|
จับตาราคาที่ดินพุ่ง |
หลังจากราคาที่ดินฉบับใหม่ประกาศใช้ไปเมื่อ 1 ก.ค. ที่ผ่านมา ทำให้ราคาเสนอขายที่ดินในตลาดถีบสูงขึ้นเป็นเท่าตัว โดยเฉพาะที่ดินในย่านธุรกิจการค้า และพื้นที่ตามแนวรถไฟฟ้าคาดการณ์ราคาซื้อ-ขายที่ดินช่วงปีหลัง ยังน่าจับตามองสำหรับนักลงทุน แต่อาจส่งผลให้การพัฒนาธุรกิจอสังหาฯ ใหม่ ๆชะลอตัว เนื่องจากราคาที่ดินที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ต้นทุนโครงการสูงตาม รวมถึงกำลังการซื้อของผู้บริโภคที่ยังมีไม่ถึง กิตติศักดิ์ จำปาทิพย์พงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทเซ็นจูรี่ 21 เรียลตี้ แอฟฟิลิเอทส์ (ประเทศไทย) จำกัด เผยถึงภาพรวมราคาซื้อ-ขายที่ดินช่วงครึ่งปีหลังว่า ราคาประเมินที่ดินส่วนใหญ่ที่ใช้ซื้อขายกันในทำเลย่านธุรกิจ หรือซีบีดีโซนในปัจจุบัน อาจไม่ได้ใกล้เคียงกับราคาซื้อขายจริงที่เกิดขึ้นในตลาดที่ดิน ที่มีการปรับราคาพุ่งสูงขึ้นอีกเป็นเท่าตัวจากราคาประเมิน ราคาเสนอขายในตลาดสูงสุด 5 อันดับแรก ได้แก่ บริเวณถนนเพลินจิตและถนนวิทยุ บริเวณย่านราชดำริ โซนพระราม 1บริเวณมาบุญครอง-ปทุมวัน โซนสุขุมวิทบริเวณซอยนานาไปจนถึงซอยทองหล่อ ย่านพญาไท-ราชเทวีและเส้นสาทร-นราธิวาสฯ เรียงตามลำดับบริเวณถนนเพลินจิต และถนนวิทยุ มีราคาประเมินสูงสุดอยู่ที่ 8 แสนบาทต่อ
ตารางวา ราคาเสนอขายจริงอยู่ที่ประมาณ 1.5-1.7 ล้านบาท แต่ราคาซื้อขายจริงจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งในบริเวณนี้ยังมีที่ว่างที่สามารถซื้อขายกันได้อีกประมาณ 10 แปลง แถวหลังสวน มูลค่ากว่า 1.5 หมื่นล้านบาท บริเวณย่านราชดำริ ราคาประเมินสูงสุดอยู่ที่ 8 แสนบาทต่อตารางวา เช่นกัน แต่ราคาเสนอขายจริงจะอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท ซึ่งตอนนี้ยังไม่มีคนเสนอขาย มีแต่คนเสนอซื้อจริงในราคา 1.2-1.5 ล้านบาท โซนพระราม 1 บริเวณมาบุญครอง-ปทุมวัน ราคาประเมินสูงสุดอยู่ที่ 8 แสนบาทต่อตารางวา และราคาเสนอขายจริงอยู่ที่ประมาณ 1.5 ล้านบาท เช่นเดียวกับย่านราชดำริโซนสุขุมวิท บริเวณตั้งแต่ซอยนานา จนถึงซอยทองหล่อ ราคาประเมินอยู่ที่ 5-7 แสนบาท ราคาเสนอขายจริงประมาณ 1.3-1.5 ล้านบาท ส่วนราคาซื้อขายจริงอยู่ที่ 8 แสน- 1.5 ล้านบาท สูงกว่าราคาประเมินเกือบเท่าตัว บริเวณย่านพญาไท-ราชเทวี และเส้นสาทร-นราธิวาสฯ ราคาประเมินสูงสุดอยู่ที่ 6 แสนบาท ในขณะที่ราคาเสนอขายในตลาดอยู่ที่ 1.2 ล้านบาท นอกจาก 5 ทำเลที่กล่าวมา ยังมีที่ดินอีกหลายโซนที่ราคาซื้อ-ขาย ขยับตัวจากราคาประเมิน