นายธีระพล หวังมนตรี ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการ บริษัท สยามพันธุ์วัฒนา จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เพื่อขานรับกระแส FTA หรือการแข่งขันภายใต้ระบบเขตการค้าเสรี บริษัทจึงตั้งรับให้บริษัทลูก คือ สยามพันธุ์ เอนเตอร์ไพรส์ จำกัด (มหาชน) เข้าร่วมทุนกับพันธมิตรต่างชาติเป็นครั้งแรก กับบริษัท เฟรเซอร์ เซอร์วิส เรสิเดนท์ จำกัด ซึ่งเป็นบริษัทลูกของกลุ่มเซ็นเตอร์พอยต์ ผู้นำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ที่จดทะเบียนในตลาดหุ้นสิงคโปร์ และเป็นเจ้าของเบียร์ไทเกอร์ น้ำอัดลมเฟรเซอร์ ฯลฯ ซึ่งเป็นนักลงทุนที่มีชื่อเสียงและเป็นที่ยอมรับของตลาดโลก "ต่อไปเราจะยืนเดี่ยวๆ คงไม่ได้ ส่วนหนึ่งเราต้องดึงพันธมิตรเข้ามาเกื้อกูล ใช้จุดแข็งแต่ละฝ่ายให้เป็นประโยชน์ เพื่อเพิ่มมูลค่าทางธุรกิจ" นายธีระพลกล่าว สำหรับอาคารสูงโครงการแรกที่จะมีการร่วมทุน ชื่อโครงการหลังสวน วิลล์ มูลค่า 1,700 ล้านบาท ซึ่งบริษัทได้ซื้อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (NPL) มาจากบริษัทเงินทุนทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นตึกสร้างค้างขนาดใหญ่ที่ บง.ทิสโก้ได้สิทธิการเช่าที่ดินระยะยาว 30 ปี จากสำนักงานทรัพย์สินส่วนพระมหากษัตริย์ ตั้งอยู่ในซอยหลังสวน กรุงเทพฯ ปัจจุบันโครงการหลังสวน วิลล์ หรือ "เฟรเซอร์ เพลส หลังสวน" อยู่ระหว่างเร่งก่อสร้างและตกแต่ง เป็นอาคารสูง 36 ชั้น มีทั้งหมด 262 ยูนิต จะแบ่งการใช้พื้นที่ 2 ส่วน ส่วนแรกเป็นคอนโดมิเนียมเพื่อขาย 131 ยูนิต อีก 131 ยูนิตปรับเป็นเซอร์วิสอพาร์ต เมนต์ให้เช่า บริหารโดยแบรนด์ "เฟรเซอร์ฯ" นายธีระพลกล่าวอีกว่า นอกจากโครงการหลังสวน วิลล์ แล้ว บริษัทจะร่วมทุนกับเฟรเซอร์เป็นโครงการที่สอง คือ คอนโดมิเนียม "เออร์บาน่า สาทร" มูลค่า 2,400 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างก่อสร้างเช่นกัน และใช้โมเดลเดียวกันกับโครงการแรก นั่นคือ แบ่งสัดส่วนยูนิตร้อยละ 50 : 50 จาก 280 ยูนิต เป็นคอนโดฯเพื่อขายและเซอร์วิสอพาร์ต เมนต์ให้เช่า "เท่าที่คุยกัน กลุ่มเฟรเซอร์ฯมีนโยบายจะเลือกโครงการที่มีโลเกชั่น (ทำเล) อยู่ในเมืองจริงๆ ไม่เกิน 2 ตึก ส่วนลูกค้าเป้าหมายเราจะเจาะตลาดต่างชาติเป็นหลัก ดังนั้นเศรษฐกิจในเมืองไทยจะดีหรือไม่ดี คงไม่มีผลกระทบกับเรามากนัก เพราะกำลังซื้อส่วนใหญ่มาจากนักธุรกิจและนักลงทุนต่างชาติ" นายธีระพลกล่าวย้ำ รายงานข่าวเปิดเผยว่า กลุ่มเฟรเซอร์ เพลส จากสิงคโปร์ โดยมิสเชีย ชิน คิม ผู้จัดการทั่วไป จะเปิดตัวครั้งแรกในประเทศไทยวันที่ 20 กรกฎาคมที่จะถึงนี้ "เรายินดีที่จะมาเปิดตลาดในไทย ตามเป้าหมายเราจะขยายตลาดในภูมิภาคเอเชียให้มากขึ้น นอกจากประเทศไทยแล้ว เราจะไปประเทศจีนโดยมุ่งเข้าสู่เมืองใหญ่ๆ เช่น ปักกิ่ง กว่างโจว หนานจิง เฉิงตู และเซี่ยงไฮ้" มิสเชีย ชิน คิม กล่าว และให้เหตุผลว่า กรุงเทพฯเป็นศูนย์กลางธุรกิจและเป็นเมืองท่องเที่ยวที่ต่อเชื่อมกับเมืองใหญ่ๆ ได้สะดวก ทางเฟรเซอร์ฯจึงใช้โอกาสนี้มาเปิดตลาดให้บริการเช่าที่พักสำหรับชาวไทยและต่างชาติในรูปแบบสัญญาระยะสั้นและระยะยาว รวมทั้งผู้ที่มาท่องเที่ยวระยะสั้นก็สามารถเลือกใช้บริการที่ "เฟรเซอร์ เพลส หลังสวน" ได้เช่นเดียวกับโรงแรมทั่วไป นายโจ เป็ง ซัม ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มเฟรเซอร์ เซอร์วิส เรสิเดนท์ ระบุว่า ในฐานะผู้นำด้านบริการที่พักในตลาดโลก บริษัทจะเน้นบริการใหม่ๆ โดยเฉพาะเทคโนโลยีไร้สายที่ต่อตรงทุกยูนิตและความปลอดภัยสูงสุดตลอด 24 ชั่วโมง โดยโครงการดังกล่าวจะเปิดให้บริการในเดือนตุลาคม 2548 อัตราค่าบริการที่พักรายเดือนเริ่มต้นที่ 72,000 บาทสำหรับห้องพักสตูดิโอ และเพนต์เฮาส์ขนาด 4 ห้องนอน ราคา 4.5 แสนบาท
|