แฟลตเคหะชุมชนกลายพันธุ์ ! กคช.ขนบ้านค้างสต็อกในกทม.กว่า2,000หน่วย เข้าโครงการบ้านเอื้ออาทร ส่งบางพลี /ออเงิน/ร่มเกล้า สบช่องบ้านเอื้ออาทรสร้างไม่ทันเป้า 500,000 หน่วยเสร็จในปี 50 "ชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์"ยอมรับเกินกำลังความสามารถพร้อมทำทุกวิถีทางช่วยเพิ่มยอด ด้านลูกค้าเก่ารุมสวดยับเตรียมร่อนหนังสือถึง"ทักษิณ"ทบทวนใหม่ แฉ ซื้อราคาแพงกว่า /อัตราผ่อนชำระสูง/ ดอกแพง กว่าเอื้ออาทรฯแต่อยู่ในโครงการเดียวกัน จากกรณีที่การเคหะแห่งชาติ (กคช.)ได้ประสบปัญหาสร้างโครงการเคหะชุมชนขายไม่ออกซึ่งหรือบ้านค้างสต็อกสะสมทั่วประเทศไม่ต่ำกว่า 10,000 หน่วย ทำให้เกิดภาระหนี้สินจากต้นทุนการก่อสร้างทั้งเงินต้นและดอกเบี้ยตามมาไม่ต่ำกว่า 10 ปี พร้อมทั้งหาทางออกเพื่อลดภาระหนี้ ประกอบกับต้องรับภาระหนักทำโครงการบ้านเอื้อาทรตอบสนองผู้มีรายได้น้อยจำนวน 500,000 ภายใน 5 ปี คือปี 2550 แต่กลับต้องเลื่อนระยะเวลาการก่อสร้างและส่งมอบบ้านออกไปอีก 1 ปี ดังนั้นจึงเป็นเรื่องใหญ่ที่กคช.ต้องหาทางออก เกี่ยวกับเรื่องนี้ นางชวนพิศ ฉายเหมือนวงศ์ ผู้ว่าการ การเคหะแห่งชาติ (กคช.) เปิดเผยกับ"ฐานเศรษฐกิจ"ว่า ขณะนี้ กคช.มีแผนนำโครงการแฟลตเคหะชุมชนในเขตกรุงเทพมหานคร(กทม.) ที่เป็นโครงการขายไม่ออกหรือค้างสต็อกมานาน และมีคุณสมบัติใกล้เคียงกับโครงการบ้านเอื้ออาทร อาทิ ราคา ทำเล มาปรับเปลี่ยนเงื่อนไขเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทร ตามนโยบายรัฐบาล จำนวน 2,000 หน่วย ได้แก่ โครงการเคหะชุมชนออเงิน จำนวน 600กว่า หน่วย และโครงการแฟลตเคหะชุมชนร่มเกล้าจำนวน 200 หน่วย ปรับเปลี่ยนเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทร หลังจากที่ผ่านมาได้ทดลองนำโครงการเคหะชุมชนบางพลีเข้าโครงการไปก่อนหน้านี้แล้วจำนวน 1,000 กว่าหน่วย ซึ่งจะเป็นห้องเอนกประสงค์ขนาด 31 ตารางเมตร ราคา280,000-310,000 บาท เข้าแบงก์ 100 % สินเชื่อระยะยาว30 ปีอัตราดอกเบี้ย 4 % อัตราผ่อนชำระ1,000บาท/งวด ส่วนลูกค้าเก่าที่ซื้อโครงการเคหะชุมชนตามปกติ ซึ่ง จะผ่อนชำระงวดละ 3,000 กว่าบาท
ทั้งนี้เนื่องจากโครงการดังกล่าวเป็นโครงการเก่าก่อสร้างมานานและขายไม่ออกเนื่องจากติดปัญหาลูกบ้านที่ต้องการซื้อโครงการดังกล่าวส่วนใหญ่ติดปัญหาเครดิตบูโร ดังนั้นสถาบันการเงินจึงไม่ปล่อยสินเชื่อให้ นอกจากนี้แล้วติดปัญหาการค้างชำระและต้องยึดคืนห้องทำให้เกิดพื้นที่ห้องเหลือขายจำนวนมาก อย่างไรก็ดีทางออกก็คือนำโครงการดังกล่าวดัดแปลงเข้าโครงการบ้านเอื้ออาทรดังกล่าว ซึ่งกคช.เป็นผู้ค้ำประกัน ทำให้สถาบันการเงินยอมปล่อยกู้ ทั้งนี้ได้ให้ธนาคารออมสินปล่อยสินเชื่อรายย่อยให้ ซึ่งจะสามารถระบายแฟลตเคหะชุมชนที่เหลือออกไปได้ทันที เพราะประชาชนผู้มีรายได้น้อยยังต้องการบ้านเอื้ออาทรอยู่มาก จากการสำรวจโครงการเคหะชุมชนในเขตกทม.ที่มีหลักเกณฑ์เทียบเท่ากับโครงการบ้านเอื้ออาทรจะมี ประมาณ 2,000 กว่า หน่วย ส่วนโครงการเคหะชุมชนอื่นๆอาทิ ประชาชื่นราคาและขนาดเนื้อที่จะสูงกว่าเงื่อนไขบ้านเอื้ออาทร สำหรับโครงการที่ต่างจังหวัดส่วนใหญ่จะไม่เข้าเกณฑ์เช่นเดียวกัน
