ทุนส่วนกลางบุกภูเก็ตผุดคอนโดฯหรูเจาะชาวต่างชาติและนักล่องเรือยอช์ท

ทุนส่วนกลางบุกภูเก็ต ผุด "ภูเก็ต มารีนา เรสซิเดนซ์" คอนโดมิเนียมหรูและมารีนาริมทะเลเกาะสิเหร่ ชายฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต มูลค่า 400 ล้านบาท จับกลุ่มลูกค้าชาวต่างชาติ นักล่องเรือยอตช์ เตรียมเปิดโครงการใหม่ใกล้ๆ กันอีกหนึ่งโครงการ เป็นบ้านหรูริมทะเลที่เน้นความเป็นส่วนตัวหลังปิดโครงการนี้ภายในกลางปีหน้า
      
       นายกวินวิทย์ บุญอุดมทรัพย์ กรรมการผู้จัดการบริษัท ภูเก็ต ซีวิว จำกัด เจ้าของโครงการภูเก็ต มารีนา เรสซิเดนซ์ เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลมีนโยบายส่งเสริมจังหวัดภูเก็ตให้เป็นศูนย์กลางมารีนาและเรือยอตช์นั้น ทางบริษัทฯได้ตอบสนองนโยบายของจังหวัดภูเก็ตและรัฐบาลโดยการเข้ามาลงทุนในโครงการ "ภูเก็ต มารีนา เรสซิเดนซ์" ที่บริเวณเกาะสิเหร่ ต.รัษฏา อ.เมือง จ.ภูเก็ต เนื่องจากเกาะสิเหร่เป็นพื้นที่ที่มีความเหมาะสมในการทำมารีนาเนื่องจากตั้งอยู่ทางฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต เป็นจุดที่มีความปลอดภัยสูงในการกำบังคลื่นลม
       
       โดยโครงการภูเก็ต มารีนา เรสซิเดนซ์ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 8 ไร่ ติดริมทะเลบริเวณเกาะสิเหร่ ซึ่งได้ซื้อที่ดินต่อมาจากโครงการสิเหร่พาร์ควิว แบ่งการลงทุนออกเป็น 2 ส่วน คือ ในส่วนของการลงทุนบนบกที่เป็นคอนโดมิเนียมคอมเพล็กซ์ 3 หลัง รวมทั้งสิ้น 54 ยูนิต คอนโดฯละ 18 ยูนิตเท่านั้นเพราะเน้นความเป็นส่วนตัว มีพื้นที่ใช้สอยตั้งแต่ 70-200 ตารางเมตร ซึ่งแบ่งเป็นอาคารเอ, บี และ ซี เริ่มจากห้องนอนเดี่ยวไปจนถึง 3 ห้องนอน พร้อมเพนต์เฮาส์ซึ่งอยู่ชั้นบนสุดของอาคาร ราคาตั้งแต่ 4 ล้านกว่าบาทจนถึง 12 ล้านบาท พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวก เช่น สระว่ายน้ำติดชายหาด จากุซซี่ ห้องฟิตเนส ห้องซาวน่า ลู่วิ่งออกกำลังกาย สนามเด็กเล่น บิซิเนสเซ็นเตอร์
       
       ส่วนการลงทุนในน้ำซึ่งเป็นในส่วนของมารีนานั้น สามารถจอดเรือได้ทั้งหมด 68 ลำ ในส่วนนี้ทางบริษัทฯได้ให้บริษัทที่มีความชำนาญด้านมารีนา ออกแบบโครงการเพื่อให้โครงการออกมาสมบูรณ์แบบที่สุด
       
