"โครงการคอนโดฯของใครนะ !" เสียงหญิงสาววัยรุ่นเอ่ยถามขึ้น ขณะจับกลุ่มมาเที่ยวช็อปปิ้งในห้างเดอะมอลล์ ท่าพระ สิ่งที่พวกเธอเห็นย่อมเป็นสิ่งแปลกใหม่แน่นอน เพราะเพิ่งเกิดขึ้นเป็นครั้งแรกในย่านฝั่งธนฯบนถนนรัชดา-ท่าพระ ที่จะมีคอนโดมิเนียมขนาดใหญ่ยักษ์ 940 ยูนิตผุดขึ้นมาในเร็ววันนี้ เพราะด้วยวิสัยทัศน์ของความเป็นผู้นำตลาดอาคารชุดที่จับกลุ่มเป้าหมายระดับชนชั้นกลางลงมา บริษัท แอล.พี.เอ็น. ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) ประกาศอย่างมุ่งมั่นว่า ทุกทำเลที่เขาเลือกสรรเพื่อขึ้นโครงการใหม่นั้นจะต้องเป็น "จุดขาย" ที่เด่นชัดและสำคัญที่สุดในสายตาผู้บริโภค "ลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ" จึงเกิดมาเพื่อตอบโจทย์เหล่านี้โดยเฉพาะ และเป็นการตอบสนองนโยบายของผู้บริหารแอล.พี.เอ็น.ฯที่ต้องการขยายฐานลูกค้าและแตกทำเลใหม่ๆ (new project location expansion) ในอนาคต เพื่อรองรับความต้องการอยู่อาศัยของผู้บริโภคอย่างแท้จริง โดยมีระบบคมนาคมขนส่งขนาดใหญ่เชื่อมโยงการเดินทางเข้าสู่ศูนย์กลางธุรกิจ (CBD) ได้รวดเร็วขึ้น ที่ตั้งโครงการบนถนนรัชดา-ท่าพระ จึงลงตัวเพราะทำเลอยู่ริมถนนใหญ่ห่างจากห้างสรรพสินค้าเดอะมอลล์ ท่าพระ แค่ 500 เมตร และอยู่ไม่ไกลจากสะพานกรุงเทพ 1-2 ถ้าจะมาขึ้นรถไฟฟ้า BTS สายสีลมก็สามารถวิ่งข้ามสะพานพระเจ้าตากสินมายังสถานีสุรศักดิ์หรือศาลาแดงก็ได้ ถ้าจะขึ้นต้นทางสถานีตากสิน (บางรัก) ก็ข้ามสะพานกรุงเทพและตัดตรงมายังถนนเจริญกรุง ถึงเป้าหมายปลายทางที่บางรักโดยใช้เวลาไม่นานนัก รัศมีการเดินทางจากโครงการลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ ยังมีขอบข่ายครอบคลุมไปถึงท่าพระ วงเวียนใหญ่ ลาดหญ้า จรัญสนิทวงศ์ และบางแค แนวโน้มคาดว่าถ้ารถไฟฟ้า บีทีเอสส่วนต่อขยายไปฝั่งธนฯสร้างเสร็จ ทำเลแถบนี้จะกลายเป็นทำเลทองมากขึ้น ที่เล่าและวาดโครงข่ายการคมนาคมให้ฟัง เพราะหลายคนบอกมาว่าฝั่งธนฯถนนซับซ้อน วิ่งยากแถมรถยังติดหนึบ ซึ่งก็จริงแต่ไม่จริงทั้งหมด ไม่อย่างนั้นกลุ่มแอล.พี.เอ็นคงไม่กล้าไปกวาดลูกค้าแถวนั้นให้เมื่อยตุ้มหรอก "โอภาส ศรีพยัคฆ์" เอ็มดีหนุ่มคนใหม่ของค่ายนี้บอกอีกว่า โครงการที่นี่เน้นทุกรายละเอียด ทั้งรูปแบบโครงการ การจัดวางผังห้องชุด และกำหนดราคาขายที่เหมาะสม ไม่เอาเปรียบกลุ่มเป้าหมาย ซึ่งเริ่มต้นยูนิตละ 1 ล้านบาทเศษแลกกับห้องพักขนาดย่อมๆ ไม่ใหญ่ไม่เล็กจนเกินไป "ลุมพินี เพลส รัชดา-ท่าพระ" จะมีอาคารชุดสูง 29 ชั้น 2 อาคาร และอาคารสูง 8 ชั้นอีก 1 อาคาร รวมแล้วก็เกือบ 1,000 ยูนิต ในห้องชุดที่บริษัทเจ้าของโครงการตกแต่งโชว์ไว้นั้นดูสวยเตะตาน่าอยู่ แต่ "มิสเตอร์โฮม" ขอเรียนไว้นิดว่า สิ่งที่เราเห็นใน mock-up นั้นผู้ที่คิดจะซื้อห้องชุดต้องถามพนักงานให้ชัดๆ ว่า ทางโครงการให้อะไรกับเราบ้าง เพราะส่วนใหญ่เขาจะขายห้องเปลือย เราต้องตกแต่งเอง หรือขายห้องพร้อมตกแต่งก็มี แต่จะมีการบวกราคาเพิ่มบ้างเพราะของสมัยนี้แพงตามราคาน้ำมัน นอกจากห้องชุดสวยๆ รอบบริเวณโครงการก็จะมีสระว่ายน้ำ ห้องออกกำลังกาย ห้องอบไอน้ำ ห้องเซาน่า และที่จอดรถไว้รอบริการอีกด้วย ถ้าท่านเบื่อมากก็เสียเวลาเดินสัก 5 นาทีก็ถึงห้างเดอะมอลล์แล้ว หนีร้อนไปตากแอร์ฟรีก็ไม่มีใครว่าถ้าไม่ขี้เกียจเดิน แว่วว่ากลยุทธ์การลงชื่อแสดงความต้องการห้องชุดล่วงหน้า หรือเรียกกันว่า บุ๊ก-บิลด์ (book-build) ที่เจ้าของโครงการนำมาใช้กลับสร้างความตื่นเต้นให้กับลูกค้าเป้าหมายมาก เพราะใครที่ได้รับจดหมายถือว่าเป็นแขกพิเศษของโครงการ ซึ่งแท้จริงแล้ววิธีการลักษณะนี้บริษัทเขาทำขึ้นเพื่อค้นหาความต้องการที่แท้จริงของลูกค้าก่อนจะพัฒนาโครงการ อย่างน้อยก็ช่วยให้บริษัทสามารถกำหนดรูปแบบสินค้าและตั้งราคาขายได้ไม่เพี้ยนไปจากความต้องการของลูกค้าในแถบนั้น เพียงลูกค้าระบุขนาดห้องชุดและราคาที่ต้องการ โดยไม่ต้องจ่ายเงินล่วงหน้าใดๆ ทั้งสิ้น ลูกค้าท่านนั้นก็จะได้รับ "สิทธิพิเศษ" ในการเลือกจองห้องชุดก่อนใครเพื่อน โดยเฉพาะในรอบที่เปิดขายเฉพาะกลุ่ม book-build พร้อมรับส่วนลดมากมายจากราคาขายปกติ รู้อย่างนี้ถ้าเป็นคนทำงานในย่านนั้นและกำลังคิดซื้อคอนโดฯราคาที่ไม่แพงนักก็ลองแวะไปที่ไซต์ดูทุกอย่างด้วยตาตัวเอง (สักครั้ง) |