ตลาดที่อยู่อาศัยเดือด บ้านใหม่อัดแคมเปญสนั่นงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯที่ศูนย์การประชุมสิริกิติ์ หวังกวาดลูกค้าทั้งกลุ่มที่ต้องการซื้อบ้านใหม่-บ้านมือสองให้เรียบ ชี้เศรษฐกิจ ราคาน้ำมัน เงินเฟ้อทำผู้บริโภคคิดหนัก จัดสรร-คอนโดฯพลาดเป้ายอดขายตรึม ต้องกัดฟันปั๊มรายได้ช่วงโค้งสุดท้าย สถานการณ์บีบบังคับให้ดีเวลอปเปอร์ ต้องแข่งแย่งลูกค้ากับโบรกเกอร์บ้านมือสองโดยปริยาย แม้ไม่ได้เป็นคู่แข่งขันกันโดยตรง แต่ภายใต้สถานการณ์เศรษฐกิจที่กำลังชะลอตัว บวกกับค่าครองชีพที่สูงขึ้นจากราคาน้ำมันและภาวะเงินเฟ้อ ซึ่งส่งผลกระทบต่อกำลังซื้อของผู้บริโภคอย่างรุนแรง บ้านใหม่กับบ้านมือสองจึงต้องแข่งกันเองอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ เพราะในช่วงที่คนซื้อบ้านต้องคิดละเอียดอย่างเวลานี้ โอกาสที่ลูกค้าซึ่งต้องการซื้อบ้านใหมจะเปลี่ยนใจไปซื้อบ้านมือสองที่อยู่ในทำเลที่ช่วยประหยัดค่าเดินทางได้มากกว่า หรือราคาถูกกว่า ย่อมจะมี พอๆ กับที่ลูกค้าบางคนคิดจะซื้อบ้านมือสองแต่เปลี่ยนใจไปซื้อบ้านใหม่ เพราะได้ข้อเสนอที่ดีกว่า ในขณะที่แรงจูงใจจากมาตรการยกเว้นภาษีและลดค่าธรรมเนียมในการซื้อบ้านมือสองของภาครัฐยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ หลังจากสูญเสียโอกาสในการขายบ้านมือสอง เพราะมาตรการรัฐยังไม่บังคับใช้ ทั้งๆ ที่ลูกค้าให้การตอบรับงานมหกรรมบ้านมือสองแห่งชาติ ที่จัดขึ้นในช่วงกลางเดือนกันยายนที่ผ่านมาดีเกินคาด ในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯที่จัดขึ้นในระหว่างวันที่ 27-30 ตุลาคมนี้ ที่ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ บ้านมือสองอาจถูกบ้านใหม่แย่งลูกค้าไปบางส่วนอีกครั้ง เพราะงานนี้ผู้ประกอบการอัดแคมเปญการตลาดดันยอดขายกันเต็มที่ เพื่อชดเชยรายได้ในช่วง 9 เดือนที่ผ่านมาซึ่งส่วนใหญ่พลาดเป้า แหล่งข่าวจากวงการอสังหาริมทรัพย์ให้ความเห็น "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า เป็นไปได้ที่ลูกค้าบางส่วนจะตัดสินใจบนทางเลือก 2 ทาง คือ อาจจะซื้อบ้านใหม่หรือบ้านมือสอง หากเงื่อนไขที่จะใช้ในการประกอบการตัดสินใจมีข้อเด่นและข้อด้อยที่ใกล้เคียงกัน หรือประเมินดูแล้วเห็นว่าสามารถที่จะยอมรับได้ เช่น การพิจารณาในเรื่องทำเล ราคา ขาย เป็นต้น อย่างไรก็ตาม ลูกค้าส่วนใหญ่คงไม่เปลี่ยนใจ เช่น คนที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ก็จะหาข้อมูลโครงการที่เกิดใหม่ในทำเลที่ต้องการแล้วนำมาเปรียบเทียบเป็นทางเลือก มากกว่าจะดูบ้านมือสองไปพร้อมๆ กับบ้านใหม่ ยิ่งลูกค้าระดับบนหากเป็นกลุ่มที่ไม่ได้ต้องการบ้านในทำเลใดทำเลหนึ่งจริงๆ และบังเอิญทำเลนั้นไม่มีโครงการใหม่ๆ เกิดขึ้น คงไม่หันไปซื้อบ้านมือสองแทนการซื้อบ้านใหม่ สำหรับการเสนอเงื่อนไขเพื่อดึงดูดใจลูกค้า เช่น การลด แลก แจก แถม ที่เวลานี้ถูกนำมาใช้ในตลาดบ้านมือหนึ่งจำนวนมาก อาจมีผลต่อการตัดสินใจบ้าง เช่นเดียวกับกรณีที่มาตรการสนับสนุนตลาดบ้านมือสอง ที่คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบให้ยกเว้นค่าอากรแสตมป์ และยกเว้นภาษีรายได้หัก ณ ที่จ่ายในการซื้อขายบ้านมือสอง