การรุกคืบเข้ามาของกลุ่มทุนต่างชาติเป็นความเปลี่ยนแปลงที่ปรากฏให้เห็นชัดเจนมากขึ้นในธุรกิจอสังหาริมทรัพย์รอบใหม่ อาทิ กลุ่ม Government of Singapore Investment corporation (GIC) ที่เข้ามาถือหุ้นในแลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ ตั้งแต่หลังวิกฤตเศรษฐกิจ และล่าสุดก็จับมือลงทุนในสัดส่วน GIC 40% แลนด์ฯ 60% เข้าซื้อบริษัท รอยัล เอ็คเซ็ลเล็นซิ จำกัด ที่เป็นเจ้าของสิทธิในอาคารสร้างค้างหลังศูนย์การค้าเพนิซูล่า ในวงเงิน 260 ล้านบาท เพื่อพัฒนาเป็นโครงการเซอร์วิสอพาร์ตเมนต์ ถือเป็นการรุกธุรกิจอสังหาฯให้เช่าเต็มตัว กลุ่มบริษัท เซ็นเตอร์พอยต์ พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด ในเครือเฟร์เซอร์ แอนด์นีฟ เจ้าของเบียร์ไฮเนเก้น ไทเกอร์เบียร์ ซึ่งเป็นบริษัทพัฒนาอสังหาฯระดับท็อปไฟฟ์ของสิงคโปร์ ได้ร่วมทุนกับบริษัท กรุงเทพบ้านและที่ดิน จำกัด ในเครือพร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ตั้ง บริษัท ริเวอร์ไซด์ โฮม ดีเวลอปเมนต์ จำกัด ประเดิมโครงการคอนโดมิเนียมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา ย่านพระรามที่ 3 ราคาตารางเมตรละ 1 แสนบาท มูลค่าขาย 5,000 ล้านบาท หรือกลุ่ม "เคปเปล แลนด์" ที่กระจายการลงทุนในธุรกิจอสังหาฯหลายประเทศ เช่น ฟิลิปปินส์ จีน เวียดนาม ฮ่องกง ฯลฯ ได้เข้ามาถือหุ้นในอีสเทิร์นสตาร์ พร็อพเพอร์ตี้ ของตระกูล "กฤษดาธานนท์" ซึ่งปัจจุบันเปลี่ยนชื่อเป็นบริษัท เคปเปล ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ผุดโครงการบ้านหรู "วิลล่า อะเคเดีย ศรีนครินทร์" ทั้งหมดล้วนเป็นกลุ่มทุนจากประเทศสิงคโปร์ แต่นับจากนี้ต้องจับตากลุ่มทุนจากตะวัน ออกกลาง ที่เริ่มเข้ามามากขึ้น เช่น การลงทุนกว้านซื้อคอนโดฯในโครงการ "เดอะแพลทตินั่ม" ประตูน้ำ เพื่อปล่อยเช่า รวดเดียว 30 ยูนิต รวมถึงกลุ่มทุนจากประเทศอังกฤษ ซึ่งกรณีของกลุ่มทุนอังกฤษนั้นสะท้อนออกจากคำพูดของ "ดร.ไวท์ ชัยพยุงพันธ์" กรรมการผู้จัดการ บริษัท พาราไดซ์ ปาล์ม จำกัด ดีเวลอปเปอร์รุ่นเก๋าที่มี สายสัมพันธ์แนบแน่นกับ "ชายนิด โง้วศิริมณี" กรรมการผู้จัดการ บมจ.พร็อพเพอร์ตี้ เพอร์เฟค ในวันร่วมงานเปิดตัวโครงการคอนโดฯเมโทรโปลิส ย่านประตูน้ำ อย่างเป็นทางการเมื่อปลายสัปดาห์ที่ผ่านมาว่าสนใจเข้ามาลงทุนอสังหาฯในไทยเช่นเดียวกัน การกลับมารอบนี้ได้วางแผนนำแลนด์แบงก์ผืนใหญ่ 1,200 ไร่ ในย่านมหาชัย จังหวัดสมุทรสาคร ช่วง ก.