       นายกวินวิทย์ กล่าวว่า โครงการดังกล่าวใช้เงินลงทุนประมาณ 400 ล้านบาท โดยแบ่งการลงทุนที่เป็นคอนโดมิเนียม 250 ล้านบาท ที่เหลือเป็นการลงทุนในส่วนของมารีนาได้รับการสนับสนุนจากธนาคารกรุงไทย(KTB) จำกัด (มหาชน) โดยขณะนี้โครงการมีความคืบหน้าไปแล้วประมาณ 30% ได้ทำการก่อสร้างในส่วนของสาธารณูปโภคต่างๆ สระว่ายน้ำ และอาคารคอนโดมิเนียมไปแล้ว 3 ชั้น คาดว่าทั้งโครงการจะแล้วเสร็จภายในเดือนมิถุนายนปี 2549 รวมทั้งในส่วนของมารีนาด้วย
       
       "โครงการได้เปิดขายไปแล้วตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนที่ผ่านมา โดยทำการขายผ่านทางเอเยนต์หลายบริษัท เพราะกลุ่มลูกค้าเป้าหมายหลักที่วางไว้เป็นชาวต่างชาติในประเทศต่างๆ ชาวต่างชาติที่เข้ามาลงทุนและทำธุรกิจทั้งในประเทศใกล้เคียง ในประเทศไทย และภูเก็ต รวมทั้งกลุ่มลูกค้าคนไทย โดยสัดส่วนของลูกค้าจะอยู่ที่ครึ่งต่อครึ่งระหว่างต่างชาติกับคนไทย และโดยเฉพาะลูกค้ากลุ่มที่เล่นเรือยอตช์เป็นกลุ่มเป้าหมายหลัก เพราะเรามีท่าจอดเรือยอตช์ที่ทันสมัยและสะดวกสบายไว้บริการด้วย ขณะนี้ลูกค้าจองโครงการแล้วกว่า 30%"
       
       นายกวินวิทย์ ยังกล่าวถึงการเติบโตของธุรกิจอสังหาฯในภูเก็ตว่า มีแนวโน้มดีมาก จากความต้องการบ้านพักที่อยู่อาศัยของทั้งคนไทยในภูเก็ต และชาวต่างชาติที่สนใจมีบ้านพักในภูเก็ต และโดยเฉพาะบ้านที่อยู่ตามมารีนากำลังเป็นที่ต้องการของต่างชาติเพราะมีความสะดวกสบายในการนำเรือยอชต์เข้ามา และมารีนาเองก็เป็นธุรกิจที่น่าลงทุนมากในภูเก็ต เพราะรัฐบาลให้การสนับสนุน ซึ่งบริเวณที่มีความเหมาะสมในการลงทุนด้านมารีนาจะเป็นฝั่งตะวันออกของเกาะภูเก็ต ซึ่งมารีนาทั้งหมดของภูเก็ตอยู่ทางฝั่งตะวันออกเพราะมีความปลอดภัยสูงในการกำบังคลื่นลม เช่น เกาะสิเหร่ เกาะแก้ว เป็นต้น
       
       อย่างไรก็ตาม ภายหลังจากที่ปิดโครงการนี้แล้ว ทางบริษัทฯมีโครงการที่จะลงทุนเพิ่มที่บริเวณเกาะสิเหร่อีก 1-2 โครงการในบริเวณติดกับโครงการภูเก็ต มารีน่า เรสซิเดนซ์ ซึ่งมีที่ดินเหลืออยู่อีก 10 ไร่อยู่ติดริมทะเล ขณะนี้กำลังอยู่ในขั้นตอนการออกแบบ เป็นบ้านหรูที่เน้นความเป็นส่วนตัว โดยคาดว่าจะเปิดโครงการได้ภายในหลังกลางปีหน้า หลังจากที่ปิดโครงการภูเก็ต มารีน่า เรสซิเดนซ์ไปแล้ว
       
       สำหรับนายกวินวิทย์นั้น ก่อนที่จะเข้ามาลงทุนโครงการภูเก็ตเรสซิเดนซ์นั้น ทำธุรกิจรับเหมาก่อสร้างที่กรุงเทพฯ และได้เข้ามาซื้อที่ดินในโครงการสิเหร่พาร์ควิวจากเจ้าของโครงการเดิมที่ไม่ประสบความสำเร็จในการลงทุน