และลดหย่อนค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และลดหย่อนค่าจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01% แต่ขณะนี้ยังไม่มีผลในทางปฏิบัติ ที่อาจมีลูกค้าบางส่วนรอไม่ไหว ตัดสินใจซื้อขายและโอนบ้านมือสองที่ซื้อไว้โดยไม่ได้สิทธิประโยชน์ หรือบางรายก็เปลี่ยนใจไปซื้อบ้านใหม่แทน โดยเฉพาะอย่างยิ่งในช่วงที่ตลาดบ้านใหม่มีการจัดแคมเปญดึงดูดใจลูกค้ากันเต็มที่อย่างขณะนี้ ต้องยอมรับว่าสีสันและลูกเล่นทางการตลาดที่ ผู้ประกอบการนำมาใช้ทำให้ตลาดบ้านใหม่คึกคักขึ้น ส่วนตลาดบ้านมือสองกลยุทธ์ที่นำมาใช้ในการส่งเสริมการขายจะเน้นเสนอเงื่อนไขให้ราคาพิเศษแก่ลูกค้า ฟรีค่าธรรมเนียมโอน หรือหากเป็นบ้านมือสองของสถาบันการเงิน ก็จะให้สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยและวงเงินพิเศษมากกว่าจะลดแลกแจกแถมแบบบ้านใหม่ นายสุนทร สถาพร กรรมการผู้จัดการ บริษัท เฉลิมนคร จำกัด เปิดเผย "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า กลุ่มลูกค้าที่เข้ามาเลือกซื้อบ้านในงานมหกรรมบ้านและคอนโดฯปีนี้แบ่งได้เป็น 2 กลุ่ม ได้แก่ กลุ่มแรก ที่ต้องการซื้อบ้านใหม่ และกลุ่มที่ตั้งใจจะซื้อบ้านมือ 2 แต่ยังไม่ตัดสินใจซื้อ เพราะรอมาตรการรัฐ โดยกลุ่มหลังมาร่วมงานเพื่อต้องการดูแคมเปญ หากผู้ประกอบการรายใดให้ส่วนลดที่ตรงใจ และราคาบ้านอยู่ในความสามารถจะซื้อได้ก็จะตัดสินใจซื้อ "ปีนี้ประชาชนจำนวนมากมาร่วมงานมหกรรมตั้งแต่วันเปิดงาน เพราะต้องการเลือกซื้อบ้านใหม่พร้อมกับแคมเปญส่วนลด ที่ผู้ประกอบการทุกค่ายนำมาเสนอ รวมทั้งได้แพ็กเกจสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำจากสถาบันการเงินด้วย คิดว่าคนเยอะเพราะกำลังซื้ออั้นมาตั้งแต่ต้นปี ทำให้งานดูคึกคักมากกว่าทุกปีที่ผ่านมา" นายสุนทรกล่าว และว่า "เท่าที่สังเกตเกือบทุกบูทลดแลกแจกแถมในราคาที่ใกล้เคียงกัน เมื่อนำมาคำนวณเป็นตัวเลขออกมาแล้วจะได้ส่วนลดเท่ากับบ้านมือสอง ตัวเลขเฉลี่ยอยู่ที่ 6% ของราคาบ้าน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งที่สร้างแรงจูงใจให้กลุ่มลูกค้าทั้งบ้านใหม่และบ้านมือสองสนใจที่จะซื้อบ้านในงานนี้" นายสุนทรกล่าว นายดลพิวัฒน์ ปรีดาวิภาต กรรมการผู้จัดการ บริษัท ธนาพัฒน์ พร็อพเพอร์ตี้ ดิเวลล็อปเมนท์ จำกัด กล่าวว่า โดยวัฒนธรรมของผู้บริโภคชาวไทยความนิยมในบ้านใหม่เป็นอันดับหนึ่ง เชื่อว่าลูกค้าที่มองบ้านมือสองไว้หากได้รับส่วนลดหรือ แคมเปญก็น่าจะตัดสินใจซื้อบ้านใหม่ในงานนี้ นายกนก เดชาวาศน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท โฮมเพลส กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ภาพรวมตลาดที่อยู่อาศัยขณะนี้อยู่ในภาวะทรงตัวไม่ได้แย่ลง ปัจจัยลบต่างๆ ที่เข้ามากระทบ ทั้งราคาน้ำมันที่เพิ่มสูงขึ้น อัตราดอกเบี้ย ภาวะเงินเฟ้อ ฯลฯ คลี่คลายลงแล้ว จะมีก็แต่ในเรื่องของอัตราดอกเบี้ยที่น่าเป็นห่วง เพราะเป็นปัจจัยที่มีผลต่อความ เชื่อมั่นและกำลังซื้อของผู้บริโภค สำหรับทิศทางอสังหาฯในปี 2549 ขึ้นอยู่กับรัฐบาลว่าจะสร้างการขยายตัวให้กับเศรษฐกิจโดยรวมได้มากน้อยแค่ไหน แต่บ้านระดับกลางจะมีการแข่งขันรุนแรงขึ้น |