ซึ่งเจ้าของโครงการหรือดีเวลลอปเปอร์ที่กำลังมองหาทำเลทางธุรกิจ สามารถสำรวจราคานี้ไว้เป็นข้อมูลเบื้องต้น เพื่อประเมินต้นทุนของโครงการก่อนได้ เพราะราคาที่ดินถือเป็นปัจจัยหลักที่ทำให้ต้นทุนขยับตัวสูงมากกว่าปัจจัยอื่น ๆ นอกเหนือไปจากราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง และค่าจ้างแรงงาน จากเดิมที่ดินคิดเป็น 20% ของต้นทุนการพัฒนาโครงการ ตอนนี้เพิ่มเป็น 40% แล้ว กิตติศักดิ์ กล่าวเพิ่มเติม นอกจากราคาที่ดินที่ปรับตัวเพิ่มสูงขึ้น ยังมีเรื่อง การจัดการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม (อีไอเอ) ที่อาจส่งผลให้ทิศทางอสังหาฯ ในช่วงครึ่งปีหลังชะลอตัวลงบ้าง เพราะจากเดิมที่ผู้ประกอบการสามารถใช้สัญญาจะซื้อจะขายที่ดินแปลงที่จะพัฒนาโครงการประกอบการยื่นแบบได้ แต่กฎใหม่จะต้องโอนที่ดินเป็นชื่อบริษัทก่อน ต้นทุนที่ปรับเพิ่มสูงขึ้น ทั้งเรื่องราคาที่ดิน การจัดการประเมินผลกระทบทางสิ่งแวดล้อม ราคาน้ำมัน ราคาวัสดุก่อสร้าง ค่าจ้างแรงงาน อาจส่งผลต่อราคาขายคอนโดมิเนียมระดับไฮเอนท์ คาดการณ์ว่าสิ้นปีนี้อาจมีการปรับราคาขายต่อตารางเมตรเพิ่มขึ้น ราคาอาจเพิ่มสูงถึง 1.8-2 แสนบาทต่อตารางเมตร แต่เนื่องจากปัจจุบัน คนยุคใหม่ นิยมย้ายเข้าไปอยู่ในเมืองกันมากขึ้น ในขณะที่ราคาขายคอนโดมิเนียมต่อตารางเมตรเพิ่มสูงขึ้น แต่รายได้ของผู้บริโภคกลับยังคงที่ ทำให้สามารถซื้อคอนโดมิเนียมได้ในขนาดเล็กลง ผู้ประกอบการหลายรายปรับตัวทำขนาดห้องให้เล็กลง เพื่อให้ราคาโดยรวมยังคงใกล้เคียงกับราคาเดิม ปีหน้าอาจมีการพัฒนาห้องชุดที่มีขนาดเล็กกว่า 20 ตารางเมตรออกมาขายในตลาด. |
|
บ้านมือสอง คอนโด condo บ้านจัดสรร คอนโดมิเนียม บ้านเดี่ยว บ้านเช่า ที่ดิน
วันที่ : 18 กุมภาพันธ์ 2556
จำนวนผู้อ่าน : 3893 ครั้ง
เรื่องอื่นๆที่น่าสนใจ
|
|
|
ขายบ้าน, คอนโด มือสอง, บริษัทนายหน้า, โบรกเกอร์, รับฝากขายบ้าน, ขายบ้าน, realtor, agency, บริษัท ขายบ้าน, ตัวแทน นายหน้า, รับฝากขาย, ซื้อขายบ้าน, ฝากขายบ้าน
นายหน้า ขายบ้าน, บ.นายหน้า ขายบ้าน, โบรกเกอร์, ซื้อขายบ้าน, รับฝากขายบ้าน, ตัวแทนนายหน้า, โบรกเกอร์บ้าน, นายหน้าบ้าน, ตัวแทนบ้าน ขายบ้าน ตกแต่งบ้าน ฟอร์นิเจอร์ ออกแบบ บ้าน ซื้อขาย บ้าน, รับออกแบบ บ้าน, รวมแบบบ้านแบบ บ้าน, ตกแต่งภายใน บ้าน, interior design ออกแบบ บ้าน, interior รับออกแบบ บ้าน,
Architecture รับออกแบบ บ้าน, ตกแต่งบ้าน, ตกแต่งภายใน, Mudahouse, ตกแต่งภายใน, รับเหมา ก่อสร้างบ้าน, บริษัท ก่อสร้าง
|