ใช้ชีวิตอย่างอิสระ โดยสะท้อนการแต่งห้องด้วยเทคนิคการ "มิกซ์ แอนด์ แมตช์" เฟอร์นิเจอร์อย่างลงตัว โทนสีห้องที่ค่อนข้างจัดจ้าน แม้จะแรงนิดๆ ในความรู้สึก แต่เมื่อพิจารณาภาพรวมจากชุดเฟอร์นิเจอร์ประกอบเข้ากับการจัดวางของตกแต่งบ้านที่ทำจากคริสตัล รวมทั้งการให้กระจกเงาในบริเวณมุมต่างๆ เพื่อให้ห้องดูกว้างขวางขึ้น ไม่อึดอัด ถือว่าสอบผ่าน 2."โมเดิร์น สไตล์" (modern style) ห้องขนาด 1 ห้องนอน 45 ตารางเมตร ตอบสนอง ทั้งด้านชีวิตการงานและชีวิตส่วนตัว ด้วยการจัดแต่งห้องในโทนสีขรึม คือเทา และน้ำตาล รวมทั้งการใช้วัสดุที่เป็นหนังที่ให้ความรู้สึกสะอาด และ ลุ่มลึกในแบบผู้ใหญ่ แต่เพิ่มความโปร่งของห้องด้วยการใช้ลายเส้น และ 3."โมเดิร์น วินเทจ" (modern vintage) ห้องขนาด 2 ห้องนอน 70 ตารางเมตร ผสมผสานความโมเดิร์นและความคลาสสิกด้วยการใช้เฟอร์นิเจอร์แบบลอยตัว เสริมความโอ่อ่าให้กับห้อง ตลอดจนการใช้สีในโทนอบอุ่นและวอลเปเปอร์ลวดลายที่พลิ้วไหวและนุ่มนวล นอกจากนี้ ภายในโครงการเพียบพร้อมสรรพด้วยสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ อาทิ สระว่ายน้ำทรงอิสระ สวนสวยขนาดใหญ่ ห้องออกกำลังกาย พร้อมอุปกรณ์มากมาย รวมพื้นที่ส่วนกลางกว่า 1 ไร่ เพื่อมอบความเป็นธรรมชาติที่กลมกลืนกับความสุขสงบของการใช้ชีวิตในเมืองให้กับผู้อยู่อาศัย "ยอดขายวิ่งไปไวมากประมาณ 80% ถ้าเป็นแบบนี้คิดว่าภายในเดือนมีนาคมนี้คงขายได้เกือบหมด ลูกค้าส่วนใหญ่ที่เข้ามาดูจะเป็นคนวัยทำงาน อายุไม่มาก ชอบอยู่คอนโดมิเนียมในเมืองที่เดินทางได้สะดวก ซึ่งโครงการนี้สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภคได้อย่างดี" "ยุทธ" บอก "ประชาชาติธุรกิจ" ใครที่กำลังมองหาคอนโดมิเนียมในเมืองราคาเหมาะสม ไม่ใกล้ไม่ไกลจากรถไฟฟ้า ลองแวะเข้าไปชมห้องตัวอย่างและสอบถามข้อมูลได้ทุกวัน...! |