ที่ตั้งอาคารที่ทำการรัฐสภาแห่งใหม่คงไม่พลิกไปจากโผที่อยู่ในมือ "โภคิน พลกุล" ประธานรัฐสภา เหลือแค่รอไฟเขียวจาก นายกฯ ทักษิณ ชินวัตร ทุกอย่างก็จะฉลุยเดินหน้าไปทันที ในที่สุดที่ดิน 400 ไร่ จากจำนวนทั้งหมดร่วมๆ 5,000 ไร่ บริเวณถนนบางนา-ตราด ก.ม. 32.5 ที่กลุ่มบริษัท กฤษดามหานคร จำกัด (มหาชน) จะยกให้ฟรีก็นอนมาแบบไม่มีคู่แข่ง แซงหน้าที่ดินซึ่งเป็นที่ตั้งของโรงงานบริษัทไทยเมล่อน ย่านรังสิต และที่ดินคลังแสง ย่านปากเกร็ด แบบไม่เห็นฝุ่น ชนิดที่ "วิชัย กฤษดาธานนท์" บิ๊กบอสเคเอ็มซี ไม่ต้องลุ้นให้เหนื่อย ไม่เสียทีเป็นมือชั้นเซียนของวงการอสังหาริมทรัพย์ แถมยังแนบแน่นกับฝ่ายการเมือง โดยเฉพาะพรรคความหวังใหม่ ที่แม้ปัจจุบันจะยุบรวมเข้ากับพรรคไทยรักไทย แต่ระดับแกนนำของพรรคหลายๆ คนยังได้รับความไว้วางใจ และใกล้ชิดกับ พ.ต.ท.ทักษิณ ที่ว่ากันว่าน่าจะเป็น ผู้ชี้ขาดว่าจะเลือกพื้นที่ใดเป็นที่ก่อสร้างรัฐสภา แห่งใหม่ ในจำนวนนี้ รวมถึงประธานรัฐสภาอย่าง "โภคิน" ที่เคยเป็นกุนซือคนสำคัญของ พลเอกชวลิต ยงใจยุทธ อดีตหัวหน้าพรรคความหวังใหม่ และอดีตนายกรัฐมนตรี จึงไม่แปลกที่ประธานรัฐสภาจะปิ๊งที่ดินแปลงงามย่านบางนา-ตราด ของกฤษดามหานครเป็นพิเศษ แม้จะยังไม่ฟันธงชัดเจนว่าจะเลือกแลนด์แบงก์ผืนดังกล่าวเป็นที่ตั้งของอาคารที่ทำการรัฐสภาแห่งใหม่เหมือนกับที่หลายๆ ฝ่ายคาดเดาไว้หรือไม่ "ที่ดินบริเวณคลังแสง ที่ปากเกร็ดตัดออกไปได้เลย เพราะติดกฎกระทรวงห้ามก่อสร้างอาคารสูงหรืออาคารขนาดใหญ่เกินกว่า 2,000 ตารางเมตร ส่วนที่ดินโรงงานไทยเมล่อน สภาพใช้ได้ แต่หนักใจปัญหาเรื่องสิ่งแวดล้อม" ประธานรัฐสภาให้เหตุผล
พร้อมกับระบุว่า คณะอนุกรรมการพิจารณาเรื่องการจัดหาที่ดินเพื่อก่อสร้างอาคารที่ทำการรัฐสภาแห่งใหม่ฟันธงว่า ที่ดินที่เหมาะสมที่สุดที่ จะใช้ก่อสร้างคือที่ดินในโครงการ "สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์" ของกฤษดามหานคร ที่ห่างจากสนามบินสุวรรณ ภูมิเพียงแค่ 18-20 กิโลเมตร เพราะสภาพพื้นที่ส่วนใหญ่ยังเป็นทุ่งนา ทำให้สามารถปรับผังเมืองและจัดวางภูมิทัศน์ต่างๆ ได้ง่าย แม้จะกล่าวตบท้ายว่า ถึงเวลานี้ก็ยังไม่ได้ตัดสินใจชัดเจนว่าจะเลือกที่ดินผืนดังกล่าว เนื่องจะต้องพิจารณาในรายละเอียดอีกหลายอย่าง อาทิ เรื่องการออกแบบ ดูทิศทางแดด ลม รวมทั้งเส้นทางคมนาคม ซึ่งกฤษดามหานครเสนอจะยกที่ดินสำหรับใช้ก่อสร้างถนนอีกถึง 286 ไร่ ก็เป็นที่ชัดเจนแล้วว่าที่ดินผืนไหนอยู่ในใจประธานรัฐสภา