ในขณะเดียวกัน แผนก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทรกคช.จำนวน 500,000 หน่วย ที่กำหนดให้แล้วเสร็จพร้อมส่งมอบ ภายใน 5 ปี คือปี 2546-2550 มีความล่าช้าอยู่มาก ไม่สามารถก่อสร้างให้แล้วเสร็จตามเป้าที่ตั้งไว้ได้ ดังนั้นหากมีโครงการอะไรที่พอจะเข้ามาช่วยเพิ่มยอดบ้านเอื้ออาทรให้เป็นไปตามเป้าได้มากขึ้นและยิ่งก่อสร้างแล้วเสร็จยิ่งจะลดภาระมากขึ้นทั้งงบประมาณการก่อสร้างและภาระหนี้ที่เกิดจากโครงการเก่าที่ขายไม่ออก ซึ่งทั้งสองส่วนจะสามารถช่วยแบ่งเบาภาระกคช.ได้เป็นอย่างดี
นางชวนพิศกล่าวต่อว่า ยอมรับความจริงว่า กคช.ไม่สามารถก่อสร้างโครงการบ้านเอื้ออาทร ได้เสร็จทันตามกำหนด เพราะเกิดกำลังความสามารถที่มีอยู่ ดังนั้นจึงเสนอต่อพ.ต.ท. ทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เพื่อเลื่อนการก่อสร้างบ้านออกไปอีก 1 ปี คือปี 2551 แต่เป็นแค่ช่วง 2 ไตรมาสแรกของปี 2551 จำนวน 60,000 กว่าหน่วยเท่านั้น
เช่นเดียวกับแหล่งข่าวจากสำนักงานขายโครงการเคหะชุมชนบางพลี กล่าวเพิ่มเติมว่า โครงการดังกล่าว ก่อสร้างและเปิดขาย10กว่าปีมาแล้ว จำนวน 4,000 กว่าหน่วย ซึ่งขณะนี้ได้นำโครงการที่เหลือขายจำนวน 1,000 กว่าหน่วยที่เป็นโครงการใกล้เคียงกับโครงการบ้านเอื้ออาทรออกขาย ซึ่งก็ได้รับความสนใจจากประชาชนดี สอดคล้องกับ แหล่งข่าวจากสำนักงานขาย โครงการเคหะชุมชน ออเงิน กล่าวว่าก่อสร้างและเปิดขายมาแล้ว กว่า 5 ปี มีจำนวนทั้งหมด 4,000 หน่วยทั้งบ้านและแฟลต ซึ่งขณะนี้มีแฟลตที่ยังขายไม่ออกจำนวน 830 หน่วย แต่เข้าเกณฑ์ โครงการบ้านเอื้ออาทรจำนวน 600 กว่าหน่วย ราคา 260,000-310,000 บาท ขนาด 31 ตารางเมตร เมื่อมีการปรับเปลี่ยนเงื่อนไขก็สามารถกู้จากธนาคารออมสินได้ 100 % ผ่อนระยะยาว 30 ปี อัตราดอกเบี้ย 4 % งวดละ 1,000 กว่าบาทเท่านั้น ส่วนโครงการที่ร่วมเกล้าเช่นเดียวกันมีตจำนวนหน่วยไม่ต่ำกว่า1,000 หน่วยและปรับเป็นโครงการบ้านเอื้ออาทรจำนวน200กว่าหน่วย
หนังสือพิมพ์ "ฐานเศรษฐกิจ"ได้สอบถามไปยังผู้เช่า-ซื้อรายเก่าที่ซื้อโครงการเคหะชุมชนออเงิน บางพลีและร่มเกล้า ปรากฎว่าหลายรายรู้สึกไม่พอใจที่กคช.จะนำโครงการที่เหลือไปปรับเป็นบ้านเอื้อาทร ทั้งนี้เนื่องจากทั้งราคา ระยะเวลาการผ่อนชำระ การผ่อนชำระต่องวด รวมไปถึงอัตราดอกเบี้ยถูกกว่ามาก คือเฉลี่ยต่องวดผ่อนไม่เกิน1,000 บาท ผ่อนระยะยาวนานถึง 30 ปี อัตราดอกเบี้ยแค่ 4 % ในขณะที่ลูกค้าเก่ากับมีปัญหาเรื่องการฟ้องร้องเกี่ยวกับการผ่อนชำระเพราะผ่อนกับกคช.อัตราดอกเบี้ยสูงถึง 11 %ทำให้ผ่อนชำระไม่ไหว ซึ่งมองว่าไม่มีความเป็นธรรม ทั้งที่เป็นโครงการเดียวกัน อาคารเดียวกันและเชื่อว่าจะเกิดปัญหาสังคมตามมาเพราะทุกคนทุกอาชีพสามารถซื้อได้ อย่างไรก็ดีลูกบ้านที่อยู่เก่าจะทำหนังสือร้องเรียนไปยังสำนักงานคณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค(สคบ.) และพ.ต.ท.ทักษิณ ชินวัตรนายกรัฐมนตรี เพื่อให้ระงับการดำเนินการในลักษณะดังกล่าว |