ม.31 ที่เคยพัฒนาตั้งแต่ช่วงวิกฤตเศรษฐกิจปี 2540 ในชื่อโครงการ "พาราไดซ์สปริงซ์" มาพลิกฟื้นอีกครั้ง เริ่มแรกจะนำที่ดินส่วนหนึ่งพัฒนาเป็นบ้านจัดสรรสำหรับผู้สูงอายุจับกลุ่มชาวต่างชาติ จำนวน 1,000 กว่ายูนิต ภายในมีทะเลสาบขนาดใหญ่ สนามกอล์ฟขนาด 18 หลุม และ 9 หลุม รวมถึงโครงการคอนโดฯที่กำลังดูแนวโน้มตลาดอยู่ เบ็ดเสร็จจะมีมูลค่าโครงการ 8,000-9,000 ล้านบาท ขณะที่การเข้ามาของทุนต่างชาติยังรวมถึงกลุ่มทุนจากประเทศจีนที่น่าจับตามองเช่นกัน การร่วมลงนามในบันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างผู้แทนเขตปกครองใหม่ ซิวเจียง ซีอาน ในฐานะผู้แทนรัฐบาลซีอาน กับบริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเทรียล พาร์ค จำกัด บริษัทของตระกูล "กฤษดาธานนท์" เจ้าของบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) หรือ KMC เพื่อพัฒนาที่ดินร่วม 1,000 ไร่ จากทั้งหมด 4,600 ไร่ ในย่านถนนบางนา-ตราด ก.ม.32.5 ตามโครงการ "สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์" อาจกล่าวได้ว่านี่คือก้าวแรกของประเทศในการรุกธุรกิจพัฒนาที่ดิน โดยรัฐบาลซีอานจะให้ความร่วมมือพัฒนาที่ดินผืนนี้เป็นแหล่งท่องเที่ยวขนาดใหญ่ ไฮไลต์อยู่ที่การสร้างโรงละครจีนขนาดใหญ่ และสินค้าจากจีนอีกนับไม่ถ้วน ที่มีมูลค่าลงทุนถึง 20,000 ล้านบาท ขณะที่การรุกคืบเข้ามาของกลุ่มทุนสิงคโปร์ยังมีต่อเนื่อง คือ อย่างเช่น การหวนคืนสู่วงการอสังหาฯอีกครั้งของบริษัท รัตนการเคหะ จำกัด (มหาชน) ที่เปลี่ยนชื่อใหม่เป็น บริษัท ไทย พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) ก็ได้ดึงบริษัท โกลบอล พารากอน เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด และ Effort Finance Limited 2 กลุ่มทุนสิงคโปร์ที่ทำธุรกิจพัฒนาที่ดิน ถือหุ้นในสัดส่วน 17.42% และ 15.78% ตามลำดับ นอกจากโครงการคอนโดฯเมโทรโปลิส ประตูน้ำ บนอาคารประตูน้ำเซ็นเตอร์ ขนาด 26 ชั้น 309 ยูนิต มูลค่าโครงการ 800 ล้านบาท "ไทยพร็อพเพอร์ตี้" ยังอยู่ระหว่างเจรจาซื้อที่ดินในย่านรัชดาภิเษกและสุขุมวิท เพื่อขึ้นโครงการคอนโดฯ การเข้ามาของกลุ่มทุนสิงคโปร์ยังรวมถึงบริษัทแคปปิตอล แลนด์ ที่รัฐบาลสิงคโปร์ เป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ ก่อนหน้านี้ก็ได้ร่วมทุนกับกลุ่ม ที.ซี.ซี.ของ "เจริญ สิริวัฒนภักดี" ขึ้นโครงการคอนโดฯ พลาซ่า แอทธินี ย่านเพลินจิต ราคาตารางเมตรละ 1 แสนบาท พร้อมกับมีแผนเปิดตัวโครงการบ้านหรูริมถนนเกษตร-นวมินทร์ ในอนาคต รวมไปถึงกลุ่ม "คูดู" อดีตพันธมิตร "ไรมอนด์แลนด์" เจ้าของโครงการบ้านหรู "เดอะทรีส์ สาทร" ที่จับมือกับกลุ่มทุนคลื่นลูกใหม่ บริษัท ชินคาร่า จำกัด เป็นพันธมิตรในนาม Smaller Developer Asscociation ทั้งหมดส่งผลให้ธุรกิจอสังหาฯเข้าสู่ยุคการแข่งขันอันท้าทายจากลุ่มทุนข้ามชาติ
|