ก่อนหน้านี้ "บัญชา ยินดี" กรรมการผู้จัดการ บริษัท โกลเด้น เทคโนโลยี อินดัสเตรียล พาร์ค จำกัด บริษัทพัฒนาที่ดินอีกบริษัทหนึ่งของตระกูล "กฤษดาธานนท์" ซึ่งเป็นผู้ถือกรรมสิทธิ์ที่ดิน ผืนนี้ และให้สิทธิ์ในการพัฒนาแก่กฤษดามหานคร เคยกล่าวกับ "ประชาชาติธุรกิจ" ว่า ที่ดิน 700 ไร่ที่บริษัทเสนอให้ใช้เป็นที่ตั้งของรัฐสภานั้น เป็นที่ ดินที่มีศักยภาพ และเหมาะสมที่จะนำมาก่อสร้างอาคารที่ทำการรัฐสภามาก เนื่องจากอยู่บริเวณกึ่งกลางของที่ดินทั้งหมด ห่างจากถนนบางนา-ตราด ประมาณ 3 กิโลเมตรและห่างมอเตอร์เวย์กรุงเทพฯ-ชลบุรี ประมาณ 3 กิโลเมตร สามารถใช้เส้นทางเข้าออกได้หลายทาง ไม่ว่าจะเป็นถนนบางนา-ตราด มอเตอร์เวย์ ถนนรัตนโกสินทร์สมโภช
โดย 400 ไร่ จะใช้สำหรับก่อสร้างอาคารที่ทำการรัฐสภา อีก 300 ไร่ใช้ตัดถนนกว้าง 70 เมตร ระยะทางยาวประมาณ 6 กิโลเมตร จากบางนา-ตราด ทะลุมอเตอร์เวย์ โดยบริเวณที่ตั้งรัฐสภาความกว้างของถนนจะมีมากถึง 100 เมตร เพื่อความสง่างามและความปลอดภัย "ที่ดินแปลงนี้เราจะยกให้รัฐสภาฟรีๆ ไม่มีเงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น เพียงแค่รัฐบาลต้องลงทุนก่อสร้างสาธารณูปโภคเข้าไปเท่านั้น" หากไม่มีอะไรสะดุด "สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์" บิ๊กโปรเจ็กต์มูลค่าหลายแสนล้านบาทของ กฤษดามหานคร จะมีอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ช่วยเสริมภาพลักษณ์ตามที่ประมุขตระกูล "กฤษดาธานนท์" ฝันจะเนรมิตให้เป็นเมืองหนึ่งในอนาคต โดยกลางเดือนสิงหาคม 2548 ที่ผ่านมา กฤษดามหานครได้ลงนามเซ็นสัญญากับผู้แทนเขตปกครองใหม่ซิวเจียง ซีอาน ประเทศสาธารณรัฐประชาชนจีน วัตถุประสงค์เพื่อลงทุนพัฒนาโครงการบนที่ดินประมาณ 1,000 ไร่ มูลค่าร่วมๆ 20,000 ล้านบาทเป็นการนำร่อง รูปแบบโครงการจะเป็นสวนสนุกครบวงจร สำหรับรองรับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ สำหรับที่ดินส่วนที่เหลือตามมาสเตอร์แพลนที่วางไว้ จะมีโครงการหลากหลายรูปแบบทั้งสถานที่ราชการ ที่อยู่อาศัยทั้งแนวสูงและแนวราบ แหล่งธุรกิจการค้านานาชาติ แหล่งการเงิน เอ็นเตอร์เทนเมนต์ คอมเพล็กซ์ ช็อปปิ้งเซ็นเตอร์ สปอร์ตคอมเพล็กซ์ ฯลฯ โดยขณะนี้อยู่ระหว่างเจรจากับกลุ่มพันธมิตรทั้งไทยและนักลงทุนต่างชาติให้เข้ามาร่วมลงทุนในโครงการนี้ เบ็ดเสร็จแล้วน่าจะใช้ระยะเวลาใน การพัฒนาไม่น้อยกว่า 10 ปี "สุวรรณภูมิ เซ็นเตอร์" ก็จะกลายเป็นเมืองใหญ่แห่งใหม่ที่มีทุกอย่างรองรับสมบูรณ์